ธอส. เอาด้วย! ประกาศยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม “โอน-ถอนเงินข้ามเขต-ธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์” ผ่านตู้เอทีเอ็ม เคาน์เตอร์สาขาและอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง รับสูญรายได้ 50 ล้านบาท แต่ไม่กระทบภาพรวมรายได้
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ประกาศยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ทั้งการโอนเงิน-ถอนเงินข้ามเขต รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์ ผ่านตู้เอทีเอ็ม เคาน์เตอร์สาขา และอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง โดยจะมีผลพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.เป็นต้นไป ซึ่งยอมรับว่าอาจทำให้ธนาคารสูญเสียรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 50 กว่าล้านบาท แต่จะไม่มีผลกระทบต่อรายได้ภาพรวมของธอส. เนื่องจากช่องทางรายได้หลักของธนาคาร มาจากรายได้ดอกเบี้ยของสินเชื่อเป็นหลัก ส่วนค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี และการทำบัตรเอทีเอ็มยังคงเก็บเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ธอส.จะเริ่มปล่อยกู้โครงการสินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส ดอกเบี้ยคงที่ 10 ปีแรก ที่ 3.99% ต่อปี ให้กู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีผู้กู้ร่วมได้ เริ่มรับคำขอยื่นกู้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 เม.ย. 2561 ภายใต้กรอบวงเงิน 3 พันล้านบาท โดยหลังจากธนาคารประกาศจัดทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวพบว่ามีลูกค้าแสดงความสนใจที่จะเข้ามาติดต่อขอยื่นกู้จำนวนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ยาวนานถึง 10 ปีแรก นับเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ตอบโจทย์คนไทยภายใต้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
“สินเชื่อบุพเพสันนิวาส จะเป็นโครงการทดลองในการทำสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว เพราะถือเป็นดอกเบี้ยต่ำและยาวที่สุดในตลาด จากปัจจุบันที่ตลาดจะมีดอกเบี้ยคงที่แค่ 2 ปีเท่านั้น โดยยอมรับว่าสินเชื่อนี้อาจทำให้กำไรน้อยแต่ก็มีความเสี่ยงต่ำเพราะส่วนใหญ่บุคคลอายุเกิน 50 ปี จะมีรายได้และฐานะมั่นคง เห็นได้จากสถิติการเป็นหนี้เสียของลูกค้าช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป มีน้อยกว่า 1% ต่ำกว่าภาพรวมทั้งหมดของ ธอส.ที่มีหนี้เสีย 3% นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายการดูแลผู้สูงอายุในการเข้าสู่สังคมสูงวัย และหากสินเชื่อนี้ได้รับการตอบรับดี ในอนาคตธนาคารจะพิจารณาออกสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวอีก วงเงินอาจเพิ่มปีละ 1 หมื่นล้านบาท” นายฉัตรชัย กล่าว