พณ.ส่งเรือธงฟ้า ขายสินค้าริมน้ำ กยศ.เยียวยาผู้กู้


เพิ่มเพื่อน    

 “พาณิชย์” ส่ง “เรือธงฟ้า” นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพออกวิ่งจำหน่ายให้กับประชาชนบ้านอยู่ริมน้ำระหว่างการกักตัว "จุรินทร์" ปลื้มรถธงฟ้าถูกใจชาวบ้าน "กยศ.” เคาะมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืม "เลขาฯ รมว.คลัง" ยันเยียวยา 5 พันมีระบบคัดกรองโปร่งใส

    เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนที่ต้องกักตัวเองอยู่บ้านตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุดได้มีการจัดส่งเรือธงฟ้าราคาประหยัด ฝ่าภัยโควิด-19 นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ออกวิ่งจำหน่ายให้กับประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว
    สำหรับสินค้าที่นำไปจำหน่าย ได้แก่ ไข่ไก่เบอร์ 3 จำนวน 30 ฟอง ราคา 90 บาท, ไข่เป็ดเบอร์ 1 จำนวน 30 ฟอง ราคา 100 บาท, ปลากระป๋อง ราคา 11 บาท, ข้าวสาร 2 กิโลกรัม (กก.) 55 บาท, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซองละ 5 บาท, น้ำมันปาล์ม 1 ลิตร 40 บาท เป็นต้น
    นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการให้รถธงฟ้าฝ่าภัยโควิด-19 ออกไปให้บริการพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 200 คัน ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และได้ขอให้เพิ่มจำนวนรถที่ออกไปให้บริการเพิ่มเป็น 250 คัน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องกักตัวเองอยู่บ้าน และให้สามารถหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
    "เรายังได้เพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน โดยได้ยกระดับร้านโชห่วยขึ้นเป็นสมาร์ทโชวห่วย และเป็นโชวห่วยเดลิเวอรี่ เพื่อที่จะสามารถให้บริการประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนที่สั่งซื้อสินค้าจากร้านโชห่วยและมีบริการจัดส่งถึงบ้าน ซึ่งปัจจุบันสามารถค้นหาร้านโชห่วยใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ http://สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่.moc.go.th และ LineChatbot ของ DGA (@dgachatbot) สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่ เพื่อตรวจสอบร้านค้าใกล้บ้าน และสั่งซื้อสินค้า โดยได้เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา และมีจำนวนเบื้องต้น 136 ร้านที่พร้อมให้บริการ จากที่มีร้านค้าอยู่ในแพลตฟอร์ม 2,655 ร้านค้า ซึ่งจะขยายเพิ่มขึ้นต่อไป" นายจุรินทร์กล่าว
    วันเดียวกัน นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพของผู้กู้ยืมในช่วงไวรัสโควิด-19 กองทุนได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ อาทิ 1.ลดเบี้ยปรับจาก 7.5% เหลือ 0.5% ในกรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด กองทุนจะปรับลดเบี้ยปรับให้กับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินกู้ยืมเป็นการชั่วคราว จากอัตรา 7.5% ต่อปี เป็นอัตรา 0.5% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 ธ.ค.2563
    นอกจากนี้ 2.ลดจำนวนหักเงินเดือนเหลือ 10 บาท/คน/เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 3.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้ 4.ลดเบี้ยปรับ 75% เฉพาะผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้าง 5.พักชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ปี 6.ผ่อนผันการชำระหนี้ ในกรณีสถานการณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับผู้กู้ยืม 7.งดการขายทอดตลาดที่กองทุนได้ยึดทรัพย์ไว้ และ 8.ชะลอการบังคับคดี 
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการ รมว.การคลัง กล่าวถึงภาพรวมการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิเงินเยียวยา 5,000 บาทว่า ประชาชนให้ความสนใจยื่นขอสิทธิเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้มีผู้สนใจยื่นขอรับสิทธิกว่า 22 ล้านรายแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าทุกท่านจะได้รับการพิจารณาที่โปร่งใสและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 
    "อยากขอให้ผู้ลงทะเบียนทุกท่านทำความเข้าใจด้วยว่า การลงทะเบียนในครั้งนี้ไม่ได้ยืนยันว่าท่านจะได้รับเงินเยียวยา เพราะผู้ที่จะได้รับเงินจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างชัดเจนว่าได้รับผลกระทบจริงแล้วเท่านั้น" ในฐานะเลขานุการ รมว.การคลังกล่าว. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"