เปิดยืนยันการเป็นสมาชิกพรรควันแรก ปชป.คึกคัก "มาร์ค" ยัน 72 ปี ปชป.อุดมการณ์ยึดมั่น ปชต.ไม่เคยเปลี่ยน ลั่นสมาชิกยังสนับสนุนหัวหน้าพรรค ใครออกนอกแถวไปหนุน "ประยุทธ์" ให้ไปทางเลือกอื่น "อนุทิน" แทงกั๊กหนุนนายกฯ คนนอก อ้างต้องดูสถานการณ์ "สุชาติ" เปิดบ้านเช็กขุมกำลังไร้เงาสมคิด ขณะที่ "ป๋าเหนาะ" หยาม "ลุงตู่" หากโดดเล่นการเมืองคงไม่ไหว เจอกระทู้หนักๆ หรือญัตติสำคัญจะยิ่งกว่าไส้เดือนถูกขี้เถ้า แนะหากอยากเป็นนายกฯ ให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติหยิบ รธน.ฉบับอื่นมาใช้แล้วเลื่อนเลือกตั้ง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันแรกในการยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 บรรยากาศการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. และแกนนำพรรค อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์, นายจุติ ไกรฤกษ์ ส่วนอดีตแกนนำ กปปส. อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส. และสมาชิกพรรค ต่างทยอยเดินทางมาที่พรรคเพื่อยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคกันอย่างเนืองแน่น ขณะที่บางคนที่เคยบวชทำให้ขาดสมาชิกภาพ เช่น อดีตแกนนำ กปปส. อาทิ นายอิสสระ สมชัย, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็มาแสดงตัวที่พรรคเช่นกัน
จากนั้น เวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์แถลงชี้แจงต่อสมาชิกพรรคว่า การจะให้สมาชิกพรรคยืนยันตัวตนเป็นสมาชิกกับพรรคต่อ เราต้องบอกแนวทางให้รู้ว่าทิศทางของพรรค ปชป.ยุคใหม่จะเดินไปทางไหน เพื่อให้มาร่วมทางกับเรา วันที่ 6 เมษายน พรรคจะมีอายุ 72 ปี ที่ผ่านมาอุดมการณ์ชัดเจนไม่เคยเปลี่ยน ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ แต่ด้วยสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พรรคจึงต้องปรับตัวให้ทันกับโลกาภิวัตน์ และจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนสับสนในบทบาทของพรรคการเมือง พรรคจึงยืนยันยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่โปร่งใส เดินหน้าสร้างพรรคยุคใหม่ ให้เห็นว่าพรรคเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง
“จากนี้จะเดินหน้าระดมสมาชิกให้ได้จำนวนมากที่สุด พยายามทุกวิถีทางให้สมาชิกเดิม 2.5 ล้านคนกลับมายืนยันให้มากที่สุด และเมื่อ คสช.ปลดล็อกจะเดินหน้าหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด และพยายามให้มีสาขาพรรคให้มากที่สุด เพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะได้เป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง และจะเขียนข้อบังคับพรรคให้ที่ประชุมใหญ่เคารพการตัดสินใจของสมาชิกที่จะสามารถหยั่งเสียงในการเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง รวมทั้งจะให้สมาชิกมีโอกาสร่วมร่างนโยบายพรรคด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า พรรคมีแนวทางในการบริหารพรรค ภายใต้แนวทางการสร้างใหม่ ยึดหลักปฏิรูปเป็นพรรค ปชป.ยุคใหม่ ถึงเวลาที่จะต้องสร้างใหม่สังคมไทย ซึ่งไม่ใช่การรื้อทิ้ง แต่เป็นการต่อยอดและเรียบเรียงสิ่งที่ดีที่มีอยู่ให้เป็นระบบด้วยการลดอำนาจรัฐ และเพิ่มอำนาจประชาชน ซึ่งต่างจากการปฏิรูปที่ทำกันใน 3-4 ปีที่ผ่านมา เพื่อนำมาสู่ 1.เศรษฐกิจยุคใหม่ 2.การศึกษายุคใหม่ 3.การเมืองยุคใหม่ 4.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมยุคใหม่ และ 5.ระบบราชการยุคใหม่
ใครหนุน"บิ๊กตู่"ไปที่อื่น
ภายหลังนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนทำตามเจตนารมณ์จากการยืนยันสมาชิกพรรคควรจะรู้ว่าแนวคิดเป็นอย่างไร ส่วนสมาชิกที่เป็น กปปส. นอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศที่ลาออกไป และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ฯ ที่แสดงเจตนาว่าจะเป็นผู้ไปจดแจ้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ยังไม่มีอดีต ส.ส.ท่านอื่นมาบอกว่าจะไม่มาร่วมงานกับเรา วันนี้หลายท่านก็มายืนยันแล้ว
"ยืนยันว่าสมาชิกพรรค ปชป.ก็ยังสนับสนุนหัวหน้าพรรค ปชป.อยู่แล้ว ส่วนใครที่จะออกนอกแถวไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.นั้น ให้ไปทางเลือกอื่น ไม่ต้องมาที่นี่ เพราะมีพรรคอื่นรองรับเยอะแยะ ถ้าจะอยู่กับพรรค ปชป. ก็ต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรค ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งความเป็นไปได้ที่พรรค ปชป.จะสนับสนุนทหารเป็นรัฐบาลนั้น ต้องไปดูว่าทหารเข้ามาได้อย่างไร และมีกี่เสียง” หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว
ต่อมา น.ต.สุธรรม ระหงส์ ผู้อำนวยการพรรค ปชป.เปิดเผยว่า ยอดสรุปผู้ที่มาแสดงตนดังกล่าวเมื่อเวลา 16.00 น. มีจำนวน 1,308 คน แบ่งเป็นสมาชิกตลอดชีพ จำนวน 556 คน และสมาชิกแบบรายปี 752 คน รวมเงินค่าบำรุงพรรคทั้งสิ้น 1,187,200 บาท โดยตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.เป็นต้นไป สมาชิกพรรคยังสามารถมาลงทะเบียนดังกล่าวได้ ณ ที่ทำการพรรค ปชป. ถนนเศรษฐกิจ ในเวลาราชการ หรือที่สาขาพรรคทั่วประเทศ ทางพรรคพบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่บางคนนำบัตรมายืนยันว่าเป็นสมาชิกพรรค ปชป. แต่เมื่อไปตรวจสอบฐานข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่ามีชื่อเป็นสมาชิกพรรคอื่นด้วย จึงยังไม่สามารถลงทะเบียนกับเราได้ ต้องไปลาออกจากพรรคอื่น และต้องรอ คสช.อนุญาตให้พรรคการเมืองเปิดรับสมาชิกใหม่ คนเหล่านี้จึงจะมาเป็นสมาชิกพรรค ปชป. อีกทั้งยังมีความไม่ชัดเจนของ กกต.หลายเรื่อง แต่ก็ติดคำสั่ง คสช.ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจการใดๆ
“ปัญหาทั้งหมดเป็นเพราะความไม่ชัดเจนของกติกาของ คสช. และความไม่ชัดเจนในการนำมาปฏิบัติของกกต. ที่ไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่ออำนวยความสะดวกให้พรรคการเมืองตามกฎหมายที่ให้ กกต.มีหน้าที่ต้องทำพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง มีแต่ตีความเข้าข้าง คสช.ตลอด ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคำสั่งเหล่านี้ขัดกันเอง บางเรื่องไม่สามารถปฏิบัติ สร้างความสับสนและเป็นภาระให้ประชาชนและพรรคต่างๆ เขาสั่งอะไรมา กกต.ก็ไม่มีปากเสียง อย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์ที่ กกต.จะอยู่ต่อ” น.ต.สุธรรมกล่าว
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ยืนยันว่า ยังคงทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรค ปชป. และที่เดินทางมาที่พรรค ก็เพื่อยืนยันในส่วนนี้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคได้ เพราะขาดสมาชิกภาพตั้งแต่ตอนที่บวช ดังนั้นจึงต้องรอจนกว่า คสช.จะปลดล็อก ทั้งนี้แม้จะเคยร่วมอุดมการณ์ต่อสู้เคลื่อนไหวกับนายสุเทพมา ก็ไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ เพราะภารกิจนั้นสิ้นสุดลง หลังจากที่มีการรัฐประหาร ผู้ที่เคยร่วมต่อสู้ ก็สามารถสานต่อเจตนารมณ์ ตามความถนัดของแต่ละคน ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคเก่าหรือตั้งพรรคใหม่ ทุกคนทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่มีอะไรบาดหมางกัน ถือเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองไหน
“ขอยืนยันว่า อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะสานต่อเจตนารมณ์ของพรรค ที่จะร่วมกันปฏิรูปเปลี่ยนแปลงพรรคให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ตามที่หัวหน้าพรรคประกาศไว้ โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ” นายเอกณัฏ กล่าว
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กล่าวว่า แม้จะกลับมาอยู่กับพรรค ปชป. แต่ยังเดินหน้าปฏิรูปประเทศและปฏิรูปพรรค เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง
"อนุทิน"แทงกั๊ก
ส่วนความเคลื่อนไหวสำหรับการเปิดรับเอกสารยืนยันความเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย (พท.) วันที่ 2 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกในการเปิดยืนยันสมาชิก โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า เราได้จัดบริเวณชั้นล่างของที่ทำการพรรค คือ บริเวณส่วนด้านหลังห้องสมุดชินวัตรไว้รับสมาชิก เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้างขวางพอสมควร สามารถจุคนได้หลักร้อย แต่หากมามากเกินกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา เราสามารถเปิดขยายพื้นที่ได้ นอกจากนี้ เรายังจัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำตลอดช่วงเวลา และอาจมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นนักการเมืองผลัดกันมานั่งประจำจุดเพื่อคอยให้ความรู้แก่สมาชิกด้วย
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเปิดให้สมาชิกเดิมมายืนยันความเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. แต่สมาชิกส่วนใหญ่จะเดินทางมายืนยันการเป็นสมาชิกกันวันที่ 4 เม.ย. ในวันดังกล่าวจะจัดให้มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรคในเทศกาลวันสงกรานต์ คิดว่าอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทุกคนจะเข้ามายืนยันความเป็นสมาชิก คงไม่มีใครไปไหน
เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯประเมินว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า ทางพรรคยังไม่ได้มีการประเมิน แต่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ เพราะประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดยังให้ความนิยมพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก เพราะติดอกติดใจในนโยบายของพรรคตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน เพราะนโยบายต่างๆ เป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริง
ที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 09.00 น. ได้จัดงานทำบุญพรรคภูมิใจไทย ก้าวสู่ปีที่ 10 โดยบรรยากาศในช่วงเช้า มีบรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มาร่วมทำบุญเลี้ยงพระกันอย่างคึกคัก มีพรรคการเมืองต่างๆ ส่งตัวแทนนำกระเช้าดอกไม้มามอบเพื่อแสดงความยินดี อาทิ พรรคเพื่อไทย โดยนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรค, นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา และตัวแทนพรรคชาติพัฒนา
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ได้มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันปีใหม่ไทยอีกด้วย และให้อดีต ส.ส. และสมาชิกของพรรคได้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้พรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้ง แต่ขึ้นอยู่กับ คสช.ที่จะปลดล็อกข้อห้ามต่างๆ ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ในส่วนของพรรคพร้อมรับกฎกติกาทุกอย่างภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และพรรคหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในบ้านเมือง พร้อมให้ความร่วมมือทุกองค์กร ให้เกิดความสงบสุข และให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นเร็วที่สุด และให้ความมั่นใจว่าสมาชิกและผู้สมัครของพรรคจะปฏิบัติตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช้วิธีสกปรก ก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้น เพียงเพื่อให้เกิดการได้เปรียบในการชิงพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรค จะแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เห็นนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ พี่ชายกับหลานชายนายสุชาติและทีมงานก็ยังมาที่พรรค ส่วนจากพรรคอื่นคงต้องรอดูความชัดเจนจนถึงช่วงรับสมัครเลือกตั้ง แต่ในขณะนี้ทีมงานจังหวัดพิจิตร นำโดยนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยืนยันมาอยู่พรรคภูมิใจไทยแน่นอน
เมื่อถามว่า มีพรรคทหารประสานงานหรือจะมีการจับมือกับพรรคทหารหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หากพรรคการเมืองใดมีอุดมการณ์เดียวกันที่ทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข มีความมั่นคงเกิดขึ้นได้ ยึดตามกติกา ก็พร้อมที่จะร่วมด้วย แต่หากพรรคใดทำให้เกิดความขัดแย้งที่ทำให้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้ ก็ไม่ร่วมด้วย
"พรรคภูมิใจไทยต้องยึดกฎกติกาที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ แล้วต้องดูสถานการณ์ตอนนั้นด้วย และยืนยันว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้เราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรผูกมัดตัวเอง" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีหาก พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ คนนอกพร้อมจะสนับสนุนหรือไม่ และยืนยันว่า ทางพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส. 350 เขต และมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิม
"เสนาะ"หนุนรบ.แห่งชาติ
ส่วนบรรยากาศบริเวณบ้านพักริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ย่านนนทบุรี ซึ่งมีข่าวว่านัดอดีต ส.ส. และจะเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงสาย มีอดีต ส.ส.ในกลุ่ม อาทิ นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร, นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา, นายสรชาติ สุวรรณพรหม อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น ทยอยเดินทางมารอที่บ้าน ก่อนที่นายสุชาติจะเดินทางเข้ามาที่บ้านพักในเวลา 12.00 น.พร้อมกับทักทายผู้สื่อข่าว โดยที่นายสมคิดไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วยตามที่มีกระแสข่าว
นายสุชาติกล่าวภายหลังการหารือกับอดีต ส.ส.ว่า การพบปะกับอดีต ส.ส.เพื่อหารือเกี่ยวกับการจะนำเสนอนโยบายส่งเสริมสุขภาพประชาชนแห่งชาติ (สสปช.) ให้รัฐบาลพิจารณา โดยจะเสนอผ่านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือผ่านทางนายกฯ การพูดคุยในวันนี้ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมือง ดังนั้นไม่ผิดกฎหมาย ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น คงต้องรอให้ถึงเวลาที่มีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ก่อนจึงจะตัดสินใจ ขณะนี้ถือว่าตนเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอยู่ และมีเวลาอีก 30 วันที่จะตัดสินใจในการยืนยันเป็นสมาชิก
ผู้สื่อข่าวถามกรณี พล.อ.ประยุทธ์จะลงเล่นการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายสุชาติกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ทำไมต้องห้าม หากมาตามระบอบประชาธิปไตยยิ่งดีใหญ่ จะไปห้ามทำไม เพราะประชาชนจะได้มีทางเลือก
"ยังไม่มั่นใจว่าจะไปร่วมงานหรือไม่ แต่หากมีการแข่งขันกันสูง ผมจะพิจารณาถ้าชาวบ้านเรียกร้อง แต่ถ้าการแข่งขันไม่มากก็จะไม่ลง จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ไปสมัครแทน ส่วนนายกฯ หรือทหารจะไปตั้งพรรคหรือไม่นั้น ไม่เห็นจะต้องไปห้ามให้ประชาชนเลือก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนว่าเขาจะเลือกหรือไม่เลือก ส่วนที่มีข่าวว่านัดนายสมคิดมาทานข้าววันนี้นั้น ไม่ได้นัด ไม่รู้ใครปล่อยข่าว ไม่เคยมากินข้าวกันที่นี่ เคยเจอกันแต่ตามร้านอาหาร ก็เป็นธรรมดาเหมือนที่นายสมคิดพูดว่าเจอได้ทุกคน คุยได้ทุกคน" นายสุชาติกล่าวถึงโอกาสที่จะไปร่วมงานกับนายสมคิดตามที่เป็นข่าว
ขณะที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์จะโดดลงมาเล่นการเมืองในนามพรรคพลังประชารัฐว่า ถือว่าเหนื่อยถ้ากระโดดลงมาหลังเลือกตั้งแล้วไม่เหมือนกับการบริงาน 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้เจอของจริงในสภา หากเจอแล้วคงจะไม่ไหว เพราะแค่เจอสื่อมวลชนยังหน้าบูดหน้าบึ้งมีอารมณ์ ทะเลาะกัน เหมือนกับไม่ดีต่อกัน ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ไปเจอกระทู้ในสภาหนักๆ หรือญัตติเรื่องสำคัญๆ จะยิ่งกว่าไส้เดือนถูกขี้เถ้าอีก
"พล.อ.ประยุทธ์อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะมีอำนาจพิเศษรองรับ ซึ่งไม่มีอะไรที่จะไปขวางการปฏิบัติงานของรัฐบาล คสช. มีแต่สื่อมวลชนเท่านั้น เมื่อไปจี้ถาม ซึ่งดีไม่ดีเดี๋ยวโดนเตะ ทั้งนี้ ผมให้กำลังใจรัฐบาลและ คสช. มาตลอด แต่หากพูดกันตรงๆ นายกฯ พูดเก่ง แต่งานจริง ๆ การบริหารบ้านเมืองมันตกต่ำมากพอสมควร หากพูดภาพรวมคือเสียหาย แม้แต่ต่างชาติก็แอนตี้ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลทำให้ถูกต้อง ยังไม่สาย เมื่อเสียเวลาแล้วก็เสียเวลาไป หากอยากเป็นนายกฯ ต่อก็ตั้งเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกของประเทศ ดังนั้นจะต้องเลื่อนออกไปก่อน ทางออกของรัฐบาลน่าจะหยิบ รธน.ฉบับใดฉบับหนึ่งมาใช้แทนเพื่อการเลือกตั้งจะดีกว่า รธน.ฉบับปัจจุบันที่มีปัญหา" นายเสนาะกล่าว
นายเสนาะกล่าวด้วยว่า ตระกูลเทียนทองยังจะอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาไปอย่างอื่น ตอนนี้ยังไม่มีพรรคอื่นมาทาบทาม ยังยืนยันที่จะอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะเป็นรุ่นก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาก่อนเมื่อปี 2543 และชนะเลือกตั้งมาทุกครั้ง
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า ขณะนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคที่จะสนับสนุนพรรคทหารก็เดินสายทำงานลงพื้นที่ หาตัวคนเพื่อเตรียมจัดตั้งพรรคแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่สัญญาณปลดล็อกพรรคการเมืองและการกำหนดวันเลือกตั้งยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ เดิมทีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าปลดล็อกพรรคการเมืองน่าจะเริ่มเดือนมิถุนายนนี้ แต่ถึงตอนนี้น่าจะเป็นไปได้ยากแล้ว ฉะนั้นแม้ตลาดการเมืองจะเริ่มคึกคัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเดินสู่การเลือกตั้งโดยไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ จะมีความขัดเจนก็ต่อเมื่อ คสช.ยกเลิกคำสั่งห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม และห้ามชุมนุมเกิน 5 คนเท่านั้น ถึงจะเห็นโรดแมปภาพรวมการเมืองได้อย่างชัดเจน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |