เสียงสะท้อนนี้ต้องรับฟัง
ช่วงตลอดสัปดาห์มานี้มีคนไทยที่ไปใช้ชีวิตในยุโรปอเมริกาจำนวนไม่น้อย เล่าประสบการณ์ "โควิด-๑๙" ที่เขาเจอผ่านโซเชียล ทำให้รู้ว่า การเกิดเป็นคนไทยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยในยามวิกฤตินั้นโชคดีแค่ไหน
"คุณกิจจา บุรานนท์" อดีตคอลัมนิสต์ นิตยสาร "ดิฉัน" "พลอยแกมเพชร" พำนักที่นิวยอร์ก บอกให้คนไทยได้รู้ว่า สถานการณ์ที่นั่นเลวร้ายในขั้นรุนแรง
ยกคำพูดคุณหมอท่านหนึ่งมาเล่าต่อว่า "ศพทยอยกันออกมาเหมือนส่งกันมาทางสายพาน...
ตามท้องถนนเต็มไปด้วยห้องเย็นเก็บศพ"
คุณ Bebe Patumanon คนไทยในนิวยอร์กอีกคน เธอทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ ตำแหน่ง Physician Assistant (PA)
โพสต์เอาไว้น่าสนใจ
"อยากให้ทุกคนที่บ่นว่าเบื่ออยู่บ้าน รัฐบาลเส็งเคร็ง เลิกบ่นเถอะ เพราะเบื่ออยู่บ้านนั้นก็ยังดีกว่าออกมาทำงานด้วยความกลัว...กลัวตาย
...อยากจะบอกว่า ตอนนี้คนไข้ล้นโรงพยาบาล PPE ไม่พอ อันนี้ทุกคนรู้ แต่ที่คุณๆ ไม่รู้คือ การตายด้วยโรคนี้ เป็นการตายที่โดดเดี่ยวและทรมาน คนไข้พอ admitted แล้ว ครอบครัว ลูก ผัว พ่อ แม่ พี่ น้อง ห้ามเยี่ยมเด็ดขาด ตอนแรกอาการอาจจะไม่หนัก แต่พอมารวมแออัดกันกับคนไข้อื่นๆ ก็เกิดอาการ แบ่งเชื้อกันไปมา cross contaminated ที่ไม่หนักก็อาจจะเกิดเป็นอาการหนักขึ้น...
...Process of dying นี่แหละคือความน่ากลัว ไม่มียาฆ่าไวรัส ไม่มียารักษา รักษาตามอาการ ยาที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็เหมือนเสี่ยงดวง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดวง!!...
...อยากจะขอร้องให้ทุกคนร่วมมือกัน ถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อตัวเอง ก็ทำเพื่อคนอื่น หรือเพื่อชาติก็แล้วกัน..."
"บิ๊กต่อ" พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำข้อความจากเพื่อนที่อาศัยทางตอนเหนือของอังกฤษมาเล่าให้ฟังอีกทอด
"...มึงก็รู้ความยากของการเจอหมอของที่นี่...
...ยังไงหมอพยาบาลที่บ้านเราก็ยังดูแลดีกว่าที่นี่...
...บ้านเราดีฉิบหาย อ่านข่าวแล้วกูอิจฉา รู้สึกว่าหมอคนไทยโคตรเก่งเลย อยู่ใกล้จีนแต่ตัวเลขขึ้นช้า เป็นไงกูอยู่ไกลกว่าจีน ตายห่าไปกี่พันแล้ว คนไทยยังสิบกว่าอยู่เลย วันก่อนตายไป 5 ร้อยกว่าวันเดียว...
...ถ้าใครไม่เคยไปใช้ชีวิตนานๆ ที่ต่างประเทศ คุณไม่รู้หรอกว่าประเทศเราถึงจะเหี้ยจะโกงจะส้นตีนอะไร แต่ยังไงเราก็ยังเป็นคนชนชั้นหนึ่ง มีสิทธิ์ มีตัวตน บ้านเรายังมีศีลธรรม จริยธรรม และมีน้ำใจเสมอเวลาเกิดวิกฤติ... ...วิกฤตินี้จะรอดได้ต้องช่วยกัน พร้อมใจกัน วิกฤตินี้ทำให้ได้เห็นข้างในใจแต่ละคน มีทั้งพยายามช่วย บ้างพยายามขวาง นี่ไง...กรุงศรีถึงแตก เพราะมีคนเปิดประตูให้ข้าศึก ทำตัวแปลกแยกและเนรคุณแผ่นดินอยู่ในทุกยุคทุกสมัย...!!!"
ครับ....สถานการณ์ในยุโรป อเมริกา น่ากลัวกว่าบ้านเรามาก
ขีดเส้นใต้ร้อยเส้น มันน่ากลัวกว่ามากจริงๆ
คนไทยในต่างแดนถึงพยายามกลับประเทศ
และนั่นทำให้นักการเมือง และนักเคลื่อนไหว หลายรายหัวเสีย
โดยเฉพาะ "วัฒนา เมืองสุข" ที่ลูกสาวกลับไทยไม่ได้เนื่องจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) (ศบค.) มีมติให้ชะลอการเดินทางของคนไทยและคนต่างชาติที่จะเดินทางมายังประเทศไทย จนถึงวันที่ ๑๕ เมษายน
เสียงด่ามาเป็นชุด นายกฯ โง่เง่า รัฐบาลทำขัดรัฐธรรมนูญ ละเมิดปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ฯลฯ
ทั้งที่น่าจะรู้ว่าสาเหตุที่ต้องใช้มาตรการชะลอการเดินทางกลับไทย เนื่องจากช่วงหลังมานี้ผู้ติดเชื้อหลักในเมืองไทยคือ กลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ
"วัฒนา เมืองสุข" ให้ลูกสาวรออีก ๑๕ วันเป็นการช่วยชาติด้วยซ้ำ
๑๕ วันในการกักตัวที่อังกฤษ ถ้าไม่ติดเชื้อโควิด แล้วเดินทางกลับมา จะเป็นการลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ไทย ซึ่งพวกเขาแทบไม่มีเวลาพักอยู่แล้ว
อยากให้คนสมองมดที่เอาแต่ด่ารัฐบาล รับรู้ข้อเท็จจริงว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในไทยและโลกใบนี้
กองทัพซึ่งเป็นทีมสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ประเมินว่า หากอัตราการแพร่ระบาดของโรคยังไม่ลดลงจากปัจจุบัน จนถึงกลางเมษายน อาจเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลสาธารณสุขทั่วประเทศที่จะรับผู้ป่วยติดเชื้อได้
จึงจำเป็นต้องจัดที่จัดทางเพิ่ม เพื่อรับทั้งผู้ป่วยในไทย และคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังวันที่ ๑๕ เมษายน
เพราะรัฐบาลต้องดูแลคนไทยทุกคน
มันไม่ใช่เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
หรือตั้งใจทำผิดรัฐธรรมนูญ
หรือรัฐประหารเงียบ
มีแต่พวกโรคจิตที่คิดเช่นนั้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |