4 เม.ย.63 -  นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาตำหนิมาตรการของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโควิด -19 จนทำให้บุตรสาวที่อยู่ในต่างประเทศไม่สามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ และออกมาตำหนิรัฐบาล ออกคำสั่งโง่ๆและบริหารแบบห่วยๆ ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามมาตรการของไทยที่ขอความร่วมมือให้ชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทยจนถึงวันที่ 15 เมษายน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ที่อาจจะกระจายอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นเช่นต่างประเทศ

นายสุภรณ์ กล่าวว่าส่วนประเด็นที่นายวัฒนา ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ออกข้อกำหนดเรื่องการกักตัวเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลมีหลักปฏิบัติอยู่แล้วว่า หากใครเดินทางเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัว14วัน รวมถึงประเด็นละเมิดสิทธิ ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลระมัดระวังในการออกมาตรการที่อาจจะกระทบสิทธิของประชาชนมาโดยตลอด และมาตรการส่วนใหญ่ยังป็นการขอความร่วมมือจากประชาชน ไม่ได้บังคับ ข่มขู่ เช่น ขอความร่วมมือนักเรียน AFS อย่าเพิ่งเดินทางกลับประเทศไทยตอนนี้ โดยให้สถานทูต สถานกลศุล ที่มีอยู่ทั่วโลกเพื่ออำนวยความสะดวก ระหว่างที่ต้องพำนักในต่างประเทศ

"นายกรัฐมนตรียังคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน แม้จะทำให้ชีวิตไม่สะดวกสบายเหมือนเดิม แต่จำเป็นต้องยอมเจ็บ เพื่อจะให้เรื่องนี้จบลงตามที่รัฐบาลต้องการคือประชาชนปลอดภัย"

นายสุภรณ์ กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อนายวัฒนา ทราบถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดทั้งในต่างประเทศและภายในประเทศไทยที่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ เหตุใดถึงไม่ได้เตรียมการวางแผนในการให้บุตรสาวเดินทางกลับประเทศไทย ตนเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อ แต่การเดินทางกลับประเทศไทยไม่ใช่มีเพียงบุตรสาวของนายวัฒนาเท่านั้น ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ทั้งนี้ก็เพราะประเทศไทยต้องป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อจากการเดินทางเข้าประเทศไทยให้ได้มากที่สุด และมองว่านายวัฒนาเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้ เพราะไม่ใส่ใจวางแผนให้บุตรสาวเดินทางกลับประเทศล่วงหน้าก่อนมีมาตรการออกมา และที่นายวัฒนาใช้คำพูดเช่นนี้ ก็ส่อให้เห็นถึงนิสัยที่หยาบกระด้างของนักการเมือง ที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและของประเทศ แต่เห็นแก่ตัวเพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น คนแบบนี้หากได้เข้ามาบริหารประเทศเมื่อไหร่ ชาติมีหวังฉิบหายแน่ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยกันดูพฤติกรรมของคนขวางโลกเช่นนี้ สมควรที่ถูกประนาม ให้สังคมลงโทษหรือไม่.