'หน่อย' คุยคำโตถ้ารัฐบาลทำตามข้อเสนอเพื่อไทย 'ยุทธการ 21 วันสยบ COVID' ป่านนี้สยบโควิดได้แล้ว


เพิ่มเพื่อน    

1 เม.ย. 63 - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้

วันนี้ครบ7 วันของพ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ประเทศไทยยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่หลักร้อยทุกวัน

ดิฉันได้ย้ำแล้วว่าเมื่อนายกฯเลือกใช้ยาแรงคือการใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินเสมือน"ลงมีดผ่าตัด" ต้องจบเร็วถ้ายืดเยื้อเป็นเดือนอาการของประเทศและประชาชนจะสาหัสทั้งการควบคุมโรคไม่ได้ทั้งพิษเศรษฐกิจ

ดังนั้นรัฐบาลควรใช้มาตรการที่ชัดเจนครบถ้วนทุกมิติควบคุมโรคให้สงบได้ในเวลาสั้นที่สุดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนจนสามารถผ่อนคลายบางมาตรการให้คนกลับมาประกออบอาชีพได้

ดิฉันและพรรคเพื่อไทยเสนอมาตรการ “ยุทธการ 21 วันสยบ COVID” มาตั้งแต่วันที่17 มีนาคม ถ้ารัฐบาลยอมใช้มาตรการนี้ตั้งแต่วันนั้นวันที่ 7 เมษายนนี้จะครบ 21 วันเราจะสยบการระบาดของโรคได้ และจะสามารถผ่อนผันมาตรการการปิดกิจการต่างๆให้คนกลับมาทำมาหากินได้แล้วเพราะหัวใจของการสยบการแพร่กระจายของโรคคือการค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อนำมาเข้าระบบให้มากและเร็วที่สุดคนป่วยอยู่โรงพยาบาลรักษาผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยนำมากักตัวโดยเช่าโรงแรมให้เป็นที่พักฟื้นประชาชนที่ใช้ชีวิตในสังคมก็จะปลอดภัยมากขึ้นการควบคุมการระบาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่ใช่การออกมาตรการปิดเมืองปิดสถานประกอบการต่างๆเพียงด้านเดียวโดยไม่ค้นหาผู้ติดเชื้อและนำมาเข้าระบบให้ได้เร็วที่สุดการระบาดของโรคก็จะยาวนานต่อไปเหมือน"อมโรค" ไปเรื่อยๆสยบการแพร่ระบาดไม่ได้เสียทีและคงต้องปิดกิจการต่างๆไปอีกนาน

ซึ่งมาตรการนี้ที่ทั้งเกาหลี, ไต้หวัน, จีนเขาทำกันจนสามารถสยบการแพร่ระบาดได้สำเร็จตัวเลขนิ่งและประชาชนกลับมาทำมาค้าขายได้ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยมีการตรวจCOVID น้อยกว่าประเทศต่างๆทุกประเทศอย่างเกาหลีตรวจไปถึง300,000 คนซึ่งดิฉันบอกไปแล้วว่าใช้งบไม่เยอะถ้ารัฐบาลไทยตั้งเป้าตรวจ100,000 คนปูพรมทุกหมู่บ้านใช้งบเพียง200-300 ล้านเท่านั้น

มาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาจึงต้องชัดเจนครบถ้วนไม่ใช่สักแต่ทำไปประกาศทีละมาตรการไม่เป็นระบบครบถ้วนเช่นให้ปิดสถานประกอบการ, ตั้งด่านแถมเมื่อวานนายกฯเพิ่งประกาศว่าอาจจะปิดการเดินรถสาธารณะทั้งหมดจะปิดยังไงคะถ้าสถานที่ทำงานต่างๆยังเปิดอยู่พนักงานก็ต้องเดินทางไปทำงาน

มาตรการที่รัฐบาลออกมาแบบไม่รอบคอบครบถ้วนทำให้เกิดผลเสียหายยิ่งใหญ่มาแล้วคือการประกาศปิดสถานประกอบการ28 ประเภทในกรุงเทพฯโดยไม่มีมาตรการรองรับให้ครบถ้วนส่งผลให้คนกว่าแสนเดินทางกลับบ้านทำให้เชื้อแพร่กระจายไปทั่วประเทศจะเห็นได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งทะลุพันแล้วโดยเฉพาะต่างจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อจนเกือบครบทุกจังหวัด

ดิฉันกลัวเหลือเกินกับวิธีคิดของนายกฯที่บอกว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะยังไม่เลิกถ้าถึงกำหนด30 เมษายนยังหยุดการแพร่เชื้อไม่ได้ก็จะต่อพ.ร.ก.ออกไปเรื่อยๆหมายถึงประชาชนต้องหยุดทำมาหากินอย่างไม่มีกำหนดโรคระบาดก็คุมไม่ได้แล้วเศรษฐกิจก็จะสาหัสมากยิ่งขึ้นหยุดโทษแต่ประชาชน!! แล้วลงมือปรับประสิทธิภาพการทำงานของตัวเอง

พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือให้ผู้นำมีอำนาจเด็ดขาดในการออกมาตรการที่ดีอย่างครบถ้วนโดยมีจุดประสงค์ให้การแก้ปัญหาเร็วที่สุดไม่ใช่แค่ออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาบังคับประชาชนให้หยุดทำมาหากินอย่างเดียวแก้โรคระบาดไม่ได้หรอกค่ะ

นายกฯโปรดพิจารณาข้อเสนอ“ยุทธการ21วันสยบCOVID” ที่ดิฉันและพรรคเพื่อไทยได้เสนออีกครั้งเถอะค่ะขอย้ำว่าถ้าทำตั้งแต่วันที่เราเสนอคือ17 มีนาคมวันที่7 เมษายนนี้ก็ครบ21 วันรัฐบาลจะคุมสถานการณ์การการแพร่ระบาดได้ประชาชนปลอดภัยรัฐบาลก็จะสามารถผ่อนปรนมาตรการปิดกิจการปล่อยให้คนกลับมาทำมาหากินได้

โดยเข้มงวดการใช้แมสSOCIAL DISTANCING การไม่อยู่รวมตัวกันการไม่ใช้ของร่วมกันและมาตรการสุขอนามัยแบบที่ไต้หวัน, เกาหลีประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเกือบปกติและทำมาค้าขายกันได้บ้างเพื่อไม่ให้

เศรษฐกิจไทยสาหัสหนักจนเกินความสามารถของรัฐบาลในการเยียวยาวางการเมืองลงหยุดการแบ่งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลไว้ก่อนในยามที่ประเทศวิกฤตเช่นนี้เราในฐานะนักการเมืองต้องร่วมมือกันทำงานเพราะ“ชีวิตของคนไทยสำคัญที่สุด” ถ้ารัฐบาลนำข้อเสนอของเพื่อไทยไปทำสำเร็จความดีความชอบก็จะตกกับรัฐบาลเองไม่ใช่ฝ่ายค้านหรอกค่ะ

#จบเร็วคนไทยปลอดภัยเศรษฐกิจฟื้นเร็ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"