โพลตอกลิ่มรัฐบาล "บิ๊กตู่" สอบตกแก้วิกฤติไวรัสโควิด-19 ระบาด ไม่มั่นใจการบริหารควบคุมโรคได้ เผยคนไทยพฤติกรรมเปลี่ยนพร้อมใจอยู่บ้านเพื่อชาติ กิจกรรมยอดฮิตเล่นโซเชียลมีเดียกระฉูด ขอรัฐผ่อนผันเรือดำน้ำจีน
เมื่อวันอาทิตย์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี พฤติกรรมของคนไทยในภาวะวิกฤติโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 3,183 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.- 3 เม.ย.63 สรุปผลได้ดังนี้
จากผลการสำรวจพฤติกรรมของคนไทยในภาวะวิกฤติโควิด-19 พบว่า 1.พฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงในระดับมากขึ้น คืออยู่กับบ้าน 89.60% ในขณะที่พฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงในระดับน้อยลง คือทำงานที่ออฟฟิศ 42.26% และพฤติกรรมที่ไม่ได้ทำในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 คือ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง 56.49% และเที่ยวนอกบ้าน 54.38% ขณะที่การใช้โทรศัพท์ (คุย/เล่นโซเชียลมีเดีย) มีสูงถึง 59.16%
2.ประชาชนพึงพอใจในภาพรวมต่อการดำเนินงานของรัฐบาลกรณีโควิด-19 ณ วันนี้มากน้อยเพียงใด โดยระบุพอใจมาก 10.15% ค่อนข้างพอใจ 36.73% ไม่ค่อยพอใจ 34.02% ไม่พอใจเลย 19.10% และ 3.ประชาชนมีความมั่นใจต่อการบริหารจัดการของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เพียงใด ระบุว่ามั่นใจมาก 7.76% ค่อนข้างมั่นใจ 29.72% ไม่ค่อยมั่นใจ 40.18% ไม่มั่นใจเลย 22.34%
วันเดียวกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่องมิตรไมตรี จีน ไทย หยุดโควิด-19 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,073 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2563 พบว่าเมื่อถามถึงระดับความเสี่ยงติดเชื้อโควิดของคนไทย พบว่าจำนวนมากหรือร้อยละ 40.2 ระบุว่าเสี่ยงมากถึงมากที่สุด ในขณะที่เสี่ยงปานกลาง ร้อยละ 37.4 และเสี่ยงน้อยถึงไม่เสี่ยงเลย ร้อยละ 22.4
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงความเห็นกรณีรัฐบาลไทยเจรจากับนายสี จิ้นผิง ผู้นำประเทศจีน ให้ช่วยผ่อนผันเลื่อนการผ่อนจ่ายค่าเรือดำน้ำและอื่นๆ ออกไป เพื่อให้ประเทศไทยใช้เงินหยุดเชื้อโควิด-19ก่อน พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.8 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงการเจรจากับนายสี จิ้นผิง ให้รัฐบาลจีนรับซื้อสินค้าเกษตรและอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากประเทศไทย เป็นความช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอีกทางหนึ่ง พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.7 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ที่น่าพิจารณาคือ ประเทศที่เป็นมหามิตรกับประเทศไทยมากที่สุดในช่วงวิกฤติโควิด-19 คือจีน ร้อยละ 73.3 รองลงมาคือญี่ปุ่น ร้อยละ 8.0 กลุ่มประเทศยุโรปร้อยละ 4.4 อเมริการ้อยละ 3.4 ออสเตรเลียร้อยละ 0.5 อินเดียร้อยละ 0.4 รัสเซียร้อยละ 0.2 และอื่นๆ ร้อยละ 9.8 ตามลำดับ
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ในช่วงวิกฤติโควิดนี้ประเทศไทยมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการทุน ทั้งทุนทางสังคมและทุนทางเศรษฐกิจ แม้จะอยู่ท่ามกลางการสู้รบกับไวรัสโควิดนี้ ถ้านายสี จิ้นผิง ผู้นำประเทศจีน จะผ่อนผันให้รัฐบาลไทยเลื่อนการจ่ายเงินค่าเรือดำน้ำและอื่นๆ ออกไปก่อน หรือผ่อนในจำนวนที่น้อยลงโดยยืดเวลาออกไปอีกสักเล็กน้อย เพื่อนำเงินมาเป็นทุนในการเอาชนะโควิด และคนไทยคงจะมีความสุขมากขึ้นไปอีก ถ้าประเทศจีนจะสั่งซื้อสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นๆ จากประเทศไทยเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยหลังชนะสงครามโควิดครั้งนี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |