สถานการณ์อัพเดตวันต่อวันกับตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 104 ราย ยอดสะสม 1,875 ราย เสียชีวิต 15 ราย หายแล้ว 505 ราย และเป็นไปตามคาด รัฐบาลมีการยกระดับความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในการรับมือกับสงครามชีวภาพ ไวรัสโควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 เมษายน เป็นต้นไป ทั้งนี้ ยกเว้นผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น.. ถึงตอนนี้ ทุกมาตรการ ทุกแนวทาง ย่อมมีผู้ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ทั้งการดำเนินชีวิต การทำมาหากิน แต่ดูเหมือนช่วงหลังประชาชนเริ่มปรับตัวกันได้มากขึ้นเรื่อยๆ และส่วนใหญ่ เมื่อเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อยังมีสถิติการติดเชื้อไม่หยุด ก็ทำให้เสียงคัดค้านไม่ค่อยดังเท่าใด...0

 ศุกร์ที่ 3 เมษายนนี้ มีประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษแบบรัฐมนตรีพร้อมหน้ากันที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเรื่องที่คนสนใจกันก็คือ รัฐบาลจะเข็นมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน ผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด ทั้งในส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการอย่างไรออกมาบ้าง เบื้องต้นแม่ทัพใหญ่ด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี” เกริ่นไว้คร่าวๆ หลังการประชุมร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย-สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 เม.ย. ว่าจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจชุดที่ 3 ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งประชาชน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก โดยจะเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ ศุกร์ที่ 3 เม.ย. ผ่านกลไกทั้งการออกพระราชกำหนดและพระราชบัญญัติเพื่อจัดหาแหล่งเงิน อย่างไรก็ตาม สมคิดยังไม่แย้มว่ารัฐบาลจะเทหน้าตักเพื่อรับมือศึกนี้อยู่ที่วงเงินเท่าใด แม้ก่อนหน้านี้ สมคิดเคยบอกว่าล็อตแรกน่าจะอยู่ที่สองแสนล้านบาท แต่เจ้าตัวเชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาจะสามารถดูแลเศรษฐกิจไทยได้อีก 6 เดือน ผู้ประกอบการสามารถอยู่ต่อไปได้ ...หวังว่าสมคิดจะไม่ทำให้หลายคนผิดหวังเหมือนที่ผ่านมา ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจให้รัฐบาลมาเนิ่นนาน แต่เศรษฐกิจไทยมีแต่ทรงกับทรุด คนบ่นกันทั้งประเทศ...0

 หลบมาเรื่องการเมืองกันบ้าง ในสถานการณ์โควิดที่ทำเอาประชาชนเครียดกันทั้งโลก ทำให้บริบทข่าวอื่นๆ เลยไม่ถูกโฟกัสกันในช่วงนี้ แต่ในส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองยังต้องขับเคลื่อนกันต่อไป อย่าง "พรรคกล้า” ของ “กรณ์ จาติกวณิช ว่าที่หัวหน้าพรรคกล้า-อดีต รมว.คลัง” ที่ตอนนี้ออกมาให้ความเห็น ทัศนะเรื่องการรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ในมุมเรื่องการเงิน-การคลัง-นโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในส่วนความเคลื่อนไหวของพรรค เมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 ณัฐนันท์ กัลยาศิริ นายทะเบียนพรรคกล้า ได้นำรายชื่อสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งพรรคจำนวน 500 รายชื่อ คำร้องขอจัดตั้งพรรคไปยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้รับรองการจัดตั้งพรรคกล้าต่อไป ท่ามกลางกระแสข่าวว่าพรรคส่งคนเดินสายทาบทามคนดัง-คนมีชื่อเสียงหลายวงการเข้าร่วมงานกับพรรค โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่-สตาร์ทอัพหลายวงการ หลังก่อนหน้านี้มีนักธุรกิจรุ่นใหม่มาร่วมงานกับกรณ์แล้วหลายคน อาทิ วรวุฒิ อุ่นใจ เจ้าของและผู้ก่อตั้งธุรกิจ Office Mate และอดีตนายกสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย, พงศ์พรหม ยามะรัต ผู้บริหาร RMI GVs (อาร์เอ็มไอ โกลบอลเวนเจอร์) ในเครือ Kingsoft Corporation บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของจีน-โจ ทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น.