สำหรับ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในปีหนูทองนี้ ต้องเจองานหนักพิษโควิด-19 ถือเป็นวิกฤติชาติในรอบร้อยปี 
    การแก้ปัญหาบางครั้งอาจไม่ถูกใจทุกคน แต่หากมองในภาพรวม สถานการณ์ของไทยก็จัดว่าดีกว่าหลายประเทศ ส่งผลให้ชาติตะวันตกเอ่ยปากชื่นชมระบบสาธารณสุขไทย
    กลับมาที่ "อนุทิน" ที่ผ่านมา อาจเห็นการแสดงออกและสื่อสารไม่เข้าตาท่านผู้ชม แต่สิ่งที่เห็นล้วนมาจากความกดดันหลังตั้งใจทำงานอย่างหนักและต้องการเห็นผลรวดเร็ว 
    เมื่อไม่นานมานี้ จึงเห็นเหตุการณ์นอตหลุดทัวร์ลง แต่ "อนุทิน" ก็แมนพอยืดอกขอโทษทีมแพทย์และบุคลากร สธ. และรับว่าตัวเองสื่อสารไม่ผ่าน ต้องปรับปรุง
    "เสี่ยหนู" รับรู้กระแสสังคมที่ส่องมาที่ตัวเขาเป็นอย่างดี หนทางเดียวที่จะกอบกู้สถานการณ์กลับมาได้ คือต้องทำงานหนักกว่าเดิมและแก้ปัญหาให้ตรงจุดด้วย
    อย่างเช่นความมหัศจรรย์ที่มอบของขวัญแก่เจ้าหน้าที่ สธ.บรรจุเป็นข้าราชการ 45,684 ตำแหน่ง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้นักรบชุดขาวต่อสู้กับโควิด-19 และยังวางรากฐานสังคมผู้สูงอายุของไทย  
    ความตั้งใจนี้ "อนุทิน" สะท้อนผ่านการเขียนสาระสำคัญด้วยลายมือตัวเอง บนกระดาษหลายแผ่น ก่อนเสนอ ครม.เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา 
    โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนับสนุนเต็มที่พร้อมกล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า "ผมในฐานะแม่ทัพ จะไม่ยอมให้กำลังหลักของเราต้องต่อสู้ภายใต้ความขาดแคลนไม่ได้อย่างเด็ดขาด และต้องมีขวัญกำลังใจที่เข้มแข็งอยู่เสมอเพื่อมีพลังเอาชนะวิกฤติครั้งนี้ให้ได้" 
    เรื่องนี้ ครม.จะเห็นชอบอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 เม.ย.นี้ 
    การแก้ปัญหาตรงจุด จึงทำให้ "อนุทิน" พลิกเกมกลับมาชนะใจชาว สธ. และรัฐบาลยังได้แต้มอีกด้วย
ช่างสงสัย