'พรรคก้าวไกล'สอนรัฐบาล7วิธีจัดงบปี64ตอบโจทย์ฝ่าวิกฤติโควิด


เพิ่มเพื่อน    

6 เม.ย. 63 -  เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในหัวข้อ "7 ข้อเสนอจัดงบประมาณแผ่นดินปี 64 อย่างมียุทธศาสตร์ พาไทยพ้นวิกฤต" โดยระบุว่า "ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2564 กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในเดือนหน้า และจะเริ่มใช้ในเดือนตุลาคม และคณะรัฐมนตรีเพิ่งจะมีมติเห็นชอบรายละเอียดงบดังกล่าวไปเมื่อไม่นานมานี้ เบื้องต้น พบว่างบประมาณเพิ่มขึ้นจาก 3.2 ล้านล้านบาท เป็น 3.3 ล้านล้านบาท

แม้ว่าในมติคณะรัฐมนตรีจะมีแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณให้คำนึงถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และภัยแล้งแล้ว แต่จากที่ทีมงานงบประมาณพรรคก้าวไกลสังเกตการณ์มาตลอด การจัดสรรงบประมาณปี 2564 ที่ปรากฏออกมาแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังยึดกรอบการทำงบประมาณแบบเดิมๆ เพียงแค่ปรับเพิ่มๆ ลดๆ แต่ละรายการนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญใหม่ และไม่ได้คิดคำนึงถึงวิกฤตที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างจริงจัง

ถ้าไม่มีการทบทวนงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2564 เราจะต้องพบกับปัญหาแบบเดิมๆ เหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นงบกลางหมดกระทันหัน ไม่มีเงินเยียวยาอีกต่อไป ไม่มีเงินซื้อหน้ากาก อุปกรณ์แพทย์ขาดแคลน จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มมหาศาล และอื่นๆ อีกนานับประการ
ถ้ารัฐบาลจะกู้เงินเพิ่ม มาใช้แก้ปัญหาโควิด19 หรือเยียวยาประชาชนเราไม่ขัด แต่ต้องใช้ประโยชน์จากงบประมาณประจำปีให้เต็มที่เสียก่อน ไม่ว่าจะเกลี่ยงบปี 63 หรือจัดงบปี 64 ใหม่ จะทำให้เม็ดเงินที่จะต้องกู้น้อยลงเพื่อการนี้ อดีต 7 กมธ. งบประมาณฯ และทีมงานพรรคก้าวไกลจึงระดมความคิดเกี่ยวกับวิธีการจัดสรรงบประมาณปี 2564 และได้กลั่นออกมาเป็น 7 ข้อเสนอดังนี้

1.งบประมาณฐานศูนย์ (Zero-based budgeting) สถานการณ์ในประเทศเปลี่ยนไปมาก ยังคงเป็นการทำงบโดยเอางบปีก่อนเป็นตัวตั้ง แล้วขยับตัวเลขขึ้นลงเพียงเล็กน้อย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานรัฐที่ไม่มีภารกิจเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ไม่ยอม “เฉือนเนื้อ” ตัวเอง ส่วนหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญโดยตรง กลับไม่ได้รับการเพิ่มงบในส่วนที่จำเป็น

2.จัดลำดับความสำคัญใหม่ งบประมาณปี 2563 ตั้งเป้าหมายประเทศไทยเป็นประเทศรายได้สูง ปีนี้เป้าหมายคือความมั่นคงด้านสุขภาพของทุกคน พร้อมรับมือกับผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้น และการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข เงินสำรองฉุกเฉิน กระทรวงพัฒนาสังคมฯ กระทรวงแรงงาน ควรได้รับความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

3.รีดให้เรียบ เรากำลังเผชิญกับปัญหา 2 ต่อ ต่อที่ 1 คือ วิกฤตโควิดที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สามารถหากินได้เช่นยามปกติ ต่อที่ 2 คือรายได้ที่เข้ารัฐ เช่น ภาษีก็จะลดลงด้วย เนื่องมาจากเศรษฐกิจชะลอตัว เราจึงจำเป็นต้องรีดไขมันยังสุดตัว ไม่เว้นแม้แต่ในหน่วยงานที่ควรได้รับความสำคัญเป็นพิเศษด้วย ซึ่งเท่าที่เราเห็น ยังมีงบอีกจำนวนมากที่สามารถตัดออกไปได้เลย เช่นงบดูงานต่างประเทศ งบสัมมนา งบรับรองแขก งบรถประจำตำแหน่ง ฯลฯ รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ไม่ตอบโจทย์ตอบสถานการณ์ตอนนี้ด้วย

4.เพิ่มงบกลาง พร้อมรับสถานการณ์ไม่แน่นอน วิกฤตการระบาดของโควิดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ในยามปกติเราไม่เห็นด้วยกับงบกลางขนาดใหญ่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในการสั่งจ่ายได้ตามอำเภอใจ แต่ในยามวิกฤตเช่นนี้ เราเห็นด้วยกับการเพิ่มงบกลางในส่วนของเงินสำรองฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการบริหาร พร้อมรับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา

5.เร่งปฏิรูประบบราชการในยามวิกฤต ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่ผ่านมาสะท้อนปัญหาว่ารัฐไทยไม่มีความสามารถในการจัดการกับวิกฤต จำเป็นต้องมีการเร่งปฏิรูป ถือเป็นโอกาสที่ดี ในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการ ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือในระบบการบริการสาธารณะ (digital government, national digital ID ฯลฯ)

6.ทบทวนสัญญาของงบผูกพัน ในสัญญาการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โครงการเมกะโปรเจกต์ที่ซ้ำซ้อน เกินความจำเป็น และไม่คุ้มค่า ยกตัวอย่างเช่น รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-หนองคาย พิจารณาสามารถที่จะยกเลิกได้หรือไม่ หรือสามารถเลื่อนกำหนดการส่งมอบ และการชำระเงินได้หรือไม่ อย่ากลัวว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะเราเคยทำลักษณะนี้มาแล้วในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540

7.รอบคอบในการก่อหนี้ผูกพันใหม่ จากนี้ประเทศจะยังจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก่อนจะก่อหนี้ครั้งใหม่ จำเป็นต้องคำนึงถึงภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้มีประโยชน์โดยตรงกับประชาชน ก็ไม่จำเป็นที่ต้องก่อหนี้ขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม ดังนั้นต้องคิดหน้าคิดหลังดีๆ ว่าการก่อหนี้แต่ละครั้งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติหรือไม่

ทั้งหมดนี้คือข้อเสนอจากพรรคก้าวไกล เราต้องการย้ำว่า งบประมาณปี 2564 จะต้องตอบโจทย์ 3 ภารกิจหลัก ดังนี้ 1) ควบคุมการระบาดไม่ให้เกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข 2) การยกระดับขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องช่วยหายใจ ยาและเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข ฯลฯ ตลอดจนระบบในการติดตามการรักษาพยายาลของผู้ป่วยอาการไม่หนักที่กักตัวรักษาตัวเองที่บ้าน 3) การพยุงเศรษฐกิจ การดูแลประชาชนตัวเล็กตัวน้อย และผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้พวกเราคนไทยทุกคนพ้นภัยเศรษฐกิจและพ้นภัยโควิดไปในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลต้องการเชิญชวนประชาชนทุกคนมาสะท้อนความคิดเห็นต่อการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2564 ว่าท่านอยากเห็นอะไร ไม่อยากเห็นอะไร อยากตัดตรงไหน อยากเน้นตรงไหน มาร่วมกันแสดงออกได้ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานงบประมาณที่ publichearing.bb.go.th/bbph64 (หรือสแกน QR Code ในช่วงท้ายของวิดิโอ) ภายในวันอังคารที่ 8 เมษายน 2563 นี้ จัดสรรงบให้เป็น แล้วจะเห็นประเทศไทยรอดพ้นวิกฤต”.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"