ปลัดพม.เอี่ยวงาบคนจน


เพิ่มเพื่อน    

    "ประจิน" ยอมรับโกงกองทุนเสมาฯ ไม่จบง่ายๆ ย้ำมติ ครม.พบคอร์รัปชันให้เจ้ากระทรวงฟันทันที   "อนันตพร" เผยสอบผลเบื้องต้น ปลัดและรองปลัด พม.เอี่ยวงาบเงินคนจนจริง ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง ทาบซี 11 กระทรวงศึกษาธิการนั่งประธานกรรมการสอบ "จรัมพร" ลั่น การทุจริตทั้ง 53 จังหวัดถือเป็นอาชญากรรมที่ทำอย่างต่อเนื่อง 
    พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการทุจริตในกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 27 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เสนอแนวทางจนเป็นมติ ครม.ในมาตรการตรวจสอบ โดยการตรวจสอบการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), กองทุนเสมาฯ และโครงการอื่นๆ หากพบว่ามีการทุจริต เจ้ากระทรวงจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษ เช่นเดียวกับการทุจริตในกองทุนเสมาฯ ที่มีการลงโทษผู้กระทำความผิดด้วยการไล่ออกไปแล้ว นอกจากนี้ การตรวจสอบจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
    รองนายกฯ กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบมาตรการตรวจสอบการทุจริต รัฐบาลได้เริ่มปฏิบัติในทันที ในกรณีให้ข้าราชการตำรวจ 13 นาย และ ผอ.โรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี โดยให้ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบ และจากนี้จะมีตามมาอีกหลายกรณี ดังนั้นจะเห็นว่ารัฐบาลมีความชัดเจนในนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาทุจริตอย่างจริงจัง หากพบมีการร้องเรียน จนพบมูลของความผิด จะต้องย้ายข้าราชการภายใน 7 วัน หากเป็นเรื่องร้ายแรง ก็ต้องออกจากราชการไว้ก่อน โดยคณะกรรมการตรวจสอบจะต้องสรุปภายใน 30 วัน หากพบการกระทำความผิดก็ต้องส่งดำเนินการทางอาญาต่อไป
    เมื่อถามว่า ยกตัวอย่างการทุจริตในกองทุนเสมาฯ ที่ไม่มีการซัดทอด จะยากต่อการตรวจสอบหรือไม่  พล.อ.อ.ประจินตอบว่า คณะกรรมการสอบสวนยังดำเนินการสืบต่อเนื่อง เพื่อหาผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม แต่จะไม่ใช้เวลามาก เพราะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ   เพราะจะต้องมีการสืบสวนเชิงลึกอย่างครอบคลุม ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีข้าราชการระดับใดบ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตัวเลขที่มีการยักยอกเงินจากกองทุนอยู่ที่ประมาณ 88 ล้านบาท
    ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินคนจนว่า ตนยังไม่ได้รับรายละเอียดการตรวจสอบ แต่ได้กำชับให้ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวภายในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 มี.ค.นี้ ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 2 เม.ย. พล.อ.อนันตพร ต้องมาชี้แจงรายละเอียดกับตน หากไม่เสร็จก็ต้องมีเหตุผลที่รับได้ แต่ไม่แน่วันที่ 30 มี.ค. อาจจะมีรายละเอียดออกมาแล้วก็ได้ 
    “ผมอยากให้รอฟัง ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีมูลการทุจริตเพียงพอที่ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน 49 จังหวัด อีกทั้งยังมีหลักฐานเชื่อมโยงไปยังผู้บริหารระดับสูงอยู่ด้วย แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อยากให้ทุกคนรอผลการตรวจสอบออกมาก่อน” 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การทุจริตครั้งนี้เป็นกระบวนการหรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า เป็นกระบวนการอยู่แล้ว เพราะการทุจริตแบบนี้ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ส่วนจะไปเชื่อมโยงถึงใครบ้างนั้น ขอให้รอการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อน
    ขณะที่ พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า การสืบข้อเท็จจริง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตเงินสงเคราะห์ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งมี พ.ต.ท.เธียรรัตน์ วิเชียรสรรค์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ส่งสรุปผลการสืบสวนให้ตนพิจารณาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุผลรายงานเบื้องต้นพบ 2 ข้าราชการมีมูลความผิดจริง ซึ่งตนได้ลงนามท้ายผลสอบให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมทั้งมอบหมายให้นางไพรวรรณ พลวัน รักษาการปลัด พม. ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทันที
         ทั้งนี้ ตนได้โทรศัพท์ถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ประสานทาบทามข้าราชการระดับ 11 ของกระทรวงศึกษาธิการ มาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงชุดนี้ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการร่วมจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี และ พม. รวมประมาณ 5-6 คน โดยจะเร่งรัดคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันสงกรานต์นี้
    พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ป.ป.ท.ว่า บอร์ด ป.ป.ท.ได้ลงมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 8 ศูนย์ ประกอบด้วย ตรัง กระบี่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ นครพนม และชัยภูมิ นอกจากนี้ยังตั้งอนุกรรมการไต่สวนสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นิคมสร้างตนเอง จ.บุรีรัมย์ โดยมีผู้ถูกกล่าวหา 49 คน รวมบุคคลที่ถูกกล่าวหาจากการตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดแล้ว 94 คน 
    ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตของศูนย์คนไร้ที่พึ่ง โดย ผอ.ศูนย์บางแห่งเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้ยากต่อการสอบสวน บอร์ดป.ป.ท.จึงทำหนังสือไปยัง พม. ให้ย้าย ผอ.ศูนย์ จ.ตรัง,ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ ออกนอกพื้นที่ ส่วน จ.นครพนม มี ผอ.โรงเรียนเข้ามาสนับสนุนการกระทำความผิดและคุกคามพยาน จึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการย้ายออกจากพื้นที่เช่นกัน
         “ขณะนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิด แต่การเสนอให้ย้ายออกนอกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน โดยยึดตามแนวมติคณะรัฐมนตรี ที่เปิดช่องให้สามารถเสนอย้ายผู้ที่มีพฤติการณ์เบี่ยงเบนพยานหลักฐานเพื่อปกปิดความผิดออกนอกพื้นที่ได้”
        ผู้สื่อข่าวถามถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของข้าราชการระดับสูง พล.ต.อ.จรัมพรกล่าวว่า ภายหลังการตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดของ ผอ.ศูนย์ เป็นอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่จะเข้ามาตรวจสอบธุรกรรมการเงิน ส่วนการยึดอายัดทรัพย์เป็นอำนาจโดยตรงของ ปปง. ส่วนจะเชื่อมโยงไปถึงข้าราชการระดับสูงอย่างไร ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน
          “การกระทำทุจริตทั้ง 53 จังหวัด ถือเป็นอาชญากรรมที่ทำอย่างต่อเนื่อง มีแบบแผนเดียวกัน และทำกันเป็นระบบ เชื่อว่าไม่ใช่ระดับล่างเท่านั้นที่เกี่ยวข้อง เพราะการจะทำเป็นระบบได้น่าเชื่อว่าต้องมีการกำหนดเป็นแนวปฏิบัติ ที่ทำให้สามารถประกอบอาชญากรรมเหมือนๆ กันได้“ พล.ต.อ.จรัมพรกล่าว
        ขณะที่นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวถึงผลสอบวินัยร้ายแรงกรณีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ที่พบมีมูลความผิดระดับผู้อำนวยการศูนย์ฯ 1 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คน ว่า อยู่ระหว่างคณะกรรมการพิจารณาฐานความผิดวินัยร้ายแรงว่าอยู่ในระดับไหน ระหว่างไล่ออก ปลดออก และให้ออก ทั้งนี้ จะทราบผลภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ขณะที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะทราบผลวินัยร้ายแรงภายในเดือนเม.ย.นี้ด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"