“ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” หรือ “โควิด-19” ยังคงเป็นไวรัสล้างโลกอย่างแท้จริง เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อ เชื่อว่าไม่เกินสิ้นสัปดาห์นี้ตัวเลขจะทะลุ 9 แสนรายอย่างแน่นอน ในขณะที่ผู้เสียชีวิตนั้นก็ต้องลุ้นกันว่าจะถึงครึ่งแสนหรือไม่ แต่ที่แน่นอนอีกเช่นกันคือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อของชาวสหรัฐอเมริกาที่เชื่อว่าปลายสัปดาห์นี้ก็จะทะลุ 2 แสนแน่นอน และ คงครองบัลลังก์ผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกแบบไม่มีใครกล้าแซงแน่ เพราะอันดับสองอย่าง “แดนมะกะโรนี” นั้นยังห่าง จากแดนแฮมเบอร์เกอร์ในระดับแสนเลยทีเดียว...๐ งานนี้ชาวอเมริกันที่เกลียด “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ถึงกับเมาธ์มอยกันให้แซ่ดว่าเป็นไปตามเป้าแล้ว ที่ต้องการสร้างอเมริกาให้เป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้ก็ยืนเป็นหนึ่งและแซง “จีน” คู่แค้นของทรัมป์อย่างเข้าเส้นเสียแล้ว แต่กลับเป็นที่หนึ่งแบบที่ชาวมะกันทั้งชาติไม่มีใครอยากได้...๐
หลังจาก “เมืองนนท์” ประกาศน้องๆ เคอร์ฟิวไปแล้วในการห้ามออกนอกบ้านในยามค่ำคืน รวมถึงบรรดาร้านค้า และร้านสะดวกซื้อก็ต้องปิดทำการด้วย ล่าสุด “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าฯ กทม.ตราตั้ง ก็ได้กำหนดให้ "ร้านสะดวกซื้อ-โชว์ห่วย-ซูเปอร์มาร์เก็ต" ปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตี 5 รวมทั้งยังสั่งปิดสวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งแม้จะบอกว่าไม่ถึงขั้นเคอร์ฟิวแต่ก็ไม่ห่างไกลเท่าใดนัก...๐
แต่ที่น่าสนใจคือกรณี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ที่ได้ออกมาตำหนิติติงระบบการขนส่งสาธารณะ พร้อมให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาที่จะลดเที่ยวจนถึงขั้นหยุดบริการ โธ่! ลุงตู่จะให้ทุกคนมีรถส่วนตัวกันเลยหรือ อย่าลืมคนหาเช้ากินค่ำ หรือมนุษย์เงินเดือนเขาจะมี “รถ” ใช้กันได้อย่างไร ทั้งที่ดูตัวเลขผู้ติดเชื้อของไทยที่ล่าสุดมีรวม 1,771 คนนั้น ลองลงลึกในรายละเอียดมีใครติดจากการใช้บริการขนส่งสาธารณะกันบ้าง มีแต่คนมีรถส่วนตัวและไปเที่ยวสถานบันเทิงหรือสนามมวยกัน ซึ่งเรียกว่ามีอันจะกินทั้งสิ้นใช่ไหม...๐
แล้วที่สำคัญบรรดาขนส่งสาธารณะทั้งหลายก็ปรับตัว โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่มีการกำหนดที่นั่งไม่ให้ชิดกัน ยิ่งบรรดา “ขสมก.” ยังทำถึงขั้นถ้ามีผู้โดยสารเต็มแล้วตามนโยบายเว้นระยะห่างยังไม่รับผู้โดยสารเพิ่มเติมเหมือนปกติเลย จะมีแต่ “รถร่วมบริการ” ของภาคเอกชนเท่านั้นที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจ ซึ่งจะต้องมีการกวดขัน โดยเฉพาะการลงโทษให้เด็ดขาด ที่สำคัญที่ “ลุงตู่” ต้องไม่ลืมว่าคนทำมาหากินไม่ใช่ทุกบริษัทจะให้ทำงานที่บ้านได้ ฉะนั้นงานนี้วิธีที่ดีที่สุดคือการเพิ่มเที่ยวแบบไม่ต้องสนใจการขาดทุน แต่สนใจเรื่องของระยะห่างทางสังคมมากกว่า...๐
ที่สำคัญที่บอกว่า การจราจรยังหนาแน่น “ศบค.” ลองไปเช็กดูว่าใช่บรรดาผู้ที่บอกทำงานที่บ้านทั้งภาครัฐและเอกชนหรือเปล่าที่ออกมา ไม่ได้ทำงานที่บ้านจริง แล้วยังไม่นับรวมบรรดานักการเมืองและรัฐมนตรีอีกต่างหากที่เดินทางไปไหนก็มีรถและมอเตอร์ไซค์ตำรวจคอยติดตามเป็นพรวน เพราะต้องไม่ลืมว่ากรณีการกักตุนสินค้านั้นก็เป็นพวกมีรถใช้ และพวกมีอันจะกิน รวมถึงพวกมีการศึกษาทั้งนั้นมิใช่เหรอที่ไปแห่ซื้อ เพราะคนขึ้นรถเมล์หรือบริการสาธารณะทั้งหลายนั้นเขาไม่มีปัญญาหรือเงินเพียงพอหรอก เพราะไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าหาเช้ากินค่ำหรือ ฉะนั้นการจะตำหนิติติงอะไรไม่ใช่มองจาก “หอยคอยงาช้าง” และเชื่อข้อมูลแบบหลับหูหลับตานะลุงจ๋า...๐
ต้องเรียกว่าเป็น “นิมิตหมายอันดี” เมื่อ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้ออกแถลงการณ์ว่าพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลในการช่วยประเทศฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน แหม! แต่อดีตเคยมีบทเรียนมาแล้วจึงทำให้ “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แม้จะขอบคุณถึงนายสมพงษ์ แต่ก็กระตุกขาเล็กๆ ให้ เตือนบรรดาลูกหาบอย่าตีกินทางการเมือง ควรจะทำอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านบอกอย่างจริงๆ จังๆ...๐
ไม่รู้ว่าว่าองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ว่างจัดหรือไม่ เมื่อล่าสุด “ดร.เฉลิมพล ไวทยางกูร” นักวิชาการอิสระ ที่ออกมาระบุว่า WHO ให้เปลี่ยนคำว่า “Social distancing” หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็น “Physical distancing” หรือเว้นระยะห่างทางกายภาพแทน เพราะถูกต้องมากกว่า พระเจ้าจอร์จนี่เป็นงานหลักของ WHO หรือนี่...๐ ทิ้งท้ายด้วยการจากไปของ “ประจวบ ไชยสาส์น” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศถึงแก่อนิจกรรม โดยกำหนดรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรม 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 2-4 เม.ย. ณ ศาลา 14 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ...๐
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |