ผู้ว่าฯ ภูเก็ตคุมตั้งด่านประเดิมล็อกดาวน์ จ่อปิดสนามบิน 10 เม.ย. ท่าอากาศยานขอยกเว้นเครื่องบินรับผู้โดยสารตกค้าง ยอดติดเชื้อยังเพิ่ม 9 ราย ปัตตานีคัดกรองเข้ม 57 นศ.กลับจากปากีสถาน กักตัว 14 วันที่ มอ. บุรีรัมย์ผุดศูนย์กักกันกลุ่มเสี่ยงที่เมินมาตรการรัฐ หมื่นคนทะลักเข้าตราด ชาวบ้านผวาบี้ผวจ.ปิดเมือง
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เวลา 00.01 น. นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ด่านท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นด่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่สนธิกำลังนับร้อยนายปิดด่านท่าฉัตรไชย ห้ามเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตเป็นวันแรก หลังจากออกประกาศจังหวัดภูเก็ต ฉบับที่ 11/2563 ปิดช่องทางเข้า-ออกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-30 เม.ย. เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักในจังหวัดภูเก็ตขณะนี้
ทั้งนี้ พบว่ามีชาวจังหวัดภูเก็ตหลายสิบรายที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดกลับมาบ้านไม่สามารถเข้าได้ และรวมตัวกันเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่จังหวัดออกประกาศแบบฉุกเฉิน จึงทำให้เดินทางเข้ามาไม่ทัน ทำให้นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ต้องเข้าเจรจาอธิบายเหตุผล และอนุโลมให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากเดินทางมาในช่วงเวลาที่คาบเกี่ยว แต่ทุกคนต้องผ่านการคัดกรอง สอบสวน และวัดไข้จากเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ผลพวงจากการล็อกดาวน์ทั้งจังหวัด ส่งผลให้ในวันนี้รถมินิบัสสายหาดใหญ่-ภูเก็ต จำนวน 25 คัน ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว รวมทั้งรถบัส รถตู้ และรถโดยสารทุกประเภทที่วิ่งเส้นทางภูเก็ตในทุกๆ จังหวัด หยุดให้บริการทั้งหมดเช่นกัน
ด้านเรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตจะปิดช่องทางอากาศ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 10 เม.ย. ถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ขอให้มีข้อยกเว้นในประเด็นต่างๆ คือ เครื่องบินที่บินมารับผู้ป่วย เครื่องบินที่ขอลงฉุกเฉินทางการแพทย์ และเครื่องบินทางทหาร ขอให้แจ้งสำนักงานการบินพลเรือน รวมทั้งเครื่องบินที่ติดต่อรับผู้โดยสารที่ตกค้าง ขอให้ทางจังหวัดประสานสถานทูตทุกประเทศนำเครื่องบินไฟลต์พิเศษเพื่อรับผู้โดยสารกลับประเทศ
สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 9 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 62 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 8 ราย กำลังรักษาอยู่ 54 ราย ทุกรายอาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่มีอาการรุนแรง โดยผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงในพื้นที่ป่าตอง, กลุ่มที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ ทั้งพนักงานนวด พนักงานร้านอาหาร พนักงานขับรถ และกลุ่มที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19
ทางด้าน น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทำการฉีดล้างทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อถนน ทางเท้า และสถานบันเทิง ในซอยบางลา ป่าตอง นอกจากนี้ เทศบาลเมืองป่าตองได้ย้ายบุคคลในข่ายกักกันตัวผู้ติดเชื้อ ที่มีสถานที่อยู่อาศัยแออัดหนาแน่นได้ย้ายบุคคลดังกล่าวไปยังที่เหมาะสมแล้วที่โรงแรมในป่าตอง และขอให้ผู้ประกอบการ พนักงาน ร้านค้า ประชาชนในซอยบางลาและทุกคนในป่าตองให้เก็บตัวอยู่กับบ้าน 14 วัน
ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นตลาดสดใหญ่ใจกลางเมืองปัตตานี มีมาตรการตรวจเข้มข้นขึ้นเป็นวันแรก โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลเมืองปัตตานีตั้งจุดคัดกรองตรวจเข้มทุกคนที่เข้ามาในตลาดนัด พร้อมทั้งกำชับให้สวมใส่หน้ากากอนามัย แต่ถ้าไม่สวมหน้ากากอนามัยก็ไม่ให้เข้าตลาดนัดโดยเด็ดขาด รวมถึงพ่อค้าและแม่ค้าเช่นกัน นอกจากนั้นมีอ่างล้างมือพร้อมน้ำยาล้างมือ สบู่ และแจกเจลล้างมือและมีการฉีดแอลกอฮอล์แก่ประชาชนที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
กรองเข้มนศ.กลับจากปากีสถาน
ทางด้านเยาวชนจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 237 คน ที่ไปศึกษาในประเทศปากีสถาน ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว แยกเป็นจังหวัดยะลา 38 คน, จังหวัดปัตตานี 57 คน, จังหวัดนราธิวาส 112 คน และจังหวัดสงขลา 30 คน โดยในส่วนของจังหวัดปัตตานีทั้ง 57 คนเดินทางมาถึงจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีได้ตรวจคัดกรองอาการของเยาวชนอย่างเคร่งครัด และจัดพื้นที่กักตัวทั้ง 57 คน ไว้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นเวลา 14 วัน
ที่บริเวณจุดตรวจขุนไวย์ เทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างเขต อ.เมืองฯ จ.ยะลา กับ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจได้ปิดกั้นเส้นทางเข้าเมือง ไม่อนุญาตให้รถที่มาจากจังหวัดปัตตานีวิ่งผ่านเข้าเขตเมืองยะลา หลังจากที่มีประกาศเรื่องระงับการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดยะลา ป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบรรยากาศที่จุดตรวจได้มีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ทราบข่าวขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เพื่อผ่านเข้ามายังตัวเมืองยะลา แต่ก็ไม่สามารถผ่านเข้าได้ตามประกาศดังกล่าว
ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางไปส่งนายศุภชัย ประดับ หรือเปีย อายุ 28 ปี เซียนมวยที่ติดโควิด-19 ที่สนามมวยลุมพินี และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช รวมระยะเวลา 14 วัน ซึ่งผลตรวจล่าสุดเป็นลบ ไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว จากนั้นทางโรงพยาบาลอนุญาตให้มาพักรักษาตัวที่บ้าน พร้อมขอความร่วมมือห้ามออกจากบ้านเป็นเวลา 1 เดือน
ที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับคนไทยประมาณ 300 คนที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย และจะเดินทางกลับประเทศทางด่านพรมแดนสะเดา ในวันที่ 31 มี.ค.
ที่ จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามิทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่หมู่บ้านท่าอ่าง ม.3 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย เพื่อตรวจเยี่ยมด่านและติดตามการเฝ้าระวังและการกักตัวชาวบ้านภายในหมู่บ้านดังกล่าว จำนวน 56 หลังคาเรือน ราษฎรอาศัยกว่า 200 คน หลังจากประกาศปิดหมู่บ้านท่าอ่างเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากพบประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 4 ราย
นายวิเชียรกล่าวว่า อาจจะต้องเข้มข้นมากกับการปิดหมู่บ้านและต้องดูว่าคนในหมู่บ้านชุมชนที่เสี่ยงสูงอาจจะต้องนำตัวออกไปกักไว้ที่อื่น สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ราย รวมเป็น 15 ราย
ที่ จ.นครพนม ภายหลังพบหญิงวัย 63 ปี ชาวบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน ที่ทำงานเป็นแม่บ้านสถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อ กทม. ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กำชับให้ทุกอำเภอเข้มงวดในการเข้า-ออก และเปิด-ปิดตลาดสดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่โรงแรม ร้านอาหาร สถานีขนส่งผู้โดยสาร ฯลฯ เงียบเหงา และโรงแรมหลายแห่งเริ่มทยอยปิดชั่วคราว
ตั้งศูนย์กักกลุ่มเสี่ยงที่ดื้อแพ่ง
ที่บริเวณด้านหน้าอาคารสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 26 ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยแถวชุดปฏิบัติการ EOC โควิด-19 ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ให้ใช้เป็นศูนย์กักกันผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อโควิด-19 สำหรับบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้กักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน แต่ไม่ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ จะต้องถูกเชิญตัวไปอยู่ในสถานที่แห่งนี้จนครบ 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ไปแพร่ระบาดต่อในหมู่บ้านชุมชน นอกจากนั้น สถานที่แห่งนี้ยังได้จัดตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการตอบข้อซักถาม ตอบข้อสงสัยต่างๆในทุกช่องทาง รวมถึงรับแจ้งข้อมูลข่าวสารผู้กระทำผิดหรือฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย
ที่ จ.พิษณุโลก นายชัชวาล โชคไพศาล เจ้าของร้านโฮมฟลาวเวอร์ดีไซน์ ถนนบรมไตรโลกนาถ 2 อ.เมืองพิษณุโลก ได้เกิดไอเดียในการทำกล่องอะคริลิกใส ความกว้างประมาณ 1 เมตร สูง 80 เซนติเมตร โดยทำเป็นรูสำหรับมือแพทย์เข้าไปทำการตรวจรักษาได้ ทั้ง 2 ข้าง ต้นทุนในการทำอยู่ที่ราคา 3,000 บาท เพื่อไม่ให้เชื้อกระจายมาสู่แพทย์ระหว่างตรวจคนไข้ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ได้ทำเสร็จ 2 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลพุทธชินราช และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย และมีนักธุรกิจในจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกันบริจาคเงินสั่งทำกล่องนี้ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว 25 ใบ ซึ่ง 1 กล่อง ใช้เวลา 2 วันเท่านั้น คาดว่าในสัปดาห์นี้ก็จะทยอยส่งให้กับโรงพยาบาลได้เลย
ที่ จ.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุสรณ์ ดังก้อง รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.เจริญ แดงเรือง รอง ผกก.จราจร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมืองอุตรดิตถ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สวมหน้ากากใส “Face Shield” ออกหน่วยเคลื่อนที่ประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันการติดต่อและแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมแจกจ่ายหน้ากากที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ผลิตทำกันเองเพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนได้สวมใส่ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในย่านการค้าและชุมชน ภายหลังตรวจพบว่า 3 พ่อแม่และลูกติดเชื้อโควิด-19 จนต้องมีประกาศสั่งปิดหมู่บ้านคลองกล้วยเหนือ หมู่ 9 ต.ไร่อ้อย อ.พิชัย
ที่ จ.ตราด ว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้วิทยุสั่งการด่วนที่สุดไปยังนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ลงนามเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ให้ตรวจสอบประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการรัฐอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันยังได้สั่งการไปยังนายอำเภอเขาสมิง และนายอำเภอบ่อไร่ ที่เป็นที่ตั้งจุดสกัดคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดตราด 4 จุด ให้เข้มงวดบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยงสูง 8 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ จังหวัดปริมณฑล ชลบุรี ภูเก็ต สระแก้ว ปัตตานี ยะลา สงขลา และนราธิวาส ให้ปฏิบัติดังนี้ คือ หากมีไข้สูง จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก และหายใจเหนื่อยหอบ ให้กักตัวที่โรงพยาบาล อ.เขาสมิงและ อ.บ่อไร่ทันที ส่วนไม่มีไข้ให้ทำการกรอกข้อมูลผู้เดินทางเข้าหมู่บ้านเพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านติดตามตัวตามระบบ THAIQM และให้รายงานตัวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ทำการวัดไข้ทุกวันตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ตามเพจเฟซบุ๊กของชาวตราด ได้โพสต์เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ ปิดจังหวัดเหมือนกับภูเก็ต เนื่องจากระหว่างวันที่ 26-30 มี.ค. มีประชาชนเดินทางเข้ามายังจังหวัดตราดกว่า 1 หมื่นคน
ขณะที่นางวันพร เงางาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเสม็ด อ.เมืองตราด พร้อมด้วยนางสาวมยุรี ป้องหมู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลหนองเสม็ด, นางสาวธัญญา ศีติสาร ประธาน อสม. หมู่ที่ 6 ตำบลหนองเสม็ด พร้อมด้วย อสม. ออกเคาะประตูบ้านประชาชนเพื่อคัดกรองกลุ่มเสี่ยงถึงครัวเรือน
ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่? นพ.กิตติพันธ์? ฉลอม แพทย์?ชำนาญการ?สำนักระบาดวิทยา? แถลงว่า? ?มีผู้ติดเชื้อยืนยันเพิ่มรายใหม่อีก 2 ราย เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อเดิมจากกลุ่มเซียนมวยใช้บริการสถานบันเทิง?และรายใหม่เพิ่งกลับจากภูเก็ต รวมติดเชื้อสะสม? 32? ราย หายกลับบ้านไป? 5? ราย ทั้งนี้ ทางจังหวัดเพิ่มเติม รพ.รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ ที่? รพ.ประสาทใกล้สวนดอกและ? รพ.สันกำแพง?
ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี นายภัทรธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 3 คน รวมเป็น 52 คน สำหรับ 3 รายใหม่ พบว่ารายที่ 1 ติดเชื้อมาจากเพื่อนร่วมงานที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาบ่อวิน อ.ศรีราชา ซึ่งสามีของเพื่อนร่วมงานติดเชื้อมาจากสนามมวย, รายที่ 2 ลูกสาวของชาวรัสเซียไปเที่ยว จ.ภูเก็ต และติดเชื้อกลับมาเมืองพัทยา และรายที่ 3 กำลังสืบสวน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |