จากการที่เรามีงาน “อุ่นไอรักฯ” และกระแสละครย้อนยุคอย่าง “บุพเพสันนิวาส” ทำให้มีผู้คนจำนวนมากใส่ชุดไทยไปงานอุ่นไอรักฯ บ้าง ไปเที่ยวที่อยุธยาบ้าง แต่สำหรับคนจำนวนมากแล้ว การแต่งชุดไทยยังเป็นชุดสำหรับวาระพิเศษเท่านั้น ยังไม่ใช่ชุดที่จะใส่เหมือนชุดทำงาน ชุดไปเที่ยว ชุดไปจับจ่ายซื้อของ ดังนั้นอาจจะเชื่อได้ว่าเมื่องานอุ่นไอรักฯ จบลง และละครบุพเพสันนิวาสจบลงและกระแสแผ่ว เมื่อมีละครสนุกๆ เรื่องอื่นมาเป็นกระแสแทน การแต่งชุดไทยก็คงจะหายไปด้วย การแต่งชุดไทยที่เป็นวัฒนธรรมที่เราคนไทยน่าจะภาคภูมิใจและช่วยกันดำรงรักษาก็คงจะแผ่วตามไปด้วย แล้วเราก็คงจะกลับไปใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืดที่เป็นวัฒนธรรมการแต่งตัวของคนอเมริกันต่อไป ถึงตอนนั้นก็หมายความว่ากระแสนิยมการแต่งชุดไทยจุดไม่ติด หรือเคยจุดติดพักหนึ่งแล้วก็มอดไป
เคยคิดบ้างไหมว่าเราแต่งตัวตามแบบอเมริกันได้ด้วยความรู้สึกสบายใจไม่ขวยเขินแต่อย่างใด แต่เวลาที่เราต้องแต่งชุดไทย เราจะรู้สึกขวยเขินและรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา และถ้าเราจะต้องแต่งไปงานอะไรสักอย่าง เราก็จะเอาชุดติดรถไปด้วย จนถึงเวลาที่จะต้องไปงานที่ต้องแต่งชุดไทย เราจึงจะเปลี่ยนใส่ชุดไทยตามที่คนจัดงานกำหนด และเมื่องานนั้นจบลง เราอยากจะรีบกลับบ้านแล้วรีบเปลี่ยน แม้แต่คนที่จะต้องแต่งชุดไทยไปทำงานในวันศุกร์บางคนก็จะใส่เฉพาะเวลาอยู่ที่ทำงาน พอเลิกงานแล้วก็จะรีบเปลี่ยนก่อนที่จะออกไปเดินซื้อข้าวของหรือไปทำธุระต่อ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เราไม่คุ้นเคย หรือเรามองว่าการแต่งชุดไทยนั้นเป็นเรื่องของกรณีหรือวาระพิเศษเท่านั้น แม้ว่าเราไม่แต่งเอง เวลาเราเห็นคนแต่งชุดไทยบนถนน บนรถเมล์ บนรถไฟฟ้า หรือในห้างสรรพสินค้า เราบางคนก็อาจจะมองคนที่แต่งชุดไทยเหล่านั้นแปลกๆ จนทำให้คนที่แต่งชุดไทยหมดความมั่นใจไปเลย
เวลาเราไปญี่ปุ่น เราเคยเห็นคนใส่ชุดกิโมโน โดยที่คนญี่ปุ่นที่แต่งไม่มีท่าทางขวยเขิน และคนญี่ปุ่นที่เห็นคนแต่งชุดกิโมโนก็ไม่ได้มีท่าทีมองคนที่แต่งกิโมโนเป็นคนประหลาดแต่อย่างใด เช่นเดียวกับผู้หญิงอินเดียที่แต่งชุดส่าหรี หรือผู้ชายอินเดียที่ใส่ชุดอินเดียของพวกเขา คนตะวันออกกลางทั้งหญิงและชายก็ยังคงแต่งชุดประจำชาติของพวกเขาไปไหนมาไหนเป็นชุดธรรมดา ไม่ใช่ชุดที่ใส่ในวันพิเศษ สาวเวียดนามยังคงใส่ชุดอ๋าวหย่ายเป็นชุดประจำวัน สาวลาวยังคงใส่ผ้าซิ่นเป็นชุดนักศึกษา และดูเหมือนพวกเขาจะมองเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้พวกเขารักษาวัฒนธรรมการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติเอาไว้ได้
เมื่อเปรียบเทียบชาติอื่นแต่งชุดประจำชาติแล้วหันมาคิดทบทวนการแต่งชุดไทยที่เป็นวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติแล้วก็อดตั้งคำถามไม่ได้ ทำไมการแต่งชุดไทยให้เป็นชุดประจำวันขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถเมล์ ไปซื้อของ ไปทำงาน จึงเป็นไปไม่ได้ ทำไมคนแต่งต้องเขินอายหรือแต่งด้วยความจำใจ และคนที่ไม่ได้แต่งจึงมองคนที่แต่งเป็นตัวประหลาด ทำไมเราไม่ภูมิใจการแต่งตัวด้วยชุดประจำชาติของเรา หรือว่าเราตกเป็นเหยื่อของขบวนการ Creolization ของอเมริกันที่มีความหมายว่าจะตั้งหน้าตั้งตาส่งออกวัฒนธรรมของอเมริกันให้ประชาชนในประเทศอื่นประพฤติตาม ปฏิบัติตาม ด้วยความรู้สึกเหมือนประหนึ่งว่าเป็นวัฒนธรรมของประเทศตนเอง เช่น การดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อ coke และ Pepsi กินแฮมเบอร์เกอร์ กินไก่ทอด KFC กินสเต๊ก การใส่กางเกงยีนส์ การใส่เสื้อยืดที่เรียกว่า T-shirt และอีกหลายๆ อย่างที่พวกเราเรียกว่า Globalization ที่แท้ที่จริงคือ Americanization คือความพยายามเอาความเป็นอเมริกันให้เป็นวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งก็ทำได้สำเร็จมานานแล้ว
กลับมาที่การแต่งชุดไทยให้เป็นเรื่องธรรมดาของคนไทย ถ้าหากเปรียบเทียบกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชายก็จะเห็นว่าการแต่งของผู้หญิงเป็นไปได้มากกว่าผู้ชาย เพราะชุดไทยของผู้หญิงมีหลายแบบ มีความเป็นชุดเรียบๆ ดูธรรมดา แลดูสุภาพอยู่หลายระดับ มีชุดที่ดูหรูหราที่ใช้ในวาระพิเศษ เช่น ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยบรมพิมาน มีทั้งนุ่งซิ่น นุ่งโจง มีชุดที่ดูเรียบๆ แต่ก็สุภาพที่ใส่ได้ในวันที่ไม่ใช่วาระพิเศษ เช่น ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา เป็นต้น ทำให้การนำเอาชุดไทยมาแต่งในวันธรรมดาที่ไม่ใช่วาระพิเศษเป็นไปได้ แต่ผู้ชายมีชุดหรูหราที่เหมาะสำหรับใส่ในวาระพิเศษ เหมือนอย่างที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแต่งไปงานอุ่นไอรักฯ ซึ่งชุดอย่างนี้ถ้าหากใส่ขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ ขึ้นเครื่องบิน เดินเที่ยว ไปซื้อของ ไปทำงาน จะดูมากเกินไปสำหรับคนที่มองหรือเปล่า แต่พอไม่ใช่ชุดแบบนั้นก็จะเป็นเสื้อคอกลม คอวี ผ้าโจงที่เป็นผ้าพื้น กางเกงชาวเล หรือกางเกงแพรที่ถูกมองว่าไม่สุภาพ ดูเหมือนว่าโอกาสที่ผู้ชายไทยจะแต่งชุดไทยในวาระธรรมดามันยากกว่าผู้หญิง นอกจากคนที่มองจะเปิดใจรับชุดผู้ชายที่ไม่ใช่ชุดหรูให้เป็นชุดสุภาพใส่ไปทำงานได้ ใส่ออกนอกบ้านได้ ไม่มองว่าเป็นชุดนอน หรือเป็นการแต่งตัวที่ง่ายเกินไป
มาปรับความรู้สึกกันเถอะ มามองว่าการแต่งชุดไทยไปไหนมาไหนในวันธรรมดาของชีวิตประจำวันทุกๆ วันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เลิกมองว่าชุดไทยมีไว้แต่งในวาระพิเศษเท่านั้น คนแต่งต้องกล้าแต่ง คนมองต้องยอมรับ อย่ามิชอบคนแต่งชุดไทย ว่าเป็นคนประหลาด หรือกำลังจะไปงานอะไรสักอย่างที่เป็นเรื่องพิเศษ สำหรับผู้หญิงมีชุดหลากหลายรูปแบบที่มีระดับของความหรูหราแตกต่างกัน และเหมาะสมสำหรับหลายวาระ แต่ผู้ชายมีแต่ชุดหรูที่มองกันว่าสุภาพ แต่มักจะมองกันว่าชุดไม่หรูนั้นไม่สุภาพ ผู้รู้ทั้งหลายช่วยนำเสนอชุดไทยสำหรับผู้ชายที่มีความหรูหราหลายระดับที่ยอมรับกันว่าเป็นชุดสุภาพให้ผู้ชายมีทางเลือกมากขึ้น มาช่วยกันทำให้การรณรงค์ใส่ชุดไทยให้เป็นเอกลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่พวกเราภาคภูมิใจกันดีกว่า หลายประเทศเขาทำกันได้ แล้วทำไมคนไทยจะทำไม่ได้ ถ้าตั้งใจจะทำ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |