สยอง! แม่บ้านกลับจากฮอลแลนด์ติดโควิด-19 แกะรอยเส้นทางตั้งแต่ 29-31 มี.ค. จากสุวรรณภูมิขึ้นรถไฟฟ้า นั่งแท็กซี่สีชมพู นอนโรงแรมย่านลาดกระบัง กด ATM ไทยพาณิชย์อ่อนนุช นั่งไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE 024 ที่นั่ง 48 C ไปอุบลฯ ต่อรถตู้ไปอำนาจเจริญ ใครร่วมเส้นทางเช็กด่วน พังงาจ่อปิดเมืองตามภูเก็ต
เมื่อวันที่ 1 เมษายน สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทยยังคงย่ำแย่หลังพบการติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมเป็นรายที่ 2 ของจังหวัดอำนาจเจริญ
ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นชาว อ.ปทุมราชวงศา เพศหญิง อายุ 46 ปี ทำงานเป็นแม่บ้านที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 17.00 น. ออกเดินทางจากประเทศเนเธอร์แลนด์ สนามบินอัมสเตอร์ดัม สายการบิน KLM เที่ยวบินที่ 0875 ที่นั่ง 522 เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัว
วันที่ 29 มี.ค. เวลา 10.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง บอกว่าไม่มีไข้ เข้าซื้อน้ำและชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ที่ร้านสะดวกซื้อ และทานข้าวที่ร้านอาหารใกล้กับร้านสะดวกซื้อ แล้วมาลงชั้นล่างบริเวณสถานีรถไฟฟ้า นั่งรถแท็กซี่สีชมพู เวลา 11.00 น. ถึงโรงแรมคานาลิส สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ท ลาดกระบัง กทม. พักที่โรงแรม 1 คืน
วันที่ 30 มี.ค.63 เวลา 10.00 น. ขึ้นแท็กซี่หน้าโรงแรม แวะกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากิ่งแก้ว (อ่อนนุช) เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิปลายทางจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE 024 ที่นั่ง 48 C ถึงสายการบินอุบลราชธานี เวลา 13.30 น. แล้วนั่งรถ Smart bus ทะเบียน 10-6904 ไปที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอุบลราชธานี (บขส.) มีผู้โดยสาร 1 คน
เวลา 14.30 น. ออกจาก บขส.อุบลฯ โดยสารรถตู้สาย อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ คันที่ 17 ทะเบียน 10-0025 มีผู้โดยสาร 6 คน โดยผู้ป่วยนั่งอยู่เบาะหลังคนขับรถตู้ ระหว่างทางมีผู้โดยสารลง อ.ม่วงสามสิบ 1 คน, บ้านหนองขุ่น 1 คน, อ.ลืออำนาจ 1 คน เพื่อต่อรถสหมิตรไป อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และมีผู้โดยสารลงหอนาฬิกา 2 คน ลงหน้านครชัยอีก 1 คน เวลา 15.00 น. ถึง จ.อำนาจเจริญ ลงรถที่หอนาฬิกา โดยมีพี่ชายและพี่สาวมารับ ซึ่งผู้ป่วยนั่งกระบะหลัง แวะกดเงินตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาอำนาจเจริญ
เวลา 16.15 น. ถึง อ.ปทุมราชวงศา พักที่บ้าน โดยพี่ชายมีบ้าน 2 หลัง อยู่คนละหลังกับครอบครัวพี่ชาย ทำอาหารกินคนเดียว ขณะเดียวกันผู้ป่วยมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ไอมีเสมหะ น้ำมูกใส หายใจหอบ
กระทั่งวันที่ 31 มี.ค.63 เวลา 06.30 น. รู้สึกไม่บายมาก มีไข้ นอนไม่หลับ จึงโทรศัพท์ปรึกษากลุ่มงานควบคุมโรค สสจ.อำนาจจเริญ และเวลา 09.00 น. กู้ชีพชั้นสูง โรงพยาบาลปทุมราชวงศา ไปรับผู้ป่วยและตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด 19 จึงรับตัวไว้ เพื่อทำการรักษาตามขั้นตอนต่อไป
ใครป่วยห้ามเข้าปัตตานี
จังหวัดปัตตานี รับแจ้งจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายแวนายี แวดราแม อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นผู้สัมผัสตัวจากนายแวเลาะ แวดราแม ลูกชายที่กลับมาจากร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย โดยผู้ตายประวัติมีโรคประจำตัว คือ เบาหวานขั้นรุนแรง ถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบเรื้อรังมานาน และปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจมาตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ยกระดับในมาตรการการป้องกันยิ่งขึ้น โดยเส้นทางที่จะเดินทางไปยะลาได้มีการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ที่เดินจากจังหวัดยะลามายังปัตตานีจะต้องมีการเข้าด่านคัดกรองดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อมูล หากต้องสงสัยว่ามีอาการไม่สบายจะไม่อนุญาตให้เข้าในจังหวัดปัตตานีเป็นอันขาด จะต้องนำไปตรวจสอบสภาพร่างกายในขั้นต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการดูแลนักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน และพักอาศัยที่หอพัก 7 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ภายใต้มาตรการกำกับดูแลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เพื่อเฝ้าดูอาการก่อนส่งกลับภูมิลำเนา รวมทั้งสิ้นจำนวน 61 คนนั้น
นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เผยว่า นักศึกษาเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และนักศึกษาเหล่านี้ก็ได้รับการคัดกรองจากกรมควบคุมโรคตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว และเดินทางถึงจังหวัดปัตตานี
"นักศึกษาเหล่านี้เป็นผู้ที่มีการศึกษา และมีความรู้สึกรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมสูงมาก เขายืนยันว่าเขาจะไม่ออกมาภายนอก และทุกคนมีสุขภาพจิตดีมาก ทุกคนมีความเข้มแข็งทั้งกายและใจ จึงขอวิงวอนให้ทุกท่านได้ร่วมให้กำลังใจแก่เขาเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาของการเฝ้าระวัง" นพ.ชัยรัตน์กล่าว
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งข้อมูลสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม-31 มีนาคม 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 75 ราย (รายใหม่ 6 ราย) ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 15 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 60 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 1 ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 75 รายนี้รวมอยู่ในรายงานผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงไปก่อนหน้านี้แล้ว
พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า สภ.ป่าตองดำเนินการตามมาตรการป้องกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ป่าตองและภูเก็ต
"เพื่อให้การดำเนินการได้ผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตองออกประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถเช่าในป่าตอง ไม่ปล่อยรถเช่าให้แก่นักท่องเที่ยว ร่วมด้วยช่วยกันให้นักท่องเที่ยวพำนักอยู่แต่ในที่พักอาศัย ไม่ออกไปขับรถเล่น หรือรวมกลุ่มกันบนพื้นที่สาธารณะ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตองยังดำเนินการตรวจกวดขันการขับขี่รถเล่นบนท้องถนนในช่วงเวลากลางคืน (หลัง 2 ทุ่ม) ในรูปแบบ "ยึด-ตักเตือน-เชิญเดินกลับ" โดยเชิญให้มารับพาหนะคืนในช่วงกลางวันถัดไป เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีและความเข้าใจอันดีให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกี่ยวกับการเฝ้าระวังลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ป่าตองและภูเก็ต" พ.ต.อ.อกนิษฐ์กล่าว
"ชัยนาท-พังงา" ยังขาว
ผู้ข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการระบาดกระจายวงกว้างไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ที่จังหวัดชัยนาทยังไม่พบผู้ติดเชื้อ นพ.พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธาณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยถึงมาตรการในการป้องกันโรคโควิด-19 ของจังหวัดชัยนาท ที่ทำให้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในขณะนี้ว่า เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจและการบูรณาการในการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ภายใต้การสั่งการของนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ที่ได้มีการเรียกประชุมทุกหน่วยงานและกำหนดมาตรการในการป้องกันโรคอย่างเข้มข้นตั้งแต่เริ่มแรก มีการดำเนินการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่ต้น มีการตั้งจุดคัดกรอง 4 จุด ตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัด มีทีมคัดกรองระดับหมู่บ้าน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านและ อสม. จำนวนกว่า 1 หมื่นคน ทำหน้าที่ในการสำรวจ ตรวจสอบ และประเมินผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง มีการให้ความรู้ แนะนำการปฏิบัติตัวให้กับประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความตระหนักในการระวังป้องกันโรค
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการสู้ภัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดชัยนาท รายงานผลการตรวจผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสม ตรวจไม่พบเชื้อ มีจำนวน 14 ราย โดยอยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน จำนวน 9 ราย ส่วนการติดตามเฝ้าระวังผู้กลับจากพื้นที่เสี่ยงมีจำนวนสะสม 86 ราย อยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน จำนวน 20 ราย
เช่นเดียวกับจังหวัดพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยนายนเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตปิดไม่ให้คนเข้าแล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้ประชาชนเดินทางออกมาได้เรื่อยๆ ทางจังหวัดพังงาจึงต้องทำงานกันอย่างหนักในการสแกนทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่ ควบคุมดูแลให้อยู่ในมาตรการของจังหวัดพังงาในการกักตัวเอง 14 วัน และจากนี้ไปจะเตรียมประกาศซีลจังหวัดพังงา ด้วยการปิดเมืองไม่ให้มีการเข้า-ออกเป็นการชั่วคราวภายใน 2-3 วันนี้ และจะให้ร้านสะดวกซื้อเปิด-ปิดเป็นเวลา เปิดตั้งแต่ 04.00-22.00 น.เท่านั้น รวมถึงการปิดสถานประกอบการบางประเภทเพิ่มเติม
ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงาเปิดเผยว่า สถานการณ์ของจังหวัดพังงาขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันในพื้นที่ มีผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรค (PUI) 61 ราย ยืนยันผลตรวจเป็นลบแล้ว 59 ราย รอผล 2 ราย มีประชากรกลุ่มเสี่ยงสะสม 62 ราย ในส่วนของกลุ่มเสี่ยงในรีสอร์ตย่านเขาหลักนั้น ยืนยันผลการตรวจเป็นลบ
จ.สมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาครยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยพบทั้งผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ที่ต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้การควบคุมโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจึงได้มีการประชุมร่วมกันในวันนี้ โดยมีมติเห็นชอบให้ออกประกาศบังคับใช้เกี่ยวกับมาตรการสวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าก่อนออกจากบ้านทุกคนทุกครั้ง รวมถึงขณะที่อยู่ในยานพาหนะต่างๆ ด้วย ซึ่งหากใครไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกจับปรับไม่เกิน 20,000 บาท.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |