เผยยอดขายปืนและกระสุนในสหรัฐอเมริกาพุ่งพรวดพราดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เลวร้ายลง จนทำให้ปืนลูกซองขาดตลาด เนื่องจากคนอเมริกันหวาดกลัวว่าโรคระบาดใหญ่จะนำไปสู่ภาวะมิคสัญญี คนที่ไม่เคยมีปืนแห่หาซื้อมาไว้ป้องกันตัว

ลูกค้าต่อแถวรอเข้าร้านปืนมาร์ติน บี. เร็ตติง ในเมืองคัลเวอร์ซิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563

    อาวุธปืนกำลังเป็นสินค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในสหรัฐอเมริกา ไม่ต่างจากเวชภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อหรือหน้ากากอนามัย โดยรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 25 มีนาคม 2563 เปิดเผยว่า ร้านขายปืนและเครื่องกระสุนทั่วสหรัฐกล่าวกันว่ามียอดขายอาวุธปืนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐรุนแรงขึ้น

    เดวิด สโตน เจ้าของร้านดองส์กันส์อัมโมแอนด์รีโลดดิง ในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา กล่าวกับเอเอฟพีว่า ร้านของเขามียอดขายเพิ่มขึ้นราว 8 เท่า ปืนของที่ร้านยังไม่หมดสต๊อกแต่ก็ใกล้แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้เป็นผู้ซื้อปืนครั้งแรกที่ต้องการอาวุธปืนชนิดใดก็ได้ที่หาได้

    "มันเป็นความหวาดกลัวไวรัสโคโรนา" เขากล่าว "ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจ และคิดว่าไม่มีเหตุผล"

    ข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ถึงวันพุธ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 55,225 ราย เสียชีวิต 802 ราย พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือนครนิวยอร์ก รวม 192 ราย

    ร้านขายปืนอีกหลายร้านทั่วสหรัฐก็บอกว่าพวกเขาขายปืนได้มากขึ้นในช่วงนี้ เพราะผู้คนพากันหวาดกลัวว่าหากวิกฤติสาธารณสุขและเศรษฐกิจที่เป็นผลจากการระบาดของไวรัสลุกลามจนนำไปสู่ภาวะบ้านเมืองไร้ขื่อแป

    ทิฟฟานี ทีสเดล เจ้าของร้านลินน์วูดกัน ในมลรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในมลรัฐที่สถานการณ์ระบาดรุนแรงที่สุด บอกว่า ร้านของเธอก็ขายได้มากขึ้น ลูกค้าพากันเข้าแถวรอกันเป็นชั่วโมงก่อนร้านเปิด เธอต้องจ้างคนคุมหน้าร้าน ช่วงก่อนหน้านี้ วันที่ขายดีที่สุดจะขายปืนได้ 20-25 กระบอก แต่ตอนนี้เธอขายได้ถึง 150 กระบอก

    ทีสเดลกล่าวว่า ปืนลูกซองกำลังขาดตลาดทั่วประเทศ รวมถึงกระสุนปืนลูกซองและกระสุนปืนพก คนจำนวนมากพากันซื้อปืนลูกซอง, ปืนพก, เออาร์-15 (ไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ) และอื่นๆ ลูกค้าของเธอส่วนใหญ่ก็ผู้ซื้อปืนกระบอกแรกที่ต้องผ่านการตรวจประวัติ บางรายร้านต้องสอนคอร์สจัดการอาวุธปืนแบบเร่งรัดให้

    "ลูกค้าที่ซื้อปืนมีทั้งผู้ชาย, ผู้หญิง, คนหนุ่มสาว, วัยกลางคน, คนแก่, คนทุกประเภท และทุกเชื้อชาติ รวมถึงคนผิวดำ, เอเชีย, อินเดีย และฮิสปานิก" เจ้าของร้านปืนที่เปิดขายทุกวันรายนี้กล่าว

    ลูกค้าคนหนึ่งที่เพิ่งมาซื้อปืนของร้านไม่กี่นานมานี้ เล่าให้ทีสเดลฟังว่า เขาตัดสินใจว่าต้องซื้อปืนไว้ป้องกันตัวหลังจากพบเห็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิง 2 คนต่อสู้กันเพื่อแย่งน้ำบรรจุขวดขวดสุดท้ายในร้านค้า

    "เรามีลูกค้าหลายคนที่หวาดกลัวเพราะเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายได้รับคำสั่งไม่ให้ตอบสนองมากนักเพราะขาดกำลังคน" เธอกล่าว "คนจำนวนมากจึงหวาดกลัวว่าจะมีคนบุกรุกบ้านของพวกเขา เข้าไปขโมยเงิน, ขโมยกระดาษชำระ, น้ำบรรจุขวด หรืออาหาร"

    จอร์แดน แม็กคอร์มิค ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัทเดลตาทีมแท็กติคอล ในรัฐยูทาห์ เผยว่า บริษัทของเขาซึ่งส่วนใหญ่ผลิตปืนเออาร์-15 และมีขายทางออนไลน์ด้วย กำลังเร่งผลิตไม่หยุดเพื่อให้ทันกับความต้องการ

    เขากล่าวว่า ความหวั่นเกรงว่าร้านปืนจะถูกสั่งปิดทั่วประเทศเพราะหลายมลรัฐล็อกดาวน์มากขึ้น ทำให้ยอดขายปืนพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ผู้คนจำนวนมากต้องการป้องกันตนเอง โดยกลัวว่าถ้าคนตกงานเริ่มหันมาปล้นสะดม พวกเขาก็อยากมีศักยภาพในการปกป้องตนเอง, ครอบครัวและทรัพย์สินของตน.