อธ.ศาลอาญา ประกาศ 13 มาตรการเข้มกันโควิด-19 ห้ามกลุ่มเสี่ยงเข้าศาลอาญา


เพิ่มเพื่อน    

30 มี.ค.63 - นายชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ออกประกาศข้อกำหนดศาลอาญา เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ความว่า โดยที่กระทรวงสาธารณสุขมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตราย 

ศาลอาญาจึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของบุคลากร คู่ความ และประชาชนที่มาติดต่อราชการในศาลอาญาอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการในที่สุด

จึงอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ศาลอาญาจึงเห็นควรกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังต่อไปนี้

1.ข้อกำหนดนี้เรียกว่า ข้อกำหนดศาลอาญา เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19

2.ข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับนับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป

3.ห้ามมิให้บุคคลดังต่อไปนี้เข้ามาในอาคารศาลอาญา

3.1บุคคลที่มีไข้โดยวัดอุณหภูมิร่างกายเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส

3.2บุคคลที่เดินทางมาจากหรือแวะผ่าน (Transit) หรือเปลี่ยนเครื่อง (Transfer) ณ ประเทศหรือเขตการปกครองที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย และเข้ามาอยู่ในประเทศไทยยังไม่เกิน 14 วัน รวมทั้งบุคคลที่พักอาศัยในที่พักเดียวกัน หรือบุคคลที่ติดต่อใกล้ชิดกับบุคคลดังกล่าวด้วย

4.ผู้ที่มาติดต่อราชการซึ่งเป็นบุคคลตามข้อ 3 หรือผู้ที่นำบุคคลดังกล่าวมา มีหน้าที่ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของศาลทราบก่อนเข้าอาคารศาลอาญา

5.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์มีอำนาจตรวจสอบเบื้องต้นก่อนเข้าอาคารศาลอาญาว่า บุคคลใดเป็นบุคคลตามข้อ 3 หรือไม่ หากบุคคลนั้นมิได้ให้ความยินยอมหรือมีข้อสงสัยว่าเป็นบุคคลตามข้อ 3 ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญาทราบ และให้ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญาเสนอรายงานต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาต่อไป

6.บุคคลที่เข้ามาในบริเวณศาลอาญา จะต้องแสดงเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์การคัดกรองตามที่ศาลอาญากำหนด และห้ามปกปิดหรือทำลายเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ การคัดกรองออกจากบริเวณที่ติด และต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในบริเวณศาลอาญา รวมทั้งควรล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ที่ศาลอาญาได้จัดเตรียมไว้

7.กรณีบุคคลตามข้อ 3 เป็นคู่ความพยานและบุคคลที่โจทก์หรือจำเลยร้องขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 2)

8.กรณีบุคคลตามข้อ 3 มีความประสงค์จะขอเลื่อนการพิจารณาคดี ให้โทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลเพื่อขอคำแนะนำ และต้องยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีพร้อมแนบหลักฐานใบรับรองแพทย์ สำเนาหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นโดยที่ระบุว่าเป็นบุคคลตามข้อ 3 โดยให้ส่งคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีทางไปรษณีย์ หรือทางโทรสารหมายเลข 02-512-8346 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail [email protected] หรือทางเว็บไซต์ https://crime.coj.go.th ตามคิวอาร์โค้ดระบบขอเลื่อนคดีของกลุ่มผู้เฝ้าระวัง COVID-19 ที่แนบมาพร้อมข้อกำหนดศาลอาญานี้หรือมอบฉันทะให้ผู้ที่ไม่ใช่บุคคลในข้อ 3 มายืนแทน

9.ในการพิจารณาคดี อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเท่านั้นเข้าไปในห้องพิจารณาคดี จำเลยหรือผู้ต้องหาซึ่งถูกคุมขังต้องนั่งในบริเวณที่ศาลกำหนดไว้ให้เป็นสัดส่วนเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอื่น (Social Distancing) และห้ามญาติผู้ต้องขังเยี่ยมผู้ต้องขัง ณ ห้องขังของศาลบริเวณชั้น 1 ห้องพิจารณาคดี ตลอดจนระหว่างทางเดินไปยังห้องพิจารณาคดี

10.การติดต่อราชการศาล การพิจารณาคดีอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเท่านั้น เว้นแต่บุคคลที่มีความจำเป็นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคู่ความ เช่น อัยการ ทนายความพยาน และบุคคลที่โจทก์หรือจำเลยร้องขอ โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอื่น Social Drag ตามสมควร

11.พนักงานขนส่งสินค้าพัสดุและอาหารของบริษัทเอกชน ให้ส่งสินค้าพัสดุและอาหารด้านหน้าอาคารศาลอาญาเท่านั้น

12.บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อราชการภายในห้องผู้บริหาร ห้องผู้พิพากษา ห้องทำงานธุรการต้องแลกบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงบุคคลประเภทอื่น หรือหลักฐานในการมาติดต่อราชการศาล ณ ประตูทางเข้าอาคารศาลอาญาชั้น 2

13.ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ ปกปิดข้อมูลหรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับสถานะของบุคคลตามข้อ 3 หรือขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 5,6,9-12 หรือปกปิดหรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามข้อ ให้ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1)


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"