รัฐบาลสหรัฐเตือนจีน อย่าฉวยโอกาสที่ทั่วโลกกำลังวุ่นวายกับการรับมือไวรัสโคโรนามาเอาเปรียบประเทศอื่นในการอ้างสิทธิเหนือดินแดนพิพาททางทะเลในทะเลจีนใต้ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วเวียดนามโวย เรือยามฝั่งของจีนจมเรือลากอวนเวียดนามใกล้หมู่เกาะพาราเซล

    เอเอฟพีรายงานว่า คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ที่ 6 เมษายน กล่าวโจมตีจีนว่า อาศัยความได้เปรียบในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังทุ่มเทสมาธิต่อสู้กับโรคโควิด-19 เร่งเพิ่มสถานที่ตั้งที่จีนอ้างเอาเองว่าเป็นสถานีวิจัย และส่งเครื่องบินพิเศษทางทหารมาลงจอดในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้

    มอร์แกน ออร์ทากัส โฆษกกระทรวง ระบุในแถลงการณ์ว่า สหรัฐเรียกร้องให้รัฐบาลจีนทุ่มเทสมาธิกับการสนับสนุนความพยายามของนานาชาติในการต่อสู้กับโรคระบาดของโลก และหยุดฉวยประโยชน์จากความไขว้เขวหรือความเปราะบางของประเทศอื่นๆ มาขยายการอ้างสิทธิอย่างผิดกฎหมายของจีนในทะเลจีนใต้

    รายงานกล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเวียดนามยื่นประท้วงรัฐบาลจีนภายหลังเรือของกองกำลังป้องกันชายฝั่งของจีน "ขัดขวาง, พุ่งชน และจม" เรือลากอวนของเวียดนามที่มีลูกเรือ 8 คน ใกล้กับหมู่เกาะพาราเซล

    หมู่เกาะนี้เป็นข้อพิพาทอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันระหว่างเวียดนาม, จีน และไต้หวัน คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเรียกร้องให้รัฐบาลจีนชดใช้ค่าเสียหายแก่ชาวประมง, ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด และป้องกันไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต

    รัฐบาลสหรัฐซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเวียดนาม แสดงความกังวลอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ดังกล่าว ออร์ทากัสระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นกรณีล่าสุดของการดำเนินการอันยาวนานของจีน เพื่ออ้างสิทธิทางทะเลอย่างผิดกฎหมาย และทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสียเปรียบในทะเลจีนใต้

    ช่วงที่ผ่านมา สหรัฐท้าทายการอ้างสิทธิ์ของจีนในทะเลจีนใต้หลายครั้ง ด้วยการส่งเรือและเครื่องบินเดินทางผ่านโดยอ้างเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในน่านน้ำสากล เดือนที่แล้วจีนกล่าวหาสหรัฐว่ากระทำการ "ยั่วยุ" ด้วยการส่งเรือพิฆาตติดมิสไซล์ ยูเอสเอส แคมป์เบล แล่นใกล้กับหมู่เกาะพาราเซลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากจีน

    หลายปีมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐตึงเครียดยิ่งขึ้นจากความขัดแย้งหลายประเด็น ซึ่งล่าสุดยังรวมถึงเรื่องโรคระบาดโควิด-19 ที่สหรัฐกล่าวโทษจีนว่าไม่ควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 รวดเร็วมากพอ ทำให้ลุกลามไปทั่วโลก โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วมากกว่า 1,347,000 คน เสียชีวิตมากกว่า 74,800 คน สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 368,196 คน เสียชีวิต 10,994 คน ขณะที่จีนมีผู้เสียชีวิต 3,335 คน จากผู้ติดเชื้อสะสม 82,697 คน.