การตรวจสอบปัญหาทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง-ผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ หน่วยงานในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ถึงตอนนี้มาถึงจุดสำคัญใน 2 ระดับของการตรวจสอบคู่ขนาน ทั้งฝ่ายบริหารคือ พม.และหน่วยตรวจสอบโดยตรงที่กำลังรุกตรวจสอบทุจริตเงินคนจนทั่วประเทศคือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
จุดแรก การตรวจสอบในส่วนของฝ่ายบริหาร คือ พม.มาถึงจุดที่ชัดเจนในระดับหนึ่งว่า ทุจริตเงินคนจน-ด้อยโอกาสดังกล่าว ที่ยิ่งตรวจก็ยิ่งพบการโกงกินของ ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ ในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหลายสิบแห่งทั่วประเทศ มหกรรมการโกงกินดังกล่าวเริ่มชัดว่า บิ๊กข้าราชการใน พม. มีเอี่ยวอย่างที่หลายฝ่ายเชื่อกันมาตลอด
หลัง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม.เปิดเผยความคืบหน้าการสืบข้อเท็จจริงว่า พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และ ณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงซึ่งมี พ.ต.ท.เธียรรัตน์ วิเชียรสรรค์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ส่งสรุปผลการสืบสวนไปให้ รมว.พม.พิจารณาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุผลรายงานเบื้องต้นพบ 2 ข้าราชการมีมูลความผิดจริง พล.อ.อนันตพร บอกว่าหลังได้รับรายงานได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมีข้าราชการระดับ 11 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการสอบ พร้อมกับกรรมการที่มาจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี และ พม. และมีการประสานขอให้กรรมการสอบและสรุปผลให้เสร็จก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์ด้วย
ต้องรอดูกันว่าชะตากรรมของ พุฒิพัฒน์ ปลัด พม. และ ณรงค์ รองปลัด พม.ที่เป็นอดีตลูกหม้อกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งรับผิดชอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งโดยตรงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นอกจากถูก พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ สั่งย้ายด่วนมานั่งตบยุงอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ 23 ก.พ. แม้ฝ่ายต่างๆ ไล่ตั้งแต่ระดับรองนายกฯ ที่กำกับดูแล พม.คือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี จะบอกว่าเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่ พล.อ.ฉัตรชัย ก็เชื่อว่าการทุจริตดังกล่าวมีการทำเป็นกระบวนการไม่สามารถทำคนเดียวได้ ผนวกกับที่ บิ๊กโย่ง-พล.อ.อนันตพร เองก็เร่งเครื่องตรวจสอบคนในกระทรวงแบบไม่รอช้า เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้กระแสสังคมรับไม่ได้
จึงน่าจะพอเห็นเค้าลางตอนจบของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีว่า ต้องมีระดับบิ๊กในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ บางคนที่ยังไม่ชัดว่าจะเป็นใครเสี่ยงจะถูกไล่เช็กบิลย้อนหลังต่อจากนี้ ส่วนการตรวจสอบแบบคู่ขนานกันไปแต่มีบทบาทมากสุดในตอนนี้ นั่นก็คือการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. พบว่ายิ่งสอบก็ยิ่งเจอทำให้ทั้ง พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ป.ป.ท.และบอร์ดส่งไม้รับลูกเดินหน้าตรวจสอบกันอย่างเข้มข้น
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การตรวจสอบของ ป.ป.ท. ไปพบความพยายามขัดขวางการตรวจสอบ จน ป.ป.ท.ต้องออกแอกชันฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดการ
อันเป็นข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ที่เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ป.ป.ท.เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ว่า ในการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เพื่อไปตรวจสอบการทุจริตของศูนย์คนไร้ที่พึ่งบางแห่ง พบอุปสรรคจาก ผอ.ศูนย์ที่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้ยากต่อการสอบสวน บอร์ด ป.ป.ท.จึงมีมติทำหนังสือไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ย้าย ผอ.ศูนย์ จ.ตรัง, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ออกนอกพื้นที่ ส่วน จ.นครพนม มีผอ.โรงเรียนเข้ามาสนับสนุนการกระทำความผิดและคุกคามพยาน จึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการย้ายออกจากพื้นที่เช่นกันเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน โดยยึดตามแนวมติคณะรัฐมนตรีที่เปิดช่องให้สามารถเสนอย้ายผู้ที่มีพฤติการณ์เบี่ยงเบนพยานหลักฐานเพื่อปกปิดความผิดออกนอกพื้นที่ได้
จุดนี้ทำให้เริ่มเห็นได้ว่า เมื่อทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายตรวจสอบอย่าง ป.ป.ท.รุกหนักในการตรวจสอบ เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินคนจนทั่วประเทศ ก็ทำให้ เริ่มมีความพยายามจะขัดขวางการตรวจสอบ เสมือนเกรงความผิดจะถึงตัวเลยเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พยานบุคคลให้เกิดความยากลำบาก ที่ก็ไม่แน่อาจมีการคุกคามพยานอีกหลายแห่ง โดยพยานส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นบุคคลที่ถูกสวมรอยเอาชื่อหรือลายเซ็นไปเบิกเงินช่วยเหลือ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้และไม่ได้รับเงินซึ่งถือเป็นพยานสำคัญทางคดี
เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน ทำให้การตรวจสอบทุจริตเงินคนจนดังกล่าวไม่ถูกขัดขวางหรือถูกเบี่ยงเบนรูปคดี จนทำให้สำนวนอ่อนเพราะพยานบุคคลไม่กล้าให้ปากคำ จนสุดท้ายกลายเป็นว่าคนชั่วลอยนวล หลังการตรวจสอบเอาผิดทุจริตเงินคนจนมาถึงจุดไคลแมกซ์ ซึ่งกำลังจะได้รู้ว่าไอ้โม่งที่ทุจริตกันหลายจังหวัดทั่วประเทศ วางแผน สั่งการคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ สุดท้ายแล้วคือมีหรือไม่ และเป็นใคร?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |