ททท.เปิดตัวกิจกรรม “Enjoy Local” จับมือพันธมิตรชวนเที่ยวเมืองรองได้ลุ้นได้แต้ม” กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองพร้อมสะสมแต้มชิงรางวัลพิเศษจาก ททท.

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ ห้อง Lancaster 3 โรงแรม Lancaster Bangkok กรุงเทพมหานคร นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นางสุกัญญา วนิชจักร์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถ ดิจิตอล มีเดีย จำกัด นางสาวเพลินพิศ โกศลยุทธสาร  ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการตลาด บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด มหาชน (มหาชน) นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการ บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด นายพลกฤษณ์ ถมยา กรรมการผู้จัดการบริษัท อาร์ต อินสไปร์ จำกัด อาทิมา สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และนายนพพล อนุกูลวิทยา ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคมี ทัวร์ จำกัด ร่วมงานแถลงข่าว เปิดตัวกิจกรรม “Enjoy Local : จับมือพันธมิตรชวนเที่ยวเมืองรองได้ลุ้นได้แต้ม” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวหัวเมืองรองทั้ง 55 จังหวัด ให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในปี 2561  สร้างการกระจายรายได้ไปยังหัวเมืองรองเพิ่มขึ้นชัดเจนใน 6 เดือนแรก สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย สร้างการรับรู้ในแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองรองและชุมชนใหม่แบบวิถีท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้เป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวไปสู่เมืองรองและชุมชนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “หลังจากที่ ททท. ได้มีการประกาศแนวทางด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยกระตุ้นการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Go Local หรือ เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต” เพื่อกระจายโอกาสในเชิงพื้นที่ โดยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองและชุมชนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน

โดยจะเป็นการปรับสัดส่วนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติในพื้นที่เมืองหลักต่อเมืองรอง จาก 70:30 เป็น 65:35 ในปี 2561 อีกทั้งกระจายโอกาสในเชิงรายได้จากการท่องเที่ยวให้ลงสู่เศรษฐกิจฐานรากไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองรองและชุมชนอย่างคึกคักและต่อเนื่อง เพื่อให้การตลาดเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการเตรียมความพร้อมและพัฒนาพื้นที่สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสมดุลในทุกมิติ โดยแคมเปญ “Amazing Thailand Go Local : เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต”

ททท. โดยสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชน ดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการ“Amazing Thailand Go Local : เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต” ในกิจกรรม Enjoy Local เที่ยวชุมชนได้ลุ้นได้แต้ม ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจัดทำ Mobile Application “Trippointz” นำเสนอข้อมูลท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย

โดยนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการท่องเที่ยว เลือกสถานที่ที่น่าสนใจในจังหวัดต่างๆ พร้อมกับแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวให้ครบเบ็ดเสร็จในแอพพลิเคชั่นเดียว โดยจะอิงฐานข้อมูลที่มีอยู่ใน EDT Guide และฐานข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่เป็นทางการ นำมาใช้ประกอบการให้บริการในการวางแผนการท่องเที่ยว โดยฐานข้อมูลสามารถแนะนำในเรื่องของการท่องเที่ยวใหญ่ๆ แบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและที่พักระหว่างทาง และโรงแรมต่างๆ ซึ่งแอพพลิเคชั่นทริปพ๊อยท์สจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเกิดความสะดวกในการวางแผนการท่องเที่ยวโดยใช้เวลาออกแบบทริปเพียงไม่เกิน 5 นาที

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเก็บคะแนนสะสมจากการเดินทางท่องเที่ยว (TAT Point) โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดตามจุดท่องเที่ยว ที่พัก ที่รับประทานอาหารต่างๆ ในจังหวัดหัวเมืองรอง 12 เมืองต้องห้ามพลาด (ลำปาง เพชรบูรณ์ น่าน บุรีรัมย์ เลย สมุทรสงคราม ราชบุรี ตราด จันทบุรี ตรัง ชุมพร และนครศรีธรรมราช) เพื่อนำเอาคะแนนที่ได้จากการสแกนคิวอาร์โค้ดตามแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ มาใช้ในการแลกของรางวัลจาก ททท. ได้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรอง ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า ในหัวเมืองรอง 12 เมืองต้องห้ามพลาดนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยกิจกรรมนี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านท่องเที่ยวมากมาย อาทิ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด มหาชน (มหาชน) บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บริษัท อาร์ต อินสไปร์ จำกัด บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) และ บริษัท เทคมี ทัวร์ จำกัด 

 ​ททท. คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะสร้างการรับรู้ในแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองรองและชุมชนใหม่  ทำให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่นๆมากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในจังหวัดหัวเมืองรองให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ภายในปี 2561 ตามนโยบายและแผนของ ททท.  รวมถึงสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่ม กระจายรายได้อย่างยั่งยืน และครบวงจร