"การุณ" เตรียม ทำหนังสือเชิญผู้เกี่ยวข้อง กรณีอควาเรียม ให้ข้อมูล รวมถึงอดีตเลขาฯ กอศ.ด้วย ลั่น ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จภายใน 7 วัน ส่วนจะมีการโยกย้ายตามมาตรการปราบทุจริต หรือไม่ ยังสรุปไม่ได้ตอนนี้ แต่หากพบวความผิดชัดแจ้ง และถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง ก็คงจะต้องดำเนินการ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควาเรียม ทะเลสาบสงขลา ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลาแล้วนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ได้รายงานให้ตนทราบว่า พบข้อมูลเชิงลึกตรงกับคณะทำงานของ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ที่ตนส่งให้ไปตรวจสอบก่อนหน้านี้ ดังนั้นเรื่องนี้คาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
ด้านนายการุณ กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกับกรรมการสืบข้อเท็จจริงที่มาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งได้ลงไปประชุมกับคณะทำงานของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ เพื่อขอดูข้อมูลโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงตรวจสอบโครงสร้างอาคารอควาเรียมสำหรับการเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปด้วย โดยคณะกรรมการฯ ได้วิเคราะห์ข้อมูลกันว่าสิ่งที่เราเห็นกับหลักฐานเอกสารแตกต่างหรือสอดคล้องกันอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานเรื่องงบประมาณ 835 ล้านบาท ที่ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ควรจะดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เพราะใน 26 งวดงาน มีรายละเอียดของการตกแต่งภายในเรียบร้อยหมด และเอกสารการแก้ไขสัญญาของโครงการนี้แบ่งเป็น 26 งวดงาน เดิมจะแล้วเสร็จภายในปี 2553 และมีการขยายมาจนถึงปี 2557 รวมทั้งดูว่า ผู้ที่ดำเนินการในโครงการนี้ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบในการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่
“หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆในพื้นที่แล้ว คณะกรรมการฯ จะกลับมาทำเป็นกรอบแนวทางการสืบหาข้อเท็จจริงให้เป็นระบบต่อไป โดยเร็วๆ นี้ ผมจะเรียกพยานบุคคลจากวิทยาลัยประมงฯ และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พร้อมกับทำหนังสือเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาให้ข้อมูล ซึ่งจะรวมไปถึงอดีตเลขาฯ กอศ.ด้วย ทั้งนี้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะทำให้เสร็จภายใน 7 วัน ส่วนจะมีการโยกย้ายบุคคลใดก่อนตามมติครม.เรื่องมาตรการปราบทุจริตให้ออกจากราชการหรือไปนั่งสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ยังสรุปไม่ได้ตอนนี้ แต่หากการสืบข้อเท็จจริงพบว่าบุคคลใดมีความผิดชัดแจ้งและถูกสอบสวนวินัยร้ายแรงก็คงจะต้องดำเนินการตามมติ ครม.อย่างแน่นอน” ปลัด ศธ.กล่าว