พระราชทานเพลิงศพ "อสม.พิษณุโลก" เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ "ภูเก็ต" ล็อกดาวน์เพิ่ม 3 พื้นที่ "กะทู้-ฉลอง-ศรีสุนทร" เข้มสั่งออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่น โคราชติดเชื้ออีก 2 รายกลับจากอังกฤษทั้งคู่ มุกดาหารจับฝ่าเคอร์ฟิวเมาแล้วขับ อ้างเป็นลูกสาวผู้ว่าฯ เมืองสองแคว
    เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ออกคำสั่งปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้, ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต และตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7  เม.ย.63 เป็นต้นไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งปิดพื้นที่ไปแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้, ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต และตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต
    รวมทั้งได้มีคำสั่งให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากที่พัก โดยระบุว่าผู้ใดที่จะออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง และห้ามกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ  ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในพื้นที่ จ.ภูเก็ตได้อย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนอาจเป็นความผิดตามมาตรา 51  แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.63 เป็นต้นไป
    คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  ว่ามีผู้ป่วยยืนยันแล้วจำนวน 126 ราย (รายใหม่ 3 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 36 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 89 ราย ในจำนวนนี้อาการรุนแรง 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย (ชาวฮังการี) ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
    สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 3 ราย มีรายละเอียดดังนี้ ผู้ป่วยรายที่ 124 ผู้หญิงชาวรัสเซีย อายุ 23 ปี ผู้ป่วยรายที่ 125 ผู้หญิงชาวคาซัคสถาน อายุ 26 ปี ผู้ป่วยรายที่ 126 ผู้หญิงชาวรัสเซีย อายุ 28 ปี ทั้ง 3 รายเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ป่าตองมานานกว่า 1 เดือน มีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้งและสัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยทั้ง  3 รายนี้อาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งเดียวกันในเขตป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และทั้ง 3 รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังไม่แสดงอาการป่วย ส่วนผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน
    นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 ซึ่งรับผิดชอบ 7  จังหวัดในภาคใต้ตอนบน รวมทั้งภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ค้นหาผู้มีประวัติเสี่ยงไปเที่ยวและไปทำงานในซอยบางลา เป้าหมายจะทำเป็นเฟสไป ช่วงแรกทำการสแกนสอบสวนเข้มข้นในพื้นที่บางลา ป่าตอง และขยายไปพื้นที่รอบป่าตอง กะทู้ ถลางที่เกี่ยวข้อง เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 2  เม.ย. ประมาณ 3 พันคน ตอนนี้ดำเนินการได้ 2 พันคนแล้ว ซึ่งจะทำให้ในช่วงนี้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อในภูเก็ตจะเพิ่มสูงขึ้นสักระยะ จากนั้นตัวเลขผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ 
นักท่องเที่ยวตกค้าง 3 พันคน
    นายภัคพงศ์กล่าวว่า มาตรการทางบกมีความเข้มข้นขึ้น มาตรการทางน้ำได้ปิดสนิทแล้ว ขณะที่มาตรการปิดช่องทางอากาศก็ไม่มีผู้โดยสารที่จะเดินทางมาภูเก็ตแล้ว ประกอบกับสำนักงานการบินพลเรือนฯ ให้งดใช้สนามบินภูเก็ต มีผลในคืนวันที่ 9 เม.ย.นี้ เวลา 00.01 น. ต่อเนื่องวันที่ 10  เม.ย.  สำหรับนักท่องเที่ยวตกค้างจำนวน 3,000 คนได้ประสานกงสุลแต่ละประเทศแล้ว และในคืนวันนี้จะมีเครื่องบินเปล่ามารับชาวฝรั่งเศสที่ตกค้างบินกลับประเทศฝรั่งเศส
    ที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดยะลาได้ทำการตรวจคัดกรองกลุ่มดาวะห์ที่กลับจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซียทั้ง 8 รายอีกครั้ง ซึ่งการตรวจอุณหภูมิทั้ง 8 รายในช่วงเช้า ไม่มีไข้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บประวัติอย่างละเอียด
    ที่ จ.พัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง กล่าวว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 12 ราย โดย 2 รายล่าสุดเป็นเด็กหญิงวัย 10 ขวบ และผู้หญิงอายุ 55 ปี ซึ่งติดเชื้อมาจากคนใกล้ชิดในครอบครัว ขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดและอำเภอได้ลงพื้นที่เฝ้าระวังบุคคลใกล้ชิดที่ติดเชื้อแล้ว
    ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นพ.รัฐภูมิ ชามพูนท รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย รศ.นพ.ศิริเกษม ศิริลักษณ์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, นายวิรัช ประวันเตา รักษาการผู้อำนวยการ สคร.เขต  2 ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 5 เป็นชายไทยอายุ 59 ปี เป็นบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีประวัติไปเฝ้ามารดาซึ่งเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคหลอดเลือดสมองและมีภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 23-25 มี.ค. และ 26-31  มี.ค. ซึ่งเดินทางโดยรถส่วนตัวตลอดเวลาขณะที่อยู่ในกรุงเทพฯ และตลอดการเดินทางไปกลับจากกรุงเทพฯ ถึงพิษณุโลก
    จากการซักถามผู้ป่วยพบว่า เมื่อมาถึงพิษณุโลกในวันที่ 1 เม.ย. ได้เข้าไปรับเอกสารในที่ทำงานมหาวิทยาลัยเพื่อนำกลับไปทำที่บ้าน หลังจากนั้นอยู่บ้านตลอดเวลา ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามลำตัวและไอตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จนกระทั่งทราบข่าวจากญาติว่าผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ของมารดาเป็นบวก ทำให้ผู้ป่วยเข้ามารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรในวันที่ 5 เม.ย.
      ทั้งนี้จากกรณีพบผู้ป่วยรายที่ 5 ติดเชื้อจากที่อื่นเข้ามาในพิษณุโลก ทำให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยได้ออกมาตรการเข้มข้น ห้ามบุคลากรมหาวิทยาลัยทุกคนเดินทางออกนอกจังหวัดโดยเด็ดขาด
      ที่เมรุวัดเนินมะเกลือ ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง เวลา 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานเพลิงศพนางทองใส เศรษฐสูงเนิน อายุ 61 ปี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เนินมะเกลือ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติงานประจำด่านคัดกรองหมู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้อัญเชิญไฟพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ท่ามกลางบรรยากาศภายในงานมีชาวบ้านและ อสม.มาร่วมแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก
     ขณะที่รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกได้ร่วมประชุมกับประธานชมรม อสม.ระดับอำเภอทุกอำเภอ เน้นย้ำให้ดูแล อสม.สูงอายุซึ่งมีจำนวนมาก หากมีอาการป่วยอยู่แล้วห้ามออกปฏิบัติงานที่ด่านชุมชนเด็ดขาด และ อสม.ที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ไม่เสี่ยงต่อการติดโรค
    ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 4 ของ จ.ขอนแก่น ที่เป็นหญิงอายุ 70 ปีนั้น จากการตรวจสอบอาการล่าสุดวันนี้ทีมแพทย์สรุปว่ามีอาการดีขึ้นตามลำดับอย่างมาก สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ คาดว่าไม่น่าเกิน 3 วันจะหายขาดและพิจาณาให้กลับบ้านได้
2 สาวไทยจากอังกฤษติดเชื้อ
    ที่ศูนย์บัญชาการตอบโต้เชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 18 ราย  สำหรับ 2 รายล่าสุด เป็นหญิงสาวอายุ 57 ปี และ 41 ปี โดยทั้งคู่ทำงานอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเดินทางกลับมาประเทศไทยพร้อมกันเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
    ที่จุดตรวจ 4 แยกไฟแดงเมืองใหม่ จ.มุกดาหาร ช่วงกลางดึกของการประกาศเคอร์ฟิวเมื่อคืนวันที่  6 เม.ย. เจ้าหน้าที่พบนายกันต์ธีร์ ตันเอี๋ยม อายุ 28ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.1 ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย  จ.มุกดาหาร ขับรถปิกอัพยี่ห้อ Nissan Navara สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 7449 มุกดาหาร โดยได้ขับฝ่าด่านเพื่อหนีจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ต้องขับรถไล่ติดตามไป และสามารถควบคุมตัวได้ที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในสถานีขนส่งเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และพบ น.ส.อภิญญา ขำสุภาพ อายุ 19 ปี  และ น.ส.เปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29 ปี ขับรถยนต์ BMW สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กธ 1986  กรุงเทพ โดยคนขับมีอาการมึนเมาสุราเอะอะโวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่พอใจที่ขอให้หยุดตรวจ โดยอ้างว่าเป็นลูกของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 7 เม.ย. นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้โพสต์ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ลูกของใครไม่สำคัญ ลูกชาวบ้าน ลูกกำนัน #ลูกผู้ว่า ถ้าผิดกฎเคอร์ฟิว# ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด ไม่มีข้อยกเว้นครับ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครครับ" ซึ่งปรากฏว่ามีประชาชนเข้ามาโพสต์แสดงความเห็นใจและให้กำลังใจผู้ว่าฯ เป็นจำนวนมาก
    ที่ จ.สุรินทร์ หมู่บ้านนิคม 3 ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท ได้ถูกสั่งปิดหมู่บ้านชั่วคราว 14 วันเป็นวันแรก จากกรณีที่นายอำพล พิลาดี อายุ 30 ปี ชาวบ้านตาเอกใหม่ ต.กันทรอม (กัน-ทะ-รอม) อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 เม.ย.63 ด้วยโรคโควิด-19 หลังเข้าพื้นที่หมู่บ้านนิคม 3 ต.โคกสะอาด  เพื่อมาทำงานก่อสร้างบ้านพักให้นายสุรศักดิ์ ใจพินิจ กำนันตำบลโคกสะอาด ซึ่งกำนันกลับไม่ยอมกักตัวแต่ปล่อยให้ใช้ชีวิตตามปกติ ตระเวนกินเหล้าเมายาในหมู่บ้านก่อนจะเสียชีวิต ทำให้ผู้ว่าฯ สุรินทร์สั่งพักหน้าที่และตั้งกรรมการสอบดำเนินการทั้งวินัยและอาญากำนันตำบลโคกสะอาดไปแล้ว และต้องกักตัวกลุ่มเสี่ยงอีก 42 คนนั้น
     พบว่าชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมมือกักตัวเองและทำกิจกรรมในครอบครัวอยู่ภายในบ้าน มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ตั้งเต็นท์ปิดหน้าและท้ายหมู่บ้าน 3 จุด เพื่อตรวจตราเฝ้าระวังไม่ให้ผู้คนเดินทางเข้าและออกเป็นระยะเวลา 14 วัน
      ที่ จ.นครพนม ภายหลังมีคำสั่งกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) พบว่ามีคนขับรถบรรทุกพร้อมเด็กท้ายรถคันละ 2 คน นำสินค้าข้ามแดนไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน แล้วกลับเข้าฝั่งประเทศไทยไม่ทันตามที่กำหนดคือ 5 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 22 คน จึงต้องถูกนำตัวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักกันเพื่อสังเกตอาการ ที่ศูนย์เรียนรู้ยางพารา จังหวัดนครพนม
    ที่ จ.ชลบุรี พลเรือโทวิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ พร้อมคณะทำงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลสนาม ภายในค่ายพักทหาร ศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ศฝ.สอ.รฝ.) ต.เกล็ดแก้ว อ.สัตหีบ โดยพลเรือตรีอุทัย ชีวะสุทธิ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ได้รายงานว่าเสร็จแล้วเกือบ 100% ซึ่งพร้อมเปิดใช้งานรองรับผู้ป่วยหากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลุกลามเข้าสู่ระยะที่ 3 โดยมีจำนวน 4 อาคาร  รองรับผู้ป่วยได้อาคารละ 80 เตียง รวม 320 เตียง.