โควิด-19 ลามทั่วประเทศ พบผู้ป่วยเพิ่มเกือบทุกจังหวัดแล้ว ภูเก็ตติดเชื้ออีก 6 ราย โยงสถานบันเทิงซอยบางลาป่าตองและโรงแรม ผู้ว่าฯ สั่งเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 2 ทุ่ม-ตี 3 ปัตตานีเพิ่มอีก 4 ราย ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อ ห้ามประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด หาดใหญ่เงียบกริบรถโดยสารลง 3 จว.ใต้หยุดหมด ส่วนชุมพร-เชียงราย-ชลบุรีตรวจสอบด่วน มีคนเดินทางพร้อมผู้ป่วย
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นรายวัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตแจ้งข้อมูลว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม - 27 มีนาคม 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 47 ราย (รายใหม่ 6 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 2 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 45 ราย ทุกรายมีอาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดีไม่มีอาการรุนแรง ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 47 รายนี้รวมอยู่ในรายงานผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงไปก่อนหน้านี้
ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 879 ราย (รายใหม่ 44 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 111 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 66 ราย กลับบ้านแล้ว 768 ราย สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 6 ราย เป็นชาวไทย 5 ราย และชาวอุซเบกิสถาน อีก 1 ราย
สำหรับผู้ป่วยที่พบเพิ่มนอกจากจะเป็นกลุ่มผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในพื้นที่ซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ แล้วยังพบผู้ป่วยในกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการบริการนักท่องเที่ยว อาทิ พนักงานต้อนรับในโรงแรมและพนักงานบริการในร้านอาหารฝรั่งเพิ่มขึ้นด้วย
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัตภูเก็ต ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ออกประกาศฉบับที่ 7/2563 เรื่องขอความร่วมมือประชาชน นักท่องเที่ยว งดการเดินทาง เคลื่อนที่ หรือรวมกลุ่มนอกที่พำนัก ทั้งนี้เพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอก ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึงเวลา 03.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
กรณีที่มีความจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ต้องได้รับการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนด เพื่อประโยชน์ในการติดตามตัวมารับการตรวจอาการหรือกักกันตัว ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดปัตตานีอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วงมาก หลังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย ทำให้ล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อรวม 33 ราย ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีได้ประกาศให้จังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อทั้งพื้นที่จังหวัดปัตตานี และให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงมีคำสั่งดังนี้
ปิดเมืองปัตตานี
1.ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค การป้องกันโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการยกเว้นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด
2.ห้ามผู้ที่เป็น หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาด เดินทางเข้า-ออก จากหมู่บ้านหรือที่เอกเทศ สำหรับที่แยกกัน หรือกักกัน และหรือข้ามเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี เว้นแต่ ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ/หรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ อส.ตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด เพื่อเฝ้าระวังและไม่อนุญาตให้ผู้ใดเดินทางเข้าหรือออกในจังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ด่านตั้งอยู่บริเวณก่อนเข้ามายังเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้มีรถติดยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิประชาชนทุกคนที่ผ่านด่านดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่กองกำลังทางอากาศ เฉพาะกิจที่ 9 อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้สนับสนุนอากาศยานแบบ บ.จธ.2 ปฏิบัติภารกิจบินกระจายเสียงเฉพาะกิจพิเศษ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ทั้งภาษามลายูและภาษาไทยแก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่อยู่ในพื้นที่จำกัด ให้ได้รับข่าวสารที่รวดเร็วถูกต้องและแม่นยำ โดยมีนาวาอากาศเอกพานิช โพธิ์นอก ผู้บังคับการ กองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 นำทีมปฏิบัติ โดยจะทำการบินกระจายเสียงตั้งแต่วันที่ 28-30 มีนาคม หรือจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โดยได้ทำการบินวนในทุกอำเภอของจังหวัดปัตตานี เพื่อประกาศทางเครื่องบินให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงในมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และให้ระมัดระวังพร้อมงดเดินทางไปมาในจังหวัดปัตตานี ให้มีการป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวด และให้เฝ้าระวังตัวเองหากมีอาการไข้ขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ทันที และหากคนในครอบครัวติดเชื้อให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ ห้ามขนย้ายผู้ป่วยด้วยตนเอง เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้โรคดังกล่าวแพร่มากขึ้น ในขณะเดียวกันภาคพื้นดิน บนถนนหลักและเส้นทางรองก็มีการตรวจเข้มตลอดเช่นกัน
บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ แห่งที่ 1 เงียบเหงาอย่างหนัก เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารทุกเส้นทางที่ลดลง ทำให้รถตู้โดยสาร 3 เส้นทางต้องประกาศหยุดวิ่งชั่วคราวตั้งแต่วันเสาร์ ประกอบด้วย สายหาดใหญ่-ยะลา, สายหาดใหญ่-ปัตตานี และสายหาดใหญ่-เบตง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทั้งยะลาและปัตตานีใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองชั่วคราวเพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น
เช็กเลยรถทัวร์ลงชุมพร
เช่นเดียวกับรถตู้โดยสารสายอื่นๆ ทั้งเส้นทางภายในจังหวัดสงขลา แม้จะยังเปิดให้บริการแต่ก็เป็นไปในลักษณะหยุดวิ่งแบบวันเว้นวัน เพราะผู้โดยสารที่มีน้อยและการจำกัดระยะห่างซึ่งนั่งได้เพียงแค่คันละ 9 คนเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์โควิดที่ จ.สงขลา มีผู้ป่วยโควิดยอดสะสม 23 คน ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 20 คน และรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 3 คน และล่าสุดโรงพยาบาลสงขลานครินร์ หรือ ม.อ. พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิ-19 ยืนยันแล้ว 1 คน
ด้านนายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และนายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร แถลงถึงกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของจังหวัด เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 พบเชื้อเมื่อวันที่ 27 มี.ค. เวลา 22.00 น.แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคโควิด-19
นายวิบูลย์กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 8-16 มี.ค. ทราบว่าก่อนป่วยได้ไปร่วมกิจกรรมเลี้ยงรุ่นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ณ สถานบันเทิงหลังมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 18 มี.ค.เดินทางกลับบ้านโดยรถทัวร์ชั้น 1 ปรับอากาศ กระทั่งวันที่ 22 มี.ค.เริ่มมีอาการป่วย วันที่ 26 มี.ค.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลังสวน และวันที่ 27 มี.ค.ผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ผู้ป่วยยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลังสวน
จากกรณีดังกล่าวทำให้มีผู้เข้าสู่การสอบสวนโรคจำนวน 10 คน ได้แก่พ่อแม่และผู้โดยสารบนรถทัวร์ นอกจากนั้นยังมีบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 7 คนของโรงพยาบาลหลังสวน เป็นแพทย์ 2 คน พยาบาล 3 คน ผู้ช่วยเหลือคนไข้ 1 คน และเจ้าหน้าที่เอกซเรย์ 1 คน ถูกกักตัวเนื่องจากมีความใกล้ชิดผู้ป่วยช่วงที่ไปโรงพยาบาลตรวจอาการไข้ในครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ก่อนที่จะอาการหนักและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและรู้ผลเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 27 มีนาคม และยังมีชาวบ้านที่ใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งในกรุงเทพฯ และในพื้นที่ จ.ชุมพร อีกอย่างน้อยกว่า 100 คนที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า มติที่ประชุมร่วมระหว่างจังหวัดหนองคายและวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง เกี่ยวกับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีความเห็นตรงกันว่าควรงดการอัญเชิญหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลงจากพระอุโบสถ และงดกิจกรรมทุกประเภท ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากในงานสงกรานต์พิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถ แห่รอบเมืองเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา จะทำให้มีประชาชนจำนวนมากมาร่วมงานเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ในปีนี้กับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 หากมีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมากจะสุ่มเสี่ยงและไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ ดังนั้นจึงต้องงดกิจกรรมสงกรานต์ทั้งหมด
ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และ นพ.สุชาติ เจนเกรียงไกร ผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ร่วมชี้แจงมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
ติดเชื้อกลับจากปอยเปต
นายวิเชียรชี้แจงผลการดำเนินการคัดกรองประชาชนตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.จนถึงขณะนี้ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 35,300 ราย มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ 378 ราย พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 13 ราย รอผลตรวจ 9 ราย ขณะนี้ได้รับรายงานตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติคือ น้ำตกวังเณร ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน และบ่อน้ำผุด อ.ปากช่อง มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเล่นน้ำจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ตนจะพิจารณาสั่งให้ปิดตั้งแต่บัดนี้
ด้าน นพ.นรินทร์รัชต์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายที่ 13 เป็นหญิงอายุ 23 ปี พนักงานบริการในสถานบริการแห่งหนึ่งในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา วันที่ 16 มี.ค.เดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกับผู้ติดเชื้อรายที่ 12 หญิงอายุ 25 ปี ต่อมามีอาการป่วยเป็นไข้ ไอและระคายคอ หายใจติดขัด จึงรีบเดินทางมาตรวจหาเชื้อและได้รับการยืนยัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงมีจำนวน 24 ราย ส่วนใหญ่คล้ายกับผู้ติดเชื้อรายที่ 12 โดยเฉพาะแฟนและเพื่อนสนิทซึ่งมีกิจกรรมทางสังคมร่วมกัน รวมทั้งผู้โดยสารที่อยู่ในรถทัวร์คันเดียวกัน ขณะนี้เราติดตามตัวได้ครบทุกคนแล้ว
นพ.สุชาติกล่าวถึงอาการผู้ติดเชื้อทั้ง 13 ราย แยกเป็นรักษาที่ รพ.มหาราช 9 ราย รพ.เทพรัตน์ 3 ราย และ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา 1 ราย ภาพรวมทุกรายมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ผู้ป่วยรายที่ 5 เป็นเซียนมวยชื่อเก่ง ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน แม้ใช้เครื่องช่วยหายใจแต่ปริมาณออกซิเจนไม่ต้องใช้แรงดันสูง และเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 2 เดือน เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายแรกเพศหญิงอายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเปิด ชาว อ.วังน้ำเขียว ล่าสุดไม่พบเชื้อ แต่จะต้องตรวจหาเชื้อซ้ำเพื่อพิจารณาให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน
ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่า จ.เชียงรายมีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยที่พบในพื้นที่รวมกันแล้วทั้งสิ้นจำนวน 6 ราย โดยรายแรกเป็นชายอายุ 35 ปี มีการให้ข้อมูลว่าเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ หลังไปเที่ยวที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และกลับบ้านที่ อ.เทิง ก่อนจะมีมารดาของภรรยาอายุ 58 ปีติดเชื้อเพิ่มเป็นรายที่ 2 ส่วนผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นชายอายุ 33 ปี พบที่ อ.แม่จัน เดินทางกลับจากการไปทำงานที่กรุงเทพฯ ด้วยการนั่งรถทัวร์โดยสาร จากนั้นก็ป่วยทันทีจึงไปพบแพทย์ทันที
ขณะที่รายที่ 4 เป็นชายอายุ 31 ปี และรายที่ 5 อายุ 28 ปี เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ ตามลำดับ เมื่อมีอาการป่วยก็ไปพบแพทย์ ทั้งนี้คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ภายใต้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ใช้มาตรการควบคุมโดยตรวจสอบญาติและคนใกล้ชิด เบื้องต้นยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม จึงให้กักดูอาการเป็นเวลา 14 วัน
ใครขึ้นบ้างเที่ยวบินเชียงราย
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยรายที่ 6 นี้ จ.เชียงรายยังไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ต่อสาธารณชน โดยจังหวัดงดการแถลงข่าวและแจ้งว่าอยู่ระหว่างสอบสวนโรค กระนั้นได้มีการแจ้งไปยังผู้ที่เคยเดินทางมากับสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ดับเบิลยูอี 136 วันที่ 19 มี.ค. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 19.05 น. และถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในเวลา 20.35 น. ให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด เพื่อรับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวและเฝ้าระวัง หรือโทรศัพท์ 053-910-384 จึงคาดว่าผู้ป่วยรายล่าสุดจะเดินทางมากับเที่ยวบินนี้นั่นเอง
หลังจากเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา เคยแจ้งให้ผู้ที่โดยสารมากับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินพีจี 233 วันที่ 20 มี.ค.ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 14.00 น. และถึงเชียงราย เวลา 15.30 น.ให้ไปรายงานตัวเช่นเดียวกันนี้แล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ จ.เชียงราย พบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคแล้วจำนวน 112 ราย อาการดีขึ้นกลับบ้านแล้วจำนวน 82 ราย พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจำนวน 15 ราย สังเกตอาการที่บ้านจำนวน 15 ราย และพบผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจำนวน 6 ราย โดยพบว่ามีอาการปกติ 3 ราย และมีอาการระบบทางเดินหายใจ 3 ราย
นายกมล เชียงวงค์ ผวจ.พะเยา พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพะเยา เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจังหวัดพะเยา กรณีพบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2 ราย ในพื้น อ.จุน และ อ.เชียงคำ
ผวจ.พะเยาเผยว่า ผู้ป่วยยืนยันรายแรกใน อ.จุน เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 65 ปี มีประวัติการทำงานสถานบันเทิงย่านอโศกมนตรี กรุงเทพฯ เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ซื้อยามารับประทานเองและหยุดงานในบ้านพักของตนเอง เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดพะเยาด้วยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมเพื่อนบ้านที่อยู่ในภูมิลำเนาเดียวกันและพักอยู่แต่ในบ้านที่อยู่อาศัย
จากนั้นวันที่ 24 มี.ค.ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว จึงไปเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน จากนั้นถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะนี้ผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงทุกรายได้รับการกักตัวที่บ้านเพื่อเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วัน
ชลบุรีตรวจสอบด่วน
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นเพศหญิง อายุ 47 ปี มีประวัติการทำงานในสถานบริการร้านนวด ย่านกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่บ้านปัวชัย ม.4 ต.เจดีย์คำ อ.เชียงคำ ด้วยรถทัวร์โดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงของ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ถึงภูมิลำเนาวันที่ 23 มี.ค. ระหว่างวันที่ 23-27 มี.ค. ผู้ป่วยพักอยู่ที่บ้านตลอดและอาศัยอยู่คนเดียวในบ้าน จากนั้นวันที่ 27 มี.ค.ได้เข้ารับการตรวจและรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะนี้ผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ส่วนจังหวัดชลบุรีได้ออกประกาศ มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรีได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องนั้น
จังหวัดชลบุรีได้ตรวจสอบข้อมูลจากการสอบสวนโรคของผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ จังหวัดชลบุรีจึงขอความร่วมมือประชาชนได้ดำเนินการ ดังนี้
อำเภอเมือง ห้างสรรพสินค้า "เทสโก้ โลตัส" ชลบุรี ข้างเซ็นทรัลชลบุรี ห้างสรรพสินค้า "แหลมทองบางแสน" สำนักงานสาขาไทยประกันชีวิต สาขาบ้านสวน ตำบลบ้านสวน สะพานราชเทวี แหลมแท่น ร้านจำหน่ายอาหาร ชื่อ "Hermes Bangsaen" โต๊ะสนุกเกอร์บริเวณหน้าเอกชล 2 ร้านจำหน่ายอาหาร ชื่อ "หน้ามนขนมหวาน"
สถานประกอบการ ชื่อ "Seafood Club บางแสน" อู่ซ่อมรถยนต์ ชื่อ "อู่รถป๊อปช่างจ๊ะ หัวโพง" ร้านจำหน่ายอาหาร ชื่อ "เจ๊ยุ้ย" ร้านจำหน่ายอาหารชื่อ "ครัวป้าไหม" สาขานอก สถานประกอบการ ชื่อ "Warehouse Pub&Restaurant (แวร์เฮาส์)" บางแสน
อำเภอบางละมุง สถานประกอบการ ชื่อ "คาเฟ่ เดอ บีช พัทยา" ร้านจำหน่ายอาหาร ชื่อ "คนล่าฝัน" พัทยาเหนือ สถานประกอบการ ชื่อ บาร์เบียร์ ซอย 6 พัทยา
อำเภอศรีราชา สถานประกอบการ ชื่อ "อินฟินิตี้ 20" ซอย 6 ตำบลศรีราชา ธนาคารกสิกรไทย สาขาบ่อวิน ตำบลบ่อวิน
อำเภอสัตหีบ ร้านอาหารชื่อ "A la Champagne" ร้านจำหน่ายอาหาร ชื่อ "ครัวปรีชา".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |