ร้อนฉ่า!!! ทั้ง กรมปทุมวัน หลังมีข่าว พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน ที่ 29/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจกักบริเวณภายในบ้านพัก ระบุว่า ได้รับรายงานว่า พ.ต.ท. นายหนึ่งของ สน.ตลิ่งชัน เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโรคดังกล่าว สน.ตลิ่งชัน จึงได้มีคำสั่งให้ผู้ที่ใกล้ชิด พ.ต.ท. นายนี้ กักตัวอยู่ในบริเวณบ้านพักของตนเองเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 ถึง 8 เม.ย.นี้ รวม 6 นาย  ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด

                จากนั้นก็มีกระแสลือตามมาในทำนอง พ.ต.ท. ที่ติดเชื้อโควิด-19 คาดว่าเกิดขึ้นหลังจากที่มีการตั้งด่านคัดกรองโรคโควิด-19 ตามพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย

                เล่นเอาระดับบิ๊กๆ สีกากี นั่งกันไม่ติดเก้าอี้!!!

                หาก พ.ต.ท. รายดังกล่าวติดเชื้อมาจากการตั้งด่านคัดกรองโรคโควิด-19 ก็ถือเป็น

                เรื่องใหญ่!!!!

                เป็นเรื่องที่ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น  เพราะเมื่อสั่งให้ลูกน้องทำงานแล้วไม่มีมาตรการดูแลที่ดี ผู้บังคับบัญชา ต้องมีคำอธิบายต่อสังคม

                จน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ-พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ต้องโดดลงมาตรวจสอบ ที่มาที่ไปการติดเชื้อโควิด-19 ของ พ.ต.ท. สน.ตลิ่งชัน

                โดยหลังตรวจสอบประวัติโรคติดต่อของนายตำรวจ ยศ พ.ต.ท.รายดังกล่าว พบว่าน่าจะติดมาจากที่อื่น ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจจุดตรวจคัดกรองควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่อย่างใด

                เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ต้องออกมายืนยัน

                "ข่าวตำรวจ สน.ตลิ่งชันติดไวรัสโควิด-19 ขณะปฏิบัติงานประจำด่านตรวจคัดกรอง ไม่เป็นความจริง โดยผลจากการสอบสวนโรคทราบว่าตำรวจคนดังกล่าวติดเชื้อมาจากที่อื่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษา และสั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดประมาณ 6 นาย กักตัวเองเป็นเวลา 14 วันเพื่อสังเกตอาการ ขณะที่ในส่วนของ สน.ตลิ่งชันนั้น ได้มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัส และทำความสะอาดโดยรอบพื้นที่แล้ว ขอให้ประชาชนมั่นใจในความสะอาดได้"

                นอกจากนี้ ในการตั้งด่านทุกด่านตรวจคัดกรอง มีการทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่และประชาชนที่เข้าไปตรวจวัดอุณหภูมิภายในด่าน

                ที่สำคัญ ผบ.แป๊ะ กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดคัดกรองไวรัสโควิด ต้องใช้หน้ากากอนามัยปิดปาก ปิดจมูก ใช้เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ล้างมืออย่างเข้มข้น

                เพราะ ณ ปัจจุบันศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) รายงานข้อมูลข้าราชการตำรวจที่ติดโควิด-19 ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 13-28 มีนาคม มีจำนวน 36 ราย ออกจาก รพ.แล้ว 2 ราย  แบ่งเป็น บช.น. 25 ราย, ภ.1 3 ราย, ภ.8 1 ราย, ภ.9 1 ราย, บช.ก. 1 ราย, บช.ปส. 1 ราย, บช.ส. 1  ราย, สตม. 1 ราย, บช.ตชด. 1 ราย, รพ.ตร. 1 ราย และมีข้าราชการตำรวจกลุ่มเสี่ยงกักตัวเฝ้าระวังอาการอีก 666 ราย

                โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตั้งจุดตรวจทั่วประเทศจำนวน 359  จุด ใช้กำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่น รวมกำลังพลกว่า 3,000 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง

                หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้มข้น ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ดำเนินการตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะในการตั้งด่านตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 โอกาสติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.