4 เม.ย.63 - น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ว่า ทราบว่าการดำเนินการของ กสทช. เป็นการเกลี่ยเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของสำนักงาน กสทช. รวมกับเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐปรับแผนการใช้งบประมาณเพื่อนำงบไปสนับสนุนการต่อสู้กับวิกฤตเชื้อโควิดฯ ซึ่งเราในฐานะ กมธ.ดีอีเอส เห็นด้วยอย่างยิ่ง และขอสนับสนุนแนวทางดังกล่าว ที่จะเป็นการนำงบประมาณมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสถานการณ์อย่างแท้จริง เพราะถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะได้ออกมาช่วยกันเพื่อให้เราฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
ด้านนายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า ตนเองและคณะกรรมาธิการการสื่อสารฯ เห็นด้วยกับแนวทางช่วยเหลือดังกล่าวของ กสทช. เพราะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมาก โดยเฉพาะการนำงบไปสนับสนุนโรงพยาบาล และสถาบันทางการแพทย์ของรัฐ ในการเปิดโรงพยาบาลภาคสนามเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังขาดอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงการจัดหาหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิดฯ ที่สำคัญคือการพัฒนาระบบ Telemedicine หรือการแพทย์ทางไกล รวมทั้งการทำแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อของบุคลากรด้านสาธารณสุขที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ เพราะช่วยลดการสัมผัสระหว่างกันได้ อีกทั้งประชาชนก็ไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล เป็นการป้องกันการติดเชื้อทั้งกับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย เหล่านี้จะช่วยเหลือการต่อสู้กับโควิดฯ ได้อย่างมาก
ขณะที่ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า การตัดสินใจของ กสทช. ถือเป็นตัวอย่างที่ดีกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐ ที่จะได้นำงบประมาณมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมในการสู้กับวิกฤตเชื้อโควิดฯ ครั้งนี้ โดยเฉพาะเป็นการให้งบโดยตรงถึงโรงพยาบาลที่ร้องขอเข้ามา ซึ่งเป็นการช่วยเหลือด้านงบประมาณได้แบบตรงจุดอย่างยิ่ง เชื่อว่าทุกฝ่ายจะเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะทำให้เราสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพสภาวะวิกฤต อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่างบประมาณ 1 พันล้านนี้ น่าจะน้อยไป คงไม่เพียงพอในการสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิดฯ ดังนั้นจึงอยากให้ กสทช. ได้พิจารณาปรับเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือครั้งนี้ขึ้นอีก และอยากให้หน่วยราชการอื่นที่มีศักยภาพ อาจจะต้องเร่งพิจารณาเกลี่ยงบประมาณเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |