“ประวิตร” บอกแจงปมนาฬิกาหรูจบแล้ว  ที่เหลือเป็นเรื่อง “ป.ป.ช.” ยันแหวนพ่อ-นาฬิกาเพื่อน  รุมยำ ป.ป.ช.ซื้อเวลาชี้โกง ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ 

    เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ตรวจสอบการถือครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตรต่อ เนื่องจากยังขาดรายละเอียด  โดยเฉพาะหมายเลขเครื่อง หรือซีเรียลนัมเบอร์ ว่าไม่มีอะไรแล้ว เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ตนชี้แจงจบแล้ว ต้องให้ ป.ป.ช.ว่ากันไป
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่านาฬิกาเป็นของเพื่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เป็นของเพื่อน ก็จบแล้ว ขณะที่แหวนก็เป็นของคุณพ่อ” เมื่อถามว่าที่ผ่านมาความรู้สึกในใจกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่เป็นอย่างไร เป็นเรื่องของความจริง มีแต่พวกคุณขุดคุ้ย ไม่มีอะไร”
    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า
 กรณีที่ ป.ป.ช.แถลงข่าวเรื่องนาฬิกาเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตรนั้น การทำงานที่ผ่านมา นับเวลาได้ถึง 4 เดือน แต่คืบหน้าน้อยมาก และไม่ต่างจากข่าวที่ปรากฏทั่วไปก่อนหน้านี้ จึงย่อมทำให้ประชาชนสงสัยได้ว่า มีการซื้อเวลาหรือไม่ เพราะถ้าทำงานกันจริงจัง จนถึงขณะนี้ ควรจะมีข้อมูลที่ชัดเจนไปแล้วว่า
    “ข้อแรก ป.ป.ช.ได้เรียกนาฬิกาทั้ง 22 เรือนมาอายัดไว้แล้วหรือยัง ข้อที่สอง ป.ป.ช.ได้เรียกให้ผู้จัดการมรดก (ซึ่งมีข่าวเป็นหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร) มาชี้แจงหรือยังว่านาฬิกา 22 เรือนอยู่ในบัญชีทรัพย์สินมรดกของผู้ตายหรือไม่ ข้อสาม ป.ป.ช.ได้เรียกให้ทายาทของผู้ตายมายืนยันหรือยังว่านาฬิกา 22 เรือนเป็นของผู้ตายหรือไม่ และถ้าหากผู้ตายได้ให้พลเอกประวิตรยืมนาฬิกาจริง พลเอกประวิตรได้นำนาฬิกามาคืนให้แก่ผู้ตาย หรือแก่ทายาทเมื่อใด ข้อที่สี่ ป.ป.ช.ได้เรียกให้ทายาทของผู้ตาย นำหลักฐานการเสียภาษีอากรขาเข้า สำหรับการซื้อและนำเข้านาฬิกา 22 เรือนมาแสดงแล้วหรือยัง ข้อที่ 5 ป.ป.ช.ได้เรียกให้ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา 22 เรือนแจ้งข้อมูลหรือยังว่าหลักฐานที่ปรากฏอยู่ที่บริษัท แสดงชื่อว่าผู้ใดเป็นผู้ซื้อ ซื้อจากร้านใด ประเทศใด เมื่อใด และแสดงชื่อว่าผู้ใดเป็นผู้ลงทะเบียน เพื่อเอาประโยชน์จากการประกันของผู้ผลิต 6.ป.ป.ช.ได้รับหนังสือตอบมาจาก 3 บริษัทตัวแทนจำหน่าย ข้อมูลที่รับแจ้งตรงกับที่พลเอกประวิตรชี้แจงหรือไม่” นายธีระชัยระบุ
    ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ป.ป.ช.กำลังทำตัวให้ล้มละลายด้านความเชื่อถือที่สร้างมา 20 ปี ต่อไปจะมีใครเชื่อถือว่า ป.ป.ช.มีความอิสระในการตรวจสอบคนอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน 
    นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ป.ป.ช.ได้ทำลายบรรทัดฐาน กระบวนการตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง และข้าราชการระดับสูงโดยไม่แคร์ต่อผลกระทบในอนาคตและสายตาผู้คนทั้งประเทศที่จับตามอง
    “ป.ป.ช.กำลังท้าทายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผู้มีส่วนได้เสียทั้งประเทศ ป.ป.ช.ไม่มีเกียรติภูมิ ไม่มีศักดิ์ศรี ในฐานะองค์กรตรวจสอบตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ นาทีนี้จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ประเทศไทยต้องมี ป.ป.ช. เพราะสิ้นเปลืองทั้งงบประมาณอันมหาศาล และภาระการตรวจสอบผู้ตรวจสอบ ภาระทางความรู้สึกในฐานะผู้จ่ายภาษีอย่างซื่อสัตย์” นางทิชา ระบุ และว่า “ขับไล่ ป.ป.ช.ด้วยกันมั้ย”
    นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตั้งคำถามเกี่ยวกับคำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร ที่ระบุว่ายืมนาฬิกาจากเพื่อนคนเดียวทั้ง 25 เรือน อยากถามว่า พล.อ.ประวิตรมีไอคิวเท่าไหร่ ที่ใช้เวลาเป็นเดือนเพียงเพื่อหาคำอธิบายเช่นนั้น นอกจากนั้น นายปลอดประสพยังตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ด้วย 
    "เพียงชั่วเดือนที่ไม่อยู่ในประเทศ ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะพบการโกงกินเกือบครบทุกกระทรวง (เข้าใจว่ายังเหลือเพียงต่างประเทศและวิทยาศาสตร์เท่านั้น) ชั่วช้าต่ำทรามจริงๆ ครับ ยุค คสช. เป็นไปได้ถึงขนาดนี้แล้วหรือหัวไม่กระดิก หางไม่มีทางส่ายหรอกครับ อย่ามาพูดเรื่องปราบคอร์รัปชันให้เหม็นขี้ฟันอีกต่อไปเป็นอันขาด" นายปลอดประสพเขียนลงเฟซบุ๊ก พร้อมทั้งวิจารณ์การทำหน้าที่ของ สนช.ทหารแต่งตั้ง ในการเห็นชอบ พ.ร.ป. ส.ส.และ ส.ว. "นี่มันกฎหมายหรือกดหัว พวกท่านก็นั่งยันนอนยันว่าเจ๋งเป้งดีแท้แน่นอน ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญฉบับครึ่งใบเถา มาวันนี้ลมเปลี่ยนเสียแล้ว ชักแกล้งไม่แน่ใจตนเอง ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ อย่างนี้ต้องเรียกเงินเดือนคืน จ้างมาเสียข้าวสุกเปล่าๆ".
///////