2 เม.ย.63 - ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น และ นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัทโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวถึงผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 4 ของ จ.ขอนแก่น เป็นหญิงอายุ 70 ปี ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อแจ้งเตือนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงอาจจะติดเชื้อทั้งคนในครอบครัว บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไปเนื่องจากผู้ป่วยรายที่ 4 นั้น มีประวัติใช้ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่อยู่ในตลาดสดหลายแห่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายที่ 4 นั้น เป็นหญิงอายุ 70 ปี ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และเป็นรายแรกที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าไม่ได้มีการเดินทางออกนอกพื้นที่ หรือไปต่างประเทศ หรือมีการสัมผัสกับชาวต่างชาติแต่อย่างใด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ชีวิตทำธุระภายในตลาดสดหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นตลาดสดบางลำพู ตลาดรถไฟ ตลาดหนองไผ่ล้อม และตลาดเย็นที่บึงแก่นนคร ซึ่งตลาดต่างๆที่มีประวัติของผู้ป่วยรายที่ 4 เดินทางไปนั้นได้มีมาตรการเตรียมปิดตลาดและทำความสะอาดตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19แพร่กระจายทั้งหมดแล้ว ซึ่งจากเคสของหญิงรายนี้นั้น ยิ่งทำให้ทุกคนควรตระหนักในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ของทางจังหวัดที่ประกาศออกมาอย่างเข้มข้นและเคร่งครัด เพราะเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อในจังหวัด ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ 100 % ว่าทุกคนจะปลอดภัย อาจะมีผู้สัมผัสหลายรายที่ยังไม่แสดงอาการ

"ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดขอนแก่นและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ทำทะเบียนผู้สัมผัสตามไทม์ไลน์ ซึ่งมีประมาณ 60-70 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง และความเสี่ยงต่ำ โดยผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงได้แก่ครอบครัว บุคลากรทางการแพทย์ หรือบุคคลใกล้ชิดในระยะประมาณ 1 เมตร ถ้ามีอาการต้องรีบเข้าตรวจ ทันทีที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน  ส่วนในรายของสัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งมีจำนวนมาก ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และยังไม่พบผู้ที่มีอาการหนัก หากใครเคยสัมผัสกับหญิงรายนี้ขอให้กักตัวเอง 14 วันตามมาตรการป้องกันเพื่อให้คลอบคลุมได้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ หรือสตรีมีครรภ์ และในวันพรุ่งนี้ได้มีคำสั่งเรียกประชุมเป็นกรณีเร่งด่วน"

ขณะที่ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากทาง รพ.ขอนแก่น ได้รับตัวผู้ป่วยจากโรงพยาบาลราชพฤกษ์ ได้มีการคัดกรองอย่างละเอียดตั้งแต่เดินทางมาถึง ซึ่งขณะนี้อาการของผู้ป่วยรายดังกล่าวถือว่ายังแข็งแรงกว่าวัย ไม่มีการใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่มีไข้ ทานอาหารได้ แต่มีอาการเรื่องปอดอักเสบ และไอเรื้อรัง หลังจากรับตัวมาก็เริ่มใช้ยารักษาในขนานที่แรงที่สุด เนื่องจากมีความเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของอายุ และอาการปอดบวม การสอบสวนโรคนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบซึ่งยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด เนื่องจากอายุมากอาจจะจำได้ไม่หมด

"วันที่ 19 มี.ค. ร่วมงาน เลี้ยงวันงานเกิดหลานที่บ้าน วันที่ 20 มี.ค. มีอาการป่วย ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนโรคว่ามีใครอยู่ภายในงานบ้าง ต่อมาไปพบแพทย์ที่ศูนย์แพทย์วัดหนองแวง รพ.ขอนแก่น แพทย์จะส่งมาเอกซเรย์แต่ไม่ยอมมา และอีกส่วนคุณป้าไม่ได้กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือสัมผัสกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมีการซักประวัติเบื้องต้นอย่างละเอียดทางผู้ป่วยก็ปฏิเสธและยืนยันว่าไม่ได้ออกนอกพื้นที่ แพทย์จึงวางใจได้ระดับหนึ่ง แต่จากการฟังเสียงปอดพบความผิดปกติ จะส่งไป รพ.ฯ แต่ไม่ยอมไป จึงไปคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในวันที่ 26 - 27 มี.ค. แต่อาการไม่ดีขึ้น ในวันที่ 29 มี.ค. จึงเดินทางไปตรวจที่ รพ.ราชพฤกษ์ แพทย์ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดตามขั้นตอนแต่เป็นการรักษาในเรื่องของการไอเรื้อรังและปอดอักเสบ กระทั่งผ่านไป 2 วันอาการไม่ดีขึ้น ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขให้เชื้อว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ตรวจสอบหาเชื้อและผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงได้ส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 มี.ค.จนถึงปัจจุบัน"

ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัทโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ผู้ป่วยอายุ 70 ปีรายนี้ แข็งแรง มา รพ.ฯเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2563 เวลาประมาณ 18.00 น. ด้วยอาการไอเรื้อรังมาเดือนกว่า แพทย์ให้การรักษาด้วยการสกรีนนิ่งตามระบบ เบื้องต้นคัดกรองตั้งแต่ประตูทางเข้า และมีการซักถามอาการ โควิด-19 ไม่มีความเสี่ยงใดๆ พบว่าปอดอักเสบ และรักษาตามอาการ รักษา 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้าข่ายสงสัยว่ามีเชื้อโควิด19 จึงส่งตรวจ รพ.ขอนแก่น กระทั่งพบเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ทาง รพ.ฯได้มีการตรวจสอบแพทย์และบุคลากรของ รพ.ฯที่ได้สัมผัสและให้การรักษาจำนวนทั้งสิ้น 48 ราย แต่ทางรพ.ฯเรามีมาตรการป้องกันเชื้อโควิด19อยู่แล้ว ทั้งแพทย์และบุคลากร ไปจนถึงเวรเปล ทุกคนมีการแต่งกายรัดกุมป้องกันอย่างเข้มข้น มีการล้างมือทุกครั้ง และเชื่อมั่นทุกคนปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งเป็นมาตรฐานปกติ และไม่ได้มีการกักตัวเพราะถือว่าปลอดภัย โดยเฉพาะแพทย์ทั้ง 2 ท่านที่ดูแลรายนี้ก็สามารถดูแลคนไข้รายอื่นๆได้ตามปกติ