'ก้าวไกล'โหยหา'อนาคตใหม่'รำลึก1ปี'ธนาธร'ประกาศก้องลงนามคำประกาศสัตยาบัน


เพิ่มเพื่อน    

31 มี.ค.63-เพจ อนาคตใหม่ - Future Forward โพสต์ข้อความระบุว่า ครบรอบ 1 ปี ลงนามสัตยาบัน "อนาคตใหม่" 54 ส.ส. ยังยึดมั่นอุดมการณ์สานต่อภารกิจกับ "พรรคก้าวไกล” 

"มีทางเลือกที่จะหยิบเงิน 10 ล้านแล้วหันหลังให้เพื่อนเราในห้องนี้และจากไป หรือปฏิเสธมันแล้วอยู่กับทุกคน ร่วมกันยืนยันว่า อนาคตที่อยากเห็น คือสิ่งที่จะร่วมกันสร้างขึ้นมาผ่านพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง ผ่านพรรคการเมืองที่ยึดโยงกับสมาชิก ยึดโยงกับประชาชน”

วันนี้ เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศก้องด้วยประโยคข้างต้น ท่ามกลางกว่า 500 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นว่าที่ ส.ส. ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ คณะทำงานจังหวัด และเจ้าหน้าที่พรรค ซึ่งมารวมตัวกัน เป็นสักขีพยานในการลงนาม "คำประกาศสัตยาบัน"

ย้อนกลับไปเหตุการณ์ในวันนั้น เพิ่งผ่านพ้นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ได้เพียงราว 1 สัปดาห์ ขณะที่หน้าข่าวกำลังสะพัดด้วยเรื่องสูตรการคำนวนคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อันพิลึกพิลั่น ข่าวการจับมือจับขั้วเตรียมตั้งรัฐบาล และข่าวการซื้อตัว ส.ส. ซึ่งมีราคาค่างวดเป็นตัวเลขถึง 8 หลัก พรรคอนาคตใหม่ได้จัดงานสัมมนาว่าที่ ส.ส. ของพรรค 88 ชีวิต ซึ่งล้วนแต่เป็นคนหน้าใหม่ทั้งหมด

กิจกรรมดังกล่าวของพรรคอนาคตใหม่ มีการเชิญคุณอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" กิจกรรมเวิร์คช็อปการเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในหัวข้อ "ต้องการทำอะไรเมื่อได้เป็น ส.ส." การเตรียมตัวเป็น ส.ส. ข้อควรปฏิบัติ และสิ่งที่ต้องทำตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนด ก่อนจะมีไฮไลท์สำคัญคือกิจกรรมสำคัญอย่างการลงนาม "คำประกาศสัตยาบัน"

ท่ามกลางสักขีพยานกว่า 500 ชีวิต ธนาธรเป็นผู้อ่านคำประกาศสัตยาบันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ด้วยข้าพเจ้าตามรายชื่อท้ายคำประกาศนี้ เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่้วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ขอให้สัตย์ปฏิญาณในการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้

1.จะสนับสนุนและผลักดันบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามมติของพรรคอนาคตใหม่ และจะไม่เสนอชื่อหรือให้ความเห็นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช.

2.จะสนับสนุนและผลักดันการลบล้างผลพวงรัฐประหารของ คสช.

3.จะสนับสนุนและผลักดันให้มีการปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย

4.จะยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ทุกประการ

5.จะต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง"
.
จบข้อความตามสัตยาบัน จากนั้นเข้าสู่การประกาศรายชื่อว่า ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ทั้ง 88 คน ทีละคนๆ ก้าวขึ้นมาบนเวทีเพื่อลงนาม โดยมีเสียงปรบมือจากผู้คนที่มาร่วมงานดังกระหึ่มมอบให้กับทุกคน ดังรายชื่อต่อไปนี้ 1.ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2.ปิยบุตร แสงกกนกกุล 3.วรรณวิภา ไม้สน 4.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 5.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 6.พงศกร รอดชมภู 7.พรรณนิการ์ วานิช 8.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 9.ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ 10.พิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์ 11.เจนวิทย์ ไกรสินธุ์ 12.สุรชัย ศรีสารคาม 13.ชำนาญ จันทร์เรือง 14.อภิชาติ ศิริสุนทร 15.ศิริกัญญา ตันสกุล 16.รังสิมันต์ โรม 17.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ 18.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ 19.วินท์ สุธีรชัย 20.ไกลก้อง ไวทยการ

21.สุเทพ อู่อ้น 22.ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 23.ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 24.ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 25.คารม พลพรกลาง 26.สมชาย ฝั่งชลจิตร 27.วาโย อัศวรุ่งเรือง 28.คำพอง เทพาคำ 29.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 30.สุพิศาล ภักดีนฤนาท 31.นิรามาน สุไลมาน 32.นิติพล ผิวเหมาะ 33.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร 34.วิรัช พันธุมะผล 35.ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 36.วรภพ วิริยะโรจน์ 37.กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 38.เบญจา แสงจันทร์ 39.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 40.ณัฐวุฒิ บัวประทุม

41.ทวีศักดิ์ ทักษิณ 42.ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ 43.สุรวาท ทองบุ 44.องค์การ ชัยบุตร 45.สำลี รักสุทธี 46.เกษมสันต์ มีทิพย์ 47.ธีรัจชัย พันธุมาศ 48.สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล 49.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 50.จุลพันธ์ โนนศรีชัย 51.มานพ คีรีภูวดล 52.สหัสชัย อนันตเมฆ 53.บุญรวี ยมจินดา 54.เทวฤทธิ์ นิกรเทศ 55.วัสพงศ์ วิทูรเมธา 56.อิสราวดี ยะอิน 57.สาธิต ปิติวรา 58.สาวิตรี สันติพิริยพร 59.วรรณวรี ตะล่อมสิน 60.มณฑล โพธิ์คาย

61.สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 62.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร 63.โชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี 64.ทศพร ทองศิริ 65.ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ 66.จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ 67.ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 68.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา 69.จุมพิตา จันทรขจร 70.อนาวิล รัตนสถาพร 71.วุฒินันท์ บุญชู 72.ทองแดง เบ็ญจะปัก 73.สมัคร ป้องวงษ์ 74.ฐิตินันท์ แสงนาค 75.ฐนภัทร กิตติวงศา 76.จารึก ศรีอ่อน 77.ญาณธิชา บัวเผื่อน 78.กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ 79.จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ 80.ขวัญเลิศ พานิชมาท 81.จรัส คุ้มไข่น้ำ 82.กวินนาถ ตาคีย์ 83.ศักดินัย นุ่มหนู 84.เอกภพ เพียรพิเศษ 85.พีรเดช คำสมุทร 86.ปดิพัทธ์ สันติภาดา 87.เอกการ ซื่อทรงธรรม 88.กฤติเดช สันติวชิระกุล

แต่อย่างที่ทราบกันดีในเวลาต่อมาว่า สูตรการคำนวน ส.ส.อันสุดแสนพิสดารของ กกต. ก็ได้ทำให้พรรคอนาคตใหม่มีจำนวน ส.ส. 81 คน และต่อมา ธนาธรก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส. ขณะที่ จุมพิตา จันทรขจร ส.ส. เขต 5 จังหวัดนครปฐม ลาออกเนื่องจากต้องเข้ารับการรักษาตัว อย่างไรก็ตามพรรคมี ส.ส. เพิ่มอีก 1 คนคือ ศรีนวล บุญลือ จากการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 จ.เชียงใหม่ โดยการเลือกตั้งครั้งนั้น พลพรรคอนาคตใหม่ได้ทุ่มเทสรรพกำลังต่างๆ ไปช่วยหาเสียง จนทำให้ศรีนวลได้คะแนนถล่มทลายมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม 2562 ที่ประชุมวิสามัญของพรรค มีมติขับออก 4 ส.ส. ซึ่งไม่เคารพในมติที่ประชุม ส.ส. ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค และนโยบายของพรรคตามที่หาเสียงไว้กับประชาชน และยังกระทำการดังกล่าวต่อเนื่องหลายครั้ง โดย 4 ส.ส. กล่าวได้แก่ 1.ศรีนวล บุญลือ ส.ส. เชียงใหม่ ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งซ่อม ต่อมาย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย 2.จารึก ศรีอ่อน ส.ส. จันทบุรี ต่อมาย้ายไปอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไทย 3.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี ต่อมาย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ และ 4.กวินนาท ตาคีย์ ส.ส. ชลบุรี ต่อมาย้ายไปอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไทย

21 มีนาคม วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารนั้น พรรคอนาคตใหม่ มี ส.ส. ทั้งหมด 76 คน โดยแบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 26 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน ทั้งนี้ เมื่อคำวินิจฉัยออกมาดังกล่าว ทำให้ ส.ส. 11 คนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคต้องสิ้นสภาพการเป็น ส.ส. ด้วย ทำให้จำนวน ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ ณ วันนั้น มีจำนวน 65 คน ซึ่งแผนการที่เตรียมรับมือไว้ก็คือ การย้ายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ทั้งหมดด้วยกัน

แต่กระนั้นกลับไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่ออยู่ในสภาวะสุญญากาศ ส.ส. ไม่มีพรรคสังกัด ทำให้มีพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาติดต่อทาบทาม ดังที่เรียกกันว่า "งูเห่า" อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด ส.ส. 11 คน ตัดสินใจ "ไม่ไปต่อ" โดยได้ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ดังนี้

พรรคภูมิใจไทย 11 คน ได้แก่ 1.วิรัช พันธุมะผล ส.ส. บัญชีรายชื่อ 2.สำลี รักสุทธี ส.ส. บัญชีรายชื่อ 3.ฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส. ขอนแก่น 4.เอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส. แพร่ 5.กฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส. แพร่ 6.กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส. ฉะเชิงเทรา 7.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส. กรุงเทพฯ 8.โชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส. กรุงเทพฯ และ 9.อนาวิล รัตนสถาพร ส.ส. ปทุมธานี

พรรคชาติพัฒนา 1 คน ได้แก่ สมัคร ป้องวงษ์ ส.ส. สมุทรสาคร และพรรคชาติไทยพัฒนาอีก 1 คน ได้แก่ จุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส. บัญชีรายชื่อ

สรุป ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ย้ายไปสู่พรรคการเมืองใหม่ด้วยกัน คือ "พรรคก้าวไกล" มีจำนวนทั้งสิ้น 54 คน

เป็น 54 คนที่ ยึดมั่นอุดมการณ์ และพร้อมร่วมกันสานต่อภารกิจดังที่ได้ลงนามในสัตยาบันไว้ เพราะตราบใดที่ภารกิจ 5 ข้อนั้น ยังไม่สำเร็จ ต้องเดินหน้าไปต่อ ดังที่ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรค เคยกล่าวไว้ในวันดังกล่าวว่า "การลงชื่อในคำประกาศสัตยาบัน แม้จะไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย แต่จะเป็นหมุดหมายใหม่ว่าเราเริ่มต้นทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์ ด้วยความหวัง เราจะไม่ทรยศพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจพรรคอนาคตใหม่ เราจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน แม้ว่าท่านจะเลือกหรือไม่ได้เลือกเราก็ตาม".

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"