2เม.ย.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ตนได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอช่องทีวีดิจิทัลประมาณ 7 ช่อง สำหรับการเผยแพร่การจัดการเรียนการสอนของนักเรียนระดับปฐมวัยจนถึงระดับประถมศึกษา เนื่องจากเด็กกลุ่มดังกล่าวไม่มีทักษะความรู้ รวมถึงอุปกรณ์ในการใช้เทคโนโลยี ทั้งนี้ในส่วนของมัธยมศึกษา จะต้องมีอุปกรณ์ในการสอน ซึ่งหากมีความจำเป็นทีาจะต้องสนับสนุนอุปกรณ์ที่จะใช้ประกอบการเรียน ก็จะเป็นการดำเนินการในลักษณะที่โยกงบประมาณภายในของ ศธ. เช่น เปลี่ยนงบฯ ที่จะใช้สำหรับการซ่อมแซมอาคาร มาลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับเด็กโต หรือ สำหรับครู เพื่อสร้างความเท่าเทียม เป็นต้น ทั้งนี้ตนมองว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนของระดับมัธยมศึกษา จะทำให้เราเห็นว่าเด็กแต่ละคนมีความอ่อนหรือ ความถนัดด้านวิชาการในเรื่องใดบ้าง เพราะเด็กทุกคนจะได้เรียนในระดับที่เท่ากันทั้งหมด ดังนั้นครูจะต้องใช้โอกาสนี้ในการช่วยเหลือเด็กให้ตรงจุด และสร้างความเข้มข้นให้สามารถยกระดับการเรียนการสอนให้มีความเท่าเทียมกัน ถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
“อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่าการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการสอน ไม่สามารถทดแทนการสอนของครูได้ และผมยังยืนยัน ว่า ครูจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การสอนมีประสิทธิภาพ แต่การที่เราลงทุนกับอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ก็ถือว่าคุ้มค่ามเนื่องจากเป็นแผนงานของ ศธ.ที่จะต้องขับเคลื่อนอยู่แล้ว เพียงแต่จะขยับให้เร็วขึ้นเท่านั้น และตอนนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือ การควบรวมโรงเรียน เพื่อให้ครูที่บางโรงเรียนมีจำนวน 2-3 คน ได้มีรวมกับโรงเรียนอื่นๆ และช่วยเหลือในการฝึกกระบวนการต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งครูทำได้อย่างแน่นอน โดย ศธ. จะสนับสนุนสื่อในการสร้างความรู้ และทักษะของเรื่องนี้”รมว.ศธ.กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |