ว่าด้วย “คำถาม” แห่งอนาคต???


เพิ่มเพื่อน    

 

               ไปๆ-มาๆ...ท่านเชื้อโคโรนา ไวรัส Covid-19 ท่านออกจะเป็นอะไรที่ เอาเรื่อง ไม่น้อยทีเดียว จะไปดูหมิ่น ดูแคลน หรือดูเบา ท่านไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะใครก็ตามที่เคยปรามาส เคยประมาท ท่านไว้แต่แรก มาถึง ณ บัดนี้...ก็ล้วนแล้วแต่มีอันต้องหงายท้อง หลับกลางอากาศ ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กันไปเป็นแถบๆ...

                                     --------------------------------------------

                ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้นำอเมริกา อย่างประธานาธิบดี ทรัมป์บ้า ที่เคยคิดๆ หรือเคย ทวีต เอาไว้ประมาณว่า เมื่อไหร่ที่อากาศอุ่นๆ ขึ้นมา ท่าน Covid-19 ท่านคงสลายหายตัวลงไปเอง หรือไม่ได้น่าเกลียด น่ากลัว อะไรมากไปกว่า ไข้หวัดธรรมดาๆ ถือเป็นเรื่อง “Hoax” หรือเรื่องโกหก หลอกลวง ซะอีกต่างหาก ถ้าใครดันไปให้ความสำคัญกับเชื้อไวรัสตัวนี้ มากมายจนเกินไป แต่มาถึงบัดนี้ ตัวประธานาธิบดีอเมริกา ก็ชักเริ่มออกอาการ ประสาทแ-ก หนักยิ่งเข้าไปทุกที ด้วยเหตุเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้ตายจากเชื้อไวรัสตัวนี้ ได้ทำให้ประเทศอเมริกากลายเป็น จ้าวโรค เป็น ประมุขโรค ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...

                                       -------------------------------------------

                หรือญี่ปุ่น...ก็อาจคล้ายๆ กัน ด้วยความประมาท หรือความอะไรก็แล้วแต่ จากที่เคยพยายามดื้อไป-ดื้อมา กะจะจัด โตเกียวเกมส์ หรือ โอลิมปิก 2020 ให้จงได้ ตัวเลขผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ เลยดูน้อยๆ ชาวซามูไรยังกล้าออกมาชมดอกซากุระบาน ออกมาร่อน มาแรด กันโดยอิสระ เสรี ตามสมควร มาถึง ณ บัดนี้ เท่าที่นั่งดูข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เมื่อสองวันก่อน ข่าวคราวว่าด้วยแนวโน้มที่จะทำให้ญี่ปุ่น หรือกรุงโตเกียว กลายเป็น นิวยอร์ก 2 กลายเป็นคู่ชิงเหรียญเงิน เหรียญทอง กับอเมริกา ในเรื่องจำนวนผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ โคโรนาไวรัสตัวนี้ ก็น่าจะส่งผลให้ผู้นำญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ คงต้องเบะแล้ว เบะอีก อย่างมิพึงต้องสงสัย...

                                     ----------------------------------------

                คือตัวของ ตัวไวรัส นั้น...ว่าไปแล้ว ท่านคงไม่ถึงกับน่าเกลียด น่ากลัว มากมายซักเท่าไหร่ ติดได้-ก็หายได้ จำนวนผู้ที่ต้องตายเพราะเชื้อตัวนี้ ก็แค่ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง แต่สิ่งที่ออกจะน่ากลัวยิ่งไปกว่านั้น ก็เห็นจะเป็น ผลกระทบ หรือ ผลข้างเคียง ที่ท่านได้นิรมิตและสร้างสรรค์ตามมา ซึ่งออกจะน่าขนลุก ขนพอง เอามากๆ ชนิดทำเอา ระบบสาธารณสุข แต่ละประเทศ ต้อง เดี้ยง กันไปเป็นรายๆ ด้วยเหตุเพราะติดง่าย-ติดเร็ว จนหาเตียง หาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือแม้แต่หาหน้ากาก มาสวมใส่ป้องกันแทบไม่ทัน ดังนั้น...เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ตาย มันพุ่งพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปเป็นหมื่นๆ แสนๆ ผลกระทบที่ตามมาก็คือ ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด อันเป็นอะไรที่สุดแสนจะอ่อนไหว เปราะบาง อยู่แล้ว ก็เลยพังครืนลงไปเป็นแถบๆ!!!

                                         -----------------------------------------

                ตลาดหุ้นทั่วโลกเลยมีอันต้องเจ๊งแล้ว เจ๊งอีก ราคาน้ำมันปักหัวดิ่งแบบไม่คิดจะเงยหน้า อ้าปาก ขึ้นมาอีกเลย สิ่งที่เรียกว่า ห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain ถูกฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ ไปจนถึง ความเป็นสังคม อย่างที่อาจารย์ ธีรยุทธ บุญมี ท่านนำมาใช้เรียกขาน ถูกโจมตีจนไม่สามารถประกอบกิจกรรม กิจการใดๆ ตามปกติได้อีกต่อไป ต้องโซเชียล ดิสแทนซิง ฟิซซิเคล ดิสแทนซิง ต้องหันมาใช้ ยาสีฟันไกลห่าง กันในแต่ละหน่วย แต่ละอณูของสังคม ตั้งแต่ระดับครอบครัว ไปจนถึงระดับประเทศ หรือระดับโลก เอาเลยถึงขั้นนั้น ฯลฯ....

                                   -------------------------------------------

                ส่วนอะไรคือที่มา-ที่ไป คือประวัติความเป็นมาของเชื้อไวรัสตัวนี้นั้น...อันนี้นี่แหละ ที่ออกจะน่าสนใจเอามากๆ คือถ้าหากท่านเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ คิดค้น ขึ้นมาด้วยฝีมือมนุษย์ คงต้องเรียกว่า...ช่างเป็นอะไรที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ เป็นอย่างยิ่ง สามารถวางหมาก วางกับดัก เอาไว้ในระดับ 3 ชั้น 8 ชั้น จนอะไรต่อมิอะไรต้อง พัง กันไปแทบทั้งโลก แต่เท่าที่เชื่อได้ และพิสูจน์ได้ ว่ากันว่า...ท่านน่าจะมีที่มา-ที่ไปจากการประดิษฐ์ คิดค้น ของ ธรรมชาติ นั่นแหละเป็นหลัก เพราะท่ามกลางการออกฤทธิ์ ออกเดช ของท่าน ก็แทบไม่มี มนุษย์ รายใด ที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ หรือเป็น ฝ่ายชนะ เอาเลยแม้แต่น้อย...

                                    -----------------------------------------

                ดังนั้น...สิ่งที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้น ก็คือว่า แล้วเป็นเพราะด้วยเหตุใด หรือทำไม??? ธรรมชาติ ท่านถึงได้จงใจประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา อันถือเป็น คำถาม ที่น่าแสวงหา คำตอบ เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับบรรดาผู้ที่ฝักใฝ่ สนใจ ในการฝึกปรือ อบรม สติและปัญญา ทั้งหลาย ให้เฉียบขาด แหลมคม ยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะใครก็ตาม...ที่สามารถหา คำตอบ เหล่านี้ออกมาได้ ผู้นั้น...ย่อมเป็นผู้ที่สามารถให้คำตอบ ถึงคำถามยากซ์ซ์ซ์ๆ อีกเป็นจำนวนมากมาย ที่กำลังตั้งท่า รอคอย อยู่ในอนาคตเบื้องหน้าอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล...

                                     -------------------------------------------

                ไม่ว่าจะเป็นคำถามอันว่าด้วย...ระบบโลก หรือ ระเบียบโลก ในอนาคตข้างหน้าจะเป็นไปในแนวไหน อย่างไร? ใครกันแน่!!! ที่จะผงาดขึ้นมาเป็น จ้าวโลก หลังจากที่บรรดา จ้าวโรค ทั้งหลายหมดสภาพลงไปแล้ว อะไรคือระบบการเงิน ระบบเศรษฐกิจ หลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่าง พ้นยุคทุนนิยม (Post Capitalism) ไปอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ฯลฯ บรรดาผู้ชอบนั่งคิด นอนคิด ทั้งหลาย น่าจะอาศัยช่วงเวลาระหว่างที่ กักตัวเองเอาไว้ในบ้าน ลองตั้งโจทย์ แก้โจทย์ กันไปพลางๆ ย่อมดีกว่าการเสียเวลาไปโพสต์โน่น โพสต์นี่ แชทโน่น แชทนี่ ด่าโน่น ด่านี่ ที่เผลอๆ...อาจต้องติดเชื้อ ไวรัสทางความรู้สึก เข้าไปอีกต่างหาก...

                                    --------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Malcolm Hein... “There is little room for wisdom when one is full of judgment. – จะเหลือพื้นที่ให้กับ...ปัญญา...น้อยมาก ตราบใดที่คนเรามีแต่...คำตัดสิน...”

                                    ---------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"