แนวโน้มของการทำงานแบบใหม่กำลังมาแรงท่ามกลางสถานการณ์ของโควิด-19 ซึ่งทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงักและปิดกิจการไปก็มี แต่ในขณะเดียวกันการทำงานจากบ้านที่เรียกกันว่า Work from home หรือทำงานจากข้างนอกในระยะไกล (Remote working) กำลังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในช่วงนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเทรนด์ของการทำงานลักษณะดังกล่าวเริ่มเป็นที่แพร่หลาย และมีบทบาทในองค์กร หรือบริษัทต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะทั้งในต่างประเทศหรือในประเทศไทยเองก็ตาม โดยการทำงานอย่างยืดหยุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จะช่วยให้พนักงานสามารถใช้ความคิดได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
คำถาม....แล้ว Work from Home คืออะไร? แน่นอนว่า Work from Home หากแปลตรงตัว นั่นก็คือการทำงานจากบ้าน โดยที่ไม่ต้องเดินทางเข้าออฟฟิศ ซึ่งอันที่จริงแล้ว การ Work from Home ไม่จำเป็นจะต้องทำงานจากที่บ้านเท่านั้น แต่ยังสามารถรวมไปถึงการทำงานจากที่คุณอยู่ที่ใดก็ได้ในรูปแบบของ Remote Working หรือการทำงานทางไกลที่มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับการทำงานในออฟฟิศอีกด้วย
จากผลสำรวจปลายปี 2562 ที่ผ่านมาของไมโครซอฟต์ ประเทศไทย ในหัวข้อ เทรนด์คนออฟฟิศในยุคปัจจุบันพบว่าไลฟสไตล์การทำงานของคนไทยในปี 2563 เป็นแบบนินจา ชี้ให้เห็นว่าคนปัจจุบันมีความสามารถในการทำงานให้เสร็จได้ด้วยตนเอง และยังสามารถให้เพื่อนร่วมงานมาช่วยกันทำผลงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านระบบการทำงานแบบดิจิทัล ในขณะเดียวกันผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจพื้นที่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการทำงานมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องการการเข้าถึงไฟล์งานส่วนตัวอันไม่พึงประสงค์จากบุคคลอื่น ซึ่งสอดคล้องไปกับเทรนด์การทำงานแบบ Work from Home ในปัจจุบัน และแม้ว่าขณะนี้ผู้คนจะแยกกันทำงานจากคนละที่ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายังคงมีประสิทธิภาพ และมีแนวโน้มว่าจะดียิ่งกว่าการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน
ส่วนเทคนิคสู่หนทางความสำเร็จในหน้าที่การงานของนินจานั้น ได้มีการขยายผลจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบนินจา ส่วนใหญ่มักจะชอบทำงานในพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง ชอบใช้ความคิดอย่างระมัดระวังและมีความรอบคอบ รวมไปถึงมักจะวางแผนล่วงหน้าและคาดการณ์ผลลัพธ์ออกมาในแง่บวกเสมอ ยิ่งในยุคปัจจุบันกระบวนการทำงานต่างๆ เริ่มแปรผันเข้าสู่โลกแห่งยุคดิจิทัลมากขึ้น นินจาจึงยิ่งชอบที่จะซุ่มเงียบทำงานในที่ของตนเอง แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดต่อกับโลกภายนอกเพื่อนำเสนอผลงานที่ดีที่สุดนั่นเอง
แน่นอนว่า Microsoft Teams (ไมโครซอฟต์ ทีมส์) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เป็นอาวุธลับในการสื่อสารของนินจาในองค์กรสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นนินจาในองค์กรขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ หรือกระทั่งบริษัทสตาร์ทอัพทั่วไป โดยทีมส์เป็นเครื่องมือการทำงานร่วมกันทั้งสำหรับทั้งคนในองค์กรและคนนอกองค์กร เน้นความปลอดภัย คล่องตัว และปรับใช้ได้อย่างเฉพาะตัว ตามวิถีการใช้งานของแต่ละบุคคล อาจกล่าวได้ว่าทีมส์เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองชีวิตการทำงานในยุคนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ที่ไหนบนโลก เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถสื่อสารได้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีมาให้
ยกตัวอย่างของฟีเจอร์ก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแช้ต วิดีโอคอล แชร์ไฟล์ และแก้ไขงานพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แบบเรียลไทม์ ถึงแม้ว่าจะอยู่บ้านก็ตาม สามารถทำห้องประชุมให้เป็นห้องประชุมออนไลน์ได้โดยไม่ต้องนัดพบนอกสถานที่ พร้อมโชว์ผลงาน ผนวกกับการเปิดรับความคิดในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบน whiteboard ร่วมกัน การพิมพ์ข้อความ การแชร์ลิงก์ แชร์ไฟล์ เพื่อดึงข้อมูลเฉพาะในกลุ่ม รวมไปถึงยังสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวด้วยการเบลอฉากหลังขณะประชุมได้อีกด้วย
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ไม่เพียงแต่การทำงานรูปแบบเดิมๆ ที่จะสามารถสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานให้ทุกคนได้ แต่การที่จะกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ รอบตัว รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อต่อยอดความสามารถให้ไปถึงจุดสูงสุด ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่เทรนด์การทำงานจากบ้านกำลังมาแรง แพลตฟอร์มที่ดีก็นับว่าเป็นตัวเลือกของการเข้ามาช่วยซัพพอร์ตการทำงานทางหนึ่งด้วย.
รุ่งนภา สารพิน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |