31 มี.ค.61 - ที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat) ของการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6 ในหัวข้อ “ปัจจัยสำคัญของแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ในอันที่จะเพิ่มพูนประโยชน์จากผลสำเร็จที่ผ่านมา และการประสบความสำเร็จท่ามกลางภูมิทัศน์ของการพัฒนาของโลกที่เปลี่ยนแปลง”
โดยนายกฯกล่าวถ้อยแถลงว่า ความสำเร็จของ GMS เพื่อเชื่อมโยงประชาชนกว่า 340 ล้านคนเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นกว่า 60 ล้านคน ทำให้เกิดรายได้เข้าสู่อนุภูมิภาค จำนวนคนจนลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยของความสำเร็จในอนาคตขึ้นอยู่กับการทำงานอย่างร่วมมือร่วมใจกันบนพื้นฐานของหลักการ 3M คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ การเคารพซึ่งกันและกัน และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน
จึงขอเสนอแผนการทำงานในช่วง 5 ปีข้างหน้าและในระยะยาว เพื่อรับมือกับความท้าทายและสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญในอนาคต ใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1.การร่วมมือกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรับมือกับวิวัฒนาการของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 2.พัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้มีคุณภาพ และใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จากการเชื่อมโยง โครงข่ายคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ 3.ร่วมมือกันดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CBTA) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่ออย่างเป็นรูปธรรม
4.การบริหารจัดการแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพ เราใช้แม่น้ำร่วมกัน มีความรับผิดชอบในการใช้แม่น้ำร่วมกัน ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำเพื่อความรุ่งเรืองร่วมกัน จึงควรแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการรักษาระดับน้ำและหาแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อรักษาระดับน้ำที่เหมาะสม และ
5.ร่วมเสริมสร้างความแข็งแกร่งความร่วมมือด้านการเกษตร และสิ่งแวดล้อม เห็นว่าควรร่วมกันยกระดับมูลค่าสินค้าทางเกษตร ด้วยการกำหนดมาตรฐานการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และผลิตอาหารที่มีคุณภาพ และปลอดภัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดราคา และการขยายตลาดสินค้าเกษตรนอกภูมิภาค ไทยยินดีให้ความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่มีคุณภาพ
รวมถึงความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขงสีเขียว อย่างยั่งยืนต่อไป