ยิ่งตรวจยิ่งเจอเพิ่ม อเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลกแซงหน้าจีนแล้ว แต่อิตาลี-สเปนยังอาการหนักกว่า ดับเพิ่มรายวันมากกว่า 600-700 ศพ "ทรัมป์-สี จิ้นผิง" ต่อสายคุยปรับความเข้าใจ ลั่นร่วมมือกันสู้ไวรัส นายกฯ บอริส จอห์นสัน และรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษติดไวรัสด้วย

    จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐอเมริกาเริ่มแซงหน้าจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา โดยล่าสุดข้อมูลที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์รวบรวมถึงเวลา 16.00  น.วันศุกร์ สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 85,996 ราย เสียชีวิต 1,300 ราย นิวยอร์กซิตีของรัฐนิวยอร์กมีคนเสียชีวิตมากที่สุด 365 ราย ผู้ว่าการรัฐแอนดรูว์ คูโอโม เตือนว่าเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลมีไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วยแล้ว 
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับตัวเลขล่าสุดนี้ว่า เป็นเพราะสหรัฐอเมริกาตรวจเชื้อคนจำนวนมากขึ้น ขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ที่ได้รับมอบหมายให้นำการต่อสู้โรคระบาดครั้งนี้ กล่าวว่าปัจจุบันทั้ง 50 มลรัฐได้รับชุดตรวจหาเชื้อไวรัสครบแล้ว และมีการตรวจเชื้อแล้วมากกว่า 552,000 รายทั่วประเทศ ทั้งนี้สหรัฐอเมริกามีประชากรราว 330 ล้านคน
    ผู้นำสหรัฐอเมริกายังแสดงความกังขาในตัวเลขข้อมูลของทางการจีนด้วย โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พวกคุณไม่รู้ตัวเลขภายในจีนหรอก แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาภายหลังได้คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ทรัมป์ก็ทวีตว่าเขามีการสนทนาที่ดีมากกับประธานาธิบดีสี จีนผ่านปัญหามามากและพัฒนาความเข้าใจอันดีเกี่ยวกับไวรัส เรากำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด 
    หลายวันก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างชาติมหาอำนาจทั้งสองตึงเครียดขึ้น จากการกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดครั้งนี้ ทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของเขาทำให้จีนเดือดดาลด้วยการเรียกไวรัสโคโรนาว่า "ไวรัสจีน" พร้อมกล่าวหาว่าจีนปิดบังข้อมูลการระบาดในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนอ้างทฤษฎีสมคบคิดว่าทหารสหรัฐอเมริกานำไวรัสนี้มาแพร่ที่อู่ฮั่น  ทำให้สหรัฐอเมริกาโกรธเกรี้ยวว่าเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
    ด้านประธานาธิบดีสีกล่าวกับทรัมป์ว่า เขาหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเรียกร้องให้สองประเทศร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับไวรัสนี้ โดยสีเสนอว่าจีนปรารถนาจะแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ทั้งหมดแก่สหรัฐอเมริกาต่อไป
    การแสดงเจตนาจับมือกันระหว่างผู้นำสองชาติ มีออกมาภายหลังนักวิจัยด้านโรคติดต่อจากอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนเตือนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โควิด-19 อาจคร่าชีวิตชาวโลกไม่ต่ำกว่า 1.86 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ และมีผู้ติดเชื้อเกือบ 470 ล้านคน และหากทั่วโลกไม่รีบล็อกดาวน์และจำกัดระยะห่างทางสังคม ตัวเลขอาจเลวร้ายกว่านี้
    ในจีนแผ่นดินใหญ่ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 55 รายเมื่อวันพฤหัสบดี โดย 1 รายเป็นการติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรกในรอบ 3 วัน อีก 54  รายเป็นการติดเชื้อจากต่างแดน ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 81,897 ราย เสียชีวิต 3,296 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ย์ถึง 3,174 ราย
    จำนวนผู้ติดเชื้อจากต่างแดนที่ยังไม่ลดละ ทำให้รัฐบาลจีนประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมด้วยการสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศเริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้ โดยจะยกเว้นเฉพาะผู้ถือวีซ่าบางประเภทเท่านั้น นอกจากนี้ยังสั่งระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศมาจีนราว 90% ซึ่งจะลดจำนวนผู้เดินทางเข้าจีนลงจากวันละ  25,000 ราย เหลือ 5,000 ราย
    นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษเป็นผู้นำชาติมหาอำนาจคนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากตรวจพบเชื้อเมื่อวันศุกร์ และขณะนี้ได้แยกกักกันตนเองแล้ว จอห์นสันยืนยันว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่ผู้นำการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ต่อไปผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ไม่แต่เท่านั้น เอเอฟพีรายงานในเวลาต่อมาด้วยว่า แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของอังกฤษก็ติดเชื้อไวรัสนี้ด้วย แต่เขามีอาการเล็กน้อยเท่านั้น
    โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า จอห์นสันวัย 55 ปีเริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี หรือหนึ่งวันหลังจากเขาเข้าประชุมตอบกระทู้ซักถามประจำสัปดาห์ของสภาสามัญชน จอห์นสันรับการตรวจไวรัสโคโรนาตามคำแนะนำของที่ปรึกษาทางการแพทย์แห่งอังกฤษ โดยเจ้าหน้าที่ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติมาตรวจให้ที่สำนักนายกฯ เลขที่ 10 บนถนนดาวนิง และผลออกมาเป็นบวก
    ถึงวันศุกร์ อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยืนยันแล้ว 11,658 ราย เสียชีวิต 578 คน สองวันก่อนหน้านี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ก็ทรงติดเชื้อไวรัสโคโรนานี้ด้วยเช่นกัน และแยกพระองค์อยู่ที่พระตำหนักในสกอตแลนด์ 
    รัฐบาลอังกฤษยืนยันเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า หากจอห์นสัน ซึ่งแคร์รี ไซมอนด์ส แฟนสาวกำลังตั้งครรภ์ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ดอมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศ จะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทนชั่วคราว 
    ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกซึ่งพบในเกือบทุกประเทศแล้ว อยู่ที่ 551,337 รายในวันศุกร์ เสียชีวิต 24,906 ราย อิตาลีมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดโดยนับข้อมูลถึงวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 8,215 ราย มากกว่ายอดตายของจีนและสเปนรวมกัน โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม  662 คนเมื่อวันพฤหัสบดี และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,153 ราย ยอดรวมเป็น 80,589 ราย ส่วนสเปนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4,858 ราย เพิ่มขึ้น 769 คนเมื่อวันพฤหัสบดี จำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 64,059 ราย
    ประเทศอื่นที่ยังมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก อาทิ อิหร่าน เสียชีวิตแล้ว 2,378 คน จากผู้ติดเชื้อ 32,332 คน, ฝรั่งเศสเสียชีวิต 1,698 คน จากผู้ติดเชื้อ 29,581 คน และเยอรมนีเสียชีวิตแล้ว 285  คน จากผู้ติดเชื้อ 47,373 คน 
    ข้อมูลของเอเอฟพีนับตั้งแต่เวลา 02.00 น.วันศุกร์ตามเวลาไทย ระบุว่า ฮอนดูรัส, เวเนซุเอลา,  นิการากัว และอุซเบกิสถาน มีผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ ส่วนสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสในทะเลแคริบเบียน เป็นชาติล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อ.