3 เม.ย.63 - นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ภายหลังรัฐบาลประกาศคอร์ฟิวเพื่อสะกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีเนื้อหาดังนี้
ทำไมรัฐต้องออกมาตรการจากเบาไปหาหนัก แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะสังคมไทยเป็นสังคมแบบกระต่ายตื่นตูม
มาตรการที่เริ่มจากเบาไปหาหนัก จะทำให้ผู้คนค่อยๆปรับตัว
ถ้าประกาศแบบหักด้ามพร้าด้วยเข่า มันอาจสร้างความโกลาหล จนถึงขั้นจลาจลได้และมันจะยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปโดยใช่เหตุ
ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆปรับตัวไป มันจะ smooth กว่า ซึ่งคิดว่าตอนนี้บ้านแต่ละหลังคาเรือนก็อยู่ในความพร้อมกันพอสมควรแล้ว มิใช่หรือ ?
เมื่อทุกอย่างพร้อม ถ้ามีมาตรการที่หนักกว่านี้ออกมา หากสถานการณ์มันรุนแรงขึ้น อย่างน้อยคนไทยก็พอเอาตัวกันรอดได้
ตอนนี้ผมสอบถามเพื่อนๆผมที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ซึ่งขนาดประเทศพวกเขามีมาตรการที่รุนแรงห้ามคนแล้ว แต่มันก็ไม่ดีขึ้นอย่างไร ซ้ำร้ายผู้คนที่ติดในบ้านก็แทบประสาทกิน ข้าวปลาอาหารก็ฝืดเคือง เพราะเตรียมตัวไม่ทัน
เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในไทยที่เรามีมาตรการจากเบาไปหาหนัก สอดคล้องประสานกับมาตรการทางการแพทย์ตอนนี้ ถือว่าเรา “เอาอยู่” ได้ดีทีเดียว
ทั้งหมดวัดกันได้จากจำนวนสถิติของไทยเทียบกับประเทศต่างๆครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |