'จุรินทร์'โผล่แจง กมธ.ปราบโกงแต่องค์ประชุมดันไม่ครบ


เพิ่มเพื่อน    

1 เม.ย.2563 -  ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากวันนี้มี กมธ.มาประชุมไม่ถึง 5 คน จึงไม่ครบเป็นองค์ประชุม โดยเดิมมีกรรมาธิการบางคนรับปากว่าจะมาประชุมแต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลากลับไม่มา ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม ดังนั้น การประชุมวันนี้จึงเป็นเพียงของการปรึกษาหารือเท่านั้น

จากนั้นนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ให้ข้อมูลต่อคณะ กมธ. ว่า แม้กระทรวงพาณิชย์จะได้ออกประกาศห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย และกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตต้องแจ้งสต๊อกสินค้า แต่ปรากฏว่ามีหลายบริษัทไม่ได้แจ้งสต๊อกสินค้ามายังหน่วยงานภาครัฐและยังไม่ยอมแจ้งงบการเงิน และจากการตรวจสอบพบว่ามีบางบริษัทนำส่งขายหน้ากากในตลาดมืด เพราะได้ราคาดีกว่า โดยไม่มีการตีตราบริษัทที่หน้ากาก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างนายอัจฉริยะกำลังให้ข้อมูลอยู่นั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้เดินทางมายังรัฐสภา เพื่อจะขอเข้าให้ข้อมูลต่อคณะ กมธ. แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แจ้งผ่านเจ้าหน้าที่กลับไปยังนายจุรินทร์ว่ายังไม่ให้เข้ามาในห้องประชุม เพราะนายอัจฉริยะกำลังชี้แจงอยู่ ส่งผลให้นายจุรินทร์ที่ทราบมาว่าการประชุมครั้งนี้มีองค์ประชุมไม่ครบ จึงเดินทางกลับออกจากรัฐสภาทันที

อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะ กมธ. ถึงการปรับโครงสร้างการกระจายหน้ากากอนามัยที่ ศบค.ปรับให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้กระจายให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงว่า กระทรวงพาณิชย์ถูกลดบทบาท เพราะรูปแบบนี้เป็นแนวทางที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยเห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขจะได้กระจายให้โรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัดโดยตรง และในส่วนของจังหวัดควรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ขณะนี้มีอำนาจเต็มขึ้นมาบัญชาการบริหารสถานการณ์โควิดในจังหวัดตัวเอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะแจกจ่ายให้กลุ่มเสี่ยงกลุ่มใดก่อน

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ทุกกระทรวงต้องช่วยกันยืนยันว่า ได้กระจายหน้ากากให้ทุกโรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธรณสุขอย่างเต็มที่ ตกวันละ 1.5 ล้านชิ้นต่อวัน นอกจากนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีให้โยกงบแต่กระทรวง 10% มาไว้ที่งบกลาง เพื่อใช้ในการบริหารสถานการณ์โควิด เพราะขณะนี้การดูแลประชาชนให้พ้นวิกฤตถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และกระทรวงพาณิชย์ยินดีให้งบส่วนนี้ไปใช้ ซึ่งกำลังหาทางให้ประชาชนได้รับสินค้าอุปโภคบริโภคส่งตรงถึงหน้าบ้านในรูปแบบรถพุ่มพวง โดยเตรียมไว้ 250 คัน กระจายทั่วกรุงเทพและปริมณฑล อีกทั้งยังมีโครงการสมาร์ทโชว์ห่วยสามารถเดลิเวอร์รีสินค้าถึงหน้าบ้านเช่นกัน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"