30 มี.ค. 63 – ที่หน้าเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ มีบรรดาญาติของผู้ต้องขังทยอยมารวมกลุ่มกันกว่า 100 คนตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อขอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่า เป็นห่วงลูกหลานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา และตอนนี้ไม่รู้จะไปเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะไม่รู้ว่าถูกย้ายไปอยู่ชั่วคราวที่ไหน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ คอยดูแลรักษาความปลอดภัย กระทั่งเวลา 13.00 น. บรรดาญาติของผู้ต้องขัง กว่า 100 คน ได้ย้ายมารออยู่ที่ โดมเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์
มีรายงานว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นมีผู้ต้องขังร่วมก่อเหตุทั้งหมด 11 คน จับได้แล้ว 10 คน เหลือเพียง 1 คนที่ยังหลบหนี คือ นายธันยพงศ์ สินพูน อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดียาเสพติด เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างไล่ล่าตัว และรู้เส้นทางหลบหนีแล้ว และวันนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบความเสียหายภายในเรือนจำ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ แต่เบื้องต้นพบว่าเสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงสถานพยาบาลที่ยังอยู่ในสภาพปกติ
ส่วนผู้ต้องขังกว่า 2,000 คน ที่ถูกย้ายไปตามเรือนจำใกล้เคียง 18 แห่ง อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ ก่อนประกาศให้ญาติทราบ ซึ่งรายชื่อทั้งหมดจะติดด้านหน้าเรือนจำวันนี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียง 1 คนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และอาการปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดภายในเรือนจำ ก่อนช่วงเกิดเหตุ พบว่า ยังมีอีก 1 ผู้ต้องขังที่น่าจะเป็นแกนนำหลักในการวางแผนและปลุกระดมให้เกิดเหตุจลาจล ซึ่งขณะนี้ทราบตัวบุคคลแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นมีดหรือไฟแช็ก ทางกลุ่มผู้ต้องขังเอามาจากโรงครัวทั้งหมด สำหรับสาเหตุของการก่อเหตุ ต้องรอการสอบสวนของทางตำรวจที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่เบื้องต้นมีการกล่าวอ้างเรื่องเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังต้องรอประเมินความเสียหายและอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
มีรายงานด้วยว่า ผู้ต้องขังหญิง ถูกไปย้ายยังเรือนจำนางรอง จำนวน 93 คน และเรือนจำทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา จำนวน 111 คน รวม 204 คน ส่วนนักโทษชาย จำนวน 1,902 คน ไปยังเรือนจำข้างเคียง ดังนี้ เรือนจำจังหวัดยโสธร 25 คน เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ 50 คน เรือนจำอำเภอพล 57 คน เรือนจำอำเภอกันทรลักษณ์ 20 คน เรือนจำอำเภอท่าพริก 620 คน เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 200 คน เรือนจำจังหวัดนครพนม 200 คน เรือนจำคลองไผ่ 100 คน เรือนจำจังหวัดนครราชสีมา 100 คน เรือนจำอำเภอสง่างาม 30 คน เรือนจำจังหวัดสุรินทร์ 150 คน เรือนจำรัตนบุรี 50 คน เรือนจำอำเภอบัวใหญ่ 100 คน เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ 50 คน เรือนจำอำเภอนางรอง 93 คน เรือนจำอำเภอสีคิ้ว 100 คน เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 50 คน.