ประชากรโลกติดเชื้อโควิด-19 ใกล้ครบ 1 ล้านคนแล้ว สเปนเป็นชาติที่ 2 ที่สังเวยชีวิตเกินหลักหมื่น สหรัฐตายทะลุ 5,000 ศพ "โดนัลด์ ทรัมป์" เตือนอีก 2 สัปดาห์เลวร้ายกว่านี้ ขณะยอดอเมริกันว่างงานสัปดาห์ที่ผ่านมาทำลายสถิติแหลกลาญที่ 6.6 ล้านคน หลายชาติอาเซียนยังอาการหนัก อินโดนีเซียเริ่มล้างคุกประเดิมปล่อยนักโทษ 18,000 คน

    จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกขยับเข้าใกล้หลักล้านแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2563 โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือนนับแต่จีนรายงานพบการติดเชื้อไวรัสปอดอักเสบลึกลับครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2562 
    นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวที่นครเจนีวาเมื่อวันพุธถึงแนวโน้มที่จำนวนผู้ติดเชื้อกำลังจะแตะหลัก 1,000,000 คนว่า ช่วง 5 สัปดาห์มานี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบเท่ากับจำนวนเลขยกกำลัง และแค่ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตก็ทวีขึ้นเท่าตัว เขายังเตือนทวีปแอฟริกาและลาตินอเมริกาว่าจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับผลกระทบในวงกว้างขึ้น
    ข้อมูลแบบเรียลไทม์ของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในสหรัฐ เมื่อเวลา 19.30 น. วันพฤหัสบดีของไทย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่วโลกอยู่ที่ 952,171 ราย เสียชีวิตแล้ว 48,320 ราย โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลจาก 180 ประเทศและภูมิภาค 
    สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก 216,722 ราย เสียชีวิต 5,137 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่ใน 24 ชั่วโมงที่ 884 ราย มลรัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเกือบ 2,000 รายแล้ว เฉพาะที่นิวยอร์กซิตีเมืองเดียวมีคนเสียชีวิต 1,374 ราย เหยื่อไวรัสโคโรนาของสหรัฐที่รวมอยู่ในฐานข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีรวมถึงทารกอายุเพียง 6 เดือน ที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในคอนเนตทิกัตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับวิกฤติครั้งนี้อย่างจริงจังขึ้นหลังจากถูกวิจารณ์ว่าสถานการณ์ดูเบาในช่วงแรก กล่าวเตือนว่า สถานการณ์ในสหรัฐยังจะเลวร้ายมากกว่านี้ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า 
    ตัวเลขล่าสุดของกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีเผยว่า มีชาวอเมริกันยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มอีก 6.65 ล้านรายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนับถึงวันที่ 28 มีนาคม ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์และมากกว่าสถิติเดิมของสัปดาห์ที่แล้วเท่าตัว 
    ข้ามไปฝั่งยุโรป รัฐบาลสเปนแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นสถิติใหม่อีก 950 คน ในช่วง 24 ชั่วโมง และทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศรวมเป็น 10,003 คน และผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 110,000 รายแล้ว อิตาลีเป็นประเทศเดียวที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าสเปนและมากที่สุดในโลกขณะนี้ ที่ 13,155 ศพ จากผู้ติดเชื้อสะสม 110,574 ราย รัฐมนตรีสาธารณสุขของสเปน ซัลวาดอร์ อียา กล่าวว่า ข้อมูลการติดเชื้อและเสียชีวิตแสดงให้เห็นว่าเส้นโค้งของกราฟอยู่ในภาวะเสถียรแล้ว และการแพร่ระบาดเข้าสู่ระยะ "ชะลอตัว" 
    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ขณะนี้มีแนวโน้มน่าวิตกว่า ไวรัสโคโรนาไม่ได้คร่าชีวิตเพียงแค่คนชราและผู้ที่มีโรคภัยไข้เจ็บอยู่ก่อนเท่านั้น แต่ผู้เสียชีวิตมีทุกช่วงวัยแล้ว ไม่กี่วันที่ผ่านมาฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตเป็นวัยรุ่นอายุ 16 ปี, เบลเยียมเป็นเด็กอายุ 12 ปี และอังกฤษมีเด็กอายุ 13 ปี เสียชีวิตทั้งที่ก่อนติดเชื้อต่างก็มีสุขภาพแข็งแรงดี
    ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากอันดับ 4 ของโลก รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีคนเสียชีวิตเพิ่ม 13 คน ติดเชื้อรายใหม่ 113 คน จำนวนผู้เสียชีวิตในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 170 คน มากแซงหน้าเกาหลีใต้ ซึ่งยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 169 คน จากผู้ติดเชื้อ 9,976 คน ในขณะนี้อินโดนีเซียยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสเพียงแค่ 1,790 คน
    วันเดียวกัน ทางการอินโดนีเซียประกาศว่าได้ปล่อยตัวผู้ต้องขังแล้วประมาณ 18,000 ราย โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการหยุดการแพร่เชื้อภายในเรือนจำที่แออัดของประเทศ และจะปล่อยตัวเพิ่มอีกภายในไม่กี่วันนี้ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะปล่อยตัวนักโทษรวมมากกว่า 30,000 คน
    มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 208 คน ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 3,116 คน มากที่สุดในภูมิภาคนี้ ส่วนผู้เสียชีวิตถึงวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 50 คน ส่วนสิงคโปร์รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรายที่ 4 เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 1,000 ราย
    ฟิลิปปินส์มีคนเสียชีวิตเพิ่ม 11 ราย เมื่อวันพฤหัสบดี ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 107 ศพ ติดเชื้อรายใหม่อีก 322 ราย ยอดรวม 2,633 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นหลักร้อยติดต่อกันหลายวัน แม้รัฐบาลจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ประชาชนบนเกาะลูซอน หรือราวครึ่งหนึ่งของประชากร 110 ล้านคน มานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต เพิ่งขู่เมื่อวันพุธว่า เขาสั่งการให้ทหาร-ตำรวจยิงสังหารพวกที่สร้างปัญหาฝ่าฝืนการล็อกดาวน์ได้เลย แต่ผู้บัญชาการตำรวจชี้แจงว่า ดูเตร์เตเพียงแค่แสดงความเอาจริงเอาจัง แต่ตำรวจจะไม่ยิงใคร.