ถกปัญหารัฐสภาเจ็ดชั่วโคตร “ปชป.”- “ซิโน-ไทยฯ” ซัดกลางเวทีเสวนาทุจริตก่อสร้าง ปมยืดเวลาเอื้อเอกชน "วัชระ" แฉงบโป่งพองจาก 3 พันล้านเป็น 8 พันล้าน ขยายเวลาก่อสร้างสุดพิสดาร ขณะที่ "เสี่ยหนู" แจงก่อสร้างช้าเพราะส่งมอบพื้นที่ช้า ปัดใช้อิทธิพล ลั่น "ซิโน-ไทย" ถือคติเอากล่อง ไม่เอาเงิน เอาศักดิ์ศรี เอาความภาคภูมิใจ
ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน จัดเวทีประชาชนตรวจสอบคอร์รัปชัน หัวข้อ “การตรวจสอบปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ กรณีไอที-รัฐสภาแห่งใหม่”
โดยมีนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์, นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายโชติจุฑา อาจสอน ที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กลุ่มนิติบุคคล ร่วมเสวนา นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
นายวัชระกล่าวว่า ปัญหาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.งบประมาณระบบไอทีที่จากเดิมกำหนดไว้ 3,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้งบโป่งพองเป็น 8,000 ล้านบาท และ 2.การขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างที่ดูพิสดารที่สุด เพราะขยายเวลาก่อสร้างถึง 3 ครั้ง รวมเป็น 1,400 วันโดยประมาณ ซึ่งเป็นการขยายเวลาเกินกว่ากำหนดการสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 900 วันตามเงื่อนไขสัญญา
ดังนั้น จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเอื้อเอกชนเพื่อทุจริตหรือไม่ และขอถามว่า ในเมื่อบริษัท ซิโน-ไทยฯ ทราบอยู่แล้วว่าทางสภาจะส่งมอบพื้นที่ไม่พร้อมกัน เหตุใดจึงยอมเป็นคู่สัญญา และจริงหรือไม่ที่มีการแก้ไขแบบการสร้างบริเวณโถงกลางรัฐสภาแห่งใหม่ จากที่เคยกำหนดให้รับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
ขณะที่นายอนุทิน ในอดีตดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัว กล่าวว่า ตนและทีมงานที่มาร่วมเสวนาในครั้งนี้ เพราะการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซิโน-ไทยฯ ซึ่งเป็นกิจการของพ่อตน และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งกำลังถูกพาดพิงว่ามีการใช้อำนาจหรืออิทธิพลในการต่อสัญญาขยายเวลาการก่อสร้างให้กับบริษัท ซิโน-ไทยฯ
ไม่เอาเงิน เอาศักดิ์ศรี
ดังนั้นจึงอยากขอชี้แจงและบอกนายวัชระว่า การตรวจสอบในฐานะประชาชนและด้วยสปิริตเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งจะไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานราชการ จะถูกต้องเฉพาะเพียงตัวเลข ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่นำมาพูดไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ เลย เป็นเพียงแต่ว่านายวัชระได้รับฟังมาจากผู้ที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น
เขาชี้แจงว่า การขยายระยะเวลาก่อสร้างให้กับบริษัท ซิโน-ไทยฯ นั้น สาเหตุเกิดจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ซึ่งตามสัญญาต้องส่งมอบให้ในปี 57 แต่ความจริงสภาส่งมอบพื้นที่ครบเมื่อเดือน พ.ย.ปี 59 ดังนั้น เงื่อนไขต้องสร้างเสร็จภายใน 900 วัน เสร็จแน่นอน แต่ต้องนับแต่ส่งมอบพื้นที่ครบแล้ว
"ข้อสงสัยว่าบริษัททราบว่าการก่อสร้างครั้งนี้จะมีปัญหา แต่ทำไมยังรับก่อสร้างนั้น อยากจะบอกว่า บริษัทถือคติเอากล่อง ไม่เอาเงิน เอาศักดิ์ศรี เอาความภาคภูมิใจ จะได้เขียนลงในประวัติบริษัทว่าเคยก่อสร้างรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของประเทศ ด้วยเกียรติของผม ของพ่อผม มีเกียรติเพียงพอที่จะรับประกันว่าโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความโปร่งใส และนายวัชระก็สามารถขยับก้นเข้าไปนั่งในสภาแห่งใหม่ได้ สะอาดแน่นอน ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล”
นายอนุทินยังชี้แจงกรณีหากบริษัททำไม่ทันตามกำหนดแล้วจะต้องเสียค่าปรับนั้นว่า ขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้ทำผิดแต่ประการใด และตามข้อเท็จจริง บริษัททำงานคืบหน้าเกินกว่ากำหนดด้วยซ้ำไป ส่วนงานระบบไอทีนั้น ไม่ได้อยู่ในขอบเขตหรือเนื้องานของผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ ไม่มีความเกี่ยวข้องในการออกแบบและจัดซื้อจัดจ้างแต่ประการใด
ด้านนายวิลาศกล่าวว่า สภาส่งมอบพื้นที่ครบเมื่อเดือน พ.ย.59 และตามสัญญาที่ขยายมีกำหนดต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.62 ซึ่งหากคำนวณแล้วเกิน 900 วัน ดังนั้นสิ่งที่นายอนุทินพูดว่าสร้างเสร็จภายใน 900 วัน นับแต่วันส่งมอบพื้นที่จึงไม่เป็นความจริง อีกทั้งก่อนหน้าจะส่งมอบพื้นที่ครบก็ได้ดำเนินก่อสร้างไปแล้ว โดยความคืบหน้า ณ เดือนพ.ย.59 ประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องนำมาหักลบกันด้วย ไม่ควรที่จะนับหนึ่งใหม่ช่วงส่งมอบพื้นที่ครบ
อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ผู้นี้ยังกล่าวว่า ระบบไอซีทีมีปัญหาว่าได้จ้างบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์เนชั่นนัล จำกัด ให้มาเป็นที่ปรึกษาวางระบบ โดยวิธีพิเศษ โดยอ้างว่ามีเวลาจำกัดในการหาผู้ว่าจ้าง จนทำให้ประธานที่พิจารณาเรื่องดังกล่าวต้องลาออก เนื่องจากมีการล็อบบี้ให้บริษัทดังกล่าว แถมขณะนั้นยังมีการโฆษณาด้วยว่าบริษัท เมอร์ลินส์ฯ ลดราคาให้ด้วย ต่อมาบริษัทได้เขียนโครงการและส่งให้คณะกรรมการฯ พิจารณา สุดท้ายที่ประชุมอนุมัติไมโครโฟน ราคา 120,000 บาทต่อตัว
แฉงบฯ บานน่าเกลียด
"งบประมาณระบบไอซีทีจากเดิมกำหนดไว้ 3,000 ล้านบาท และเปลี่ยนใหม่เป็น 6,900 ล้านบาท ต่อมา วันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา งบประมาณกลายเป็น 8,640 ล้านบาท และหากดูรายละเอียดต้องบอกว่าน่าเกลียดเป็นบ้า เพิ่มมา 1,700 ล้านบาท"
นายวิลาศกล่าวว่า โครงการนี้เละตั้งแต่เริ่มสร้าง รวมถึงงบประมาณ คิดจะเสนออะไรก็เสนอ สำนักงบประมาณส่งเอกสารมาให้ตน บอกให้ช่วยอัดหน่อย ถ้าตนได้เป็น กมธ.ป.ป.ช.อีก จะสอบเรื่องนี่เรื่องแรก รับรองสนุกสนานแน่ โครงสร้างก่อสร้างมีความผิดปกติ ถ้าสอบสวนเจอแน่ แต่ยังไม่ร้อง ป.ป.ช.ชุดนี้ ให้เปลี่ยนรัฐบาลแล้วค่อยร้อง และจะตั้งกรรมการสอบ
นายภาคภูมิกล่าวว่า ตามความเห็นของนายวิลาศ วันที่ส่งมอบพื้นที่สุดท้าย ความก้าวหน้าในการก่อสร้างเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าคำนวณตามหลักบัญญัติไตรยางศ์ จะเหลืองานก่อสร้างเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่นับหนึ่งตั้งแต่ส่งมอบพื้นที่ครบ ขอชี้แจงว่าจะคำนวณแบบนั้นไม่ได้ เพราะต้องยึดตามหลักก่อสร้างวิศวะ และมีอีกหลายปัจจัยต้องนำมาคำนวณรวมด้วย ทั้งนี้ ทางเราได้แจ้งต่อสภาแล้วว่า ถึงก่อสร้างเสร็จ สภายังใช้งานไม่ได้ เพราะเสร็จแต่โครงสร้างและตกแต่งภายใน ส่วนพวกระบบไอซีที เช่น ระบบการนับคะแนนในห้องประชุมภา เป็นต้น ไม่ได้อยู่ในสัญญาของบริษัท
ส่วนนายศรีสุวรรณกล่าวว่า การส่งมอบควรจะส่งได้ในเดือน ส.ค.2562 ไม่ใช่ในปลายปี 2562 แต่อย่างใด ส่วนเรื่องงบไอทีนั้น เห็นด้วยกับนายวิลาศ ว่ามันมีการกำหนดงบประมาณโดยไม่มีที่มาที่ไป การก่อสร้างรัฐสภานั้นมีการละเมิดกฎหมายกันหลายกรณีมาก ต้องถามว่ารัฐสภาเขาไม่ควบคุมให้การก่อสร้างเป็นไปตามกฎหมายเลยหรือ อาทิเช่นกันการก่อสร้างห้ามกระทำในวันเสาร์อาทิตย์ ก่อสร้างไม่เกินสี่โมงเย็น การก่อสร้างต้องมีการเอาผ้าคลุมมาคลุมเพื่อไม่ให้ฝุ่นกระจาย ข้อห้ามเหล่านี้ถูกละเมิดหมด ทำไมทางรัฐสภาถึงไม่เข้ามาทำกับดูแลด้วย ในวันจันทร์หน้าตนจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเขตดุสิตเพื่อให้เอาผิดในเรื่องนี้
นายโชติจุฑากล่าวว่า ในส่วนของการขยายระยะเวลาในก่อสร้างรัฐสภา จำนวน 3 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องใหม่ และชี้แจงตลอด โดยสาเหตุมาจากความล่าช้าในการขนดิน ซึ่งที่ปรึกษาได้แนะนำให้ขายดินเพื่อเป็นการระบาย แต่ผู้บริหารสภาชุดเก่ามีความลังเลจะขายดินด้วยดีหรือไม่ จึงทำให้เกิดความล่าช้าขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ของบริษัท ซิโน-ไทยฯ เกือบร้อยคนเดินทางมาร่วมรับฟังการชี้แจง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |