"ในหลวง-พระราชินี" ทรงห่วงใยประชาชน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พร้อมรับพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์และรับพระราชทานพระบรมราโชบาย ต้องเข้าใจสถานการณ์ มีความรู้เกี่ยวกับโรค มีแผนบริหารจัดการเผชิญเหตุ และมีระบบปฏิบัติที่ดี จะแก้ได้ถูกจุด บางทีต้องสละสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2563 เวลา 10.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข, ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
พร้อมทั้งรับพระราชทานพระบรมราโชบายและรับพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลเหล่าทัพ และโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อันจะช่วยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพพลานามัยของประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาโรคโควิด-19 ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้อย่างใกล้ชิด ทรงทราบว่า หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น โรงพยาบาลในประเทศไทยจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ จึงได้ทรงจัดหาพระราชทานให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อให้พร้อมรับมือกับโรคโควิด-19 อันจะเป็นประโยชน์แก่การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนต่อไป
โดยในเบื้องต้นนี้ได้พระราชทานเครื่องช่วยหายใจจำนวน 132 เครื่อง และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วจำนวน 50 เครื่อง ซึ่งบางส่วนได้ดำเนินการติดตั้งในโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังพระราชทานหน้ากากอนามัยจำนวน 2 ล้านชิ้น, หมวก Face Shield จำนวน 30,000 ใบ และชุดป้องกันการติดเชื้อโรค (PPE) จำนวน 4,000 ชุด แก่บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่างๆ ด้วย
ทั้งนี้ ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญที่จะต้องดูแลประชาชนให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ทรงถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน อันเป็นหน้าที่ที่ประชาชนชาวไทยทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายตรวจพระสุขภาพ โดยมีคณะผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทร่วมอยู่ในการตรวจด้วย ผลการตรวจปรกติ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง
ในการนี้ พระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ความว่า "ปัญหานี้เป็นปัญหาของชาติ เพราะเรื่องโรคระบาดไม่ใช่ความผิดของใคร เมื่อเกิดขึ้นแล้วเรามีหน้าที่ดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด ต้องมีความเข้าใจในปัญหา เข้าใจในสถานการณ์ และมีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็จะเข้าใจปัญหาได้เอง ถ้าเรามีแผนบริหารจัดการ แผนเผชิญเหตุ มีระบบการปฏิบัติที่ดี ก็จะแก้ไขได้ถูกจุด ในเวลาเดียวกันก็ต้องทำให้ประชาชนได้เข้าใจวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องและเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะการทำตามแผนปฏิบัติก็จะช่วยลดปัญหา เชื่อว่าจะแก้ไขและเอาชนะได้ ประเทศของเราถือว่าทำได้ดี
"น่าภูมิใจที่ทุกคนร่วมมือกัน โดยมีเป้าหมายว่าเราจะต้องสู้ให้โรคนี้สงบลงไป เพราะว่าโรคมาได้ก็ไปได้ โรคจะไปไม่ได้ ถ้าเราไม่แก้ไข บางทีต้องสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม มีความสันติ อดทน ก็จะแก้ไขปัญหาได้ อันนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |