ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net หลายวันก่อนเห็นเล่นข่าวกันตื่นเต้น ลุ้น! เรียก "บิ๊กป้อม" แจง ป.ป.ช.ด้วยตนเอง สุดท้ายมวยล้มต้มคนดูตามคาด นับแต่วันที่ 4 ธ.ค.60 "บิ๊กป้อม" ยกมือขวาบังแดด ระหว่างรอถ่ายรูปหมู่ ครม.ประยุทธ์ 5 จนแหวนเพชรแม่ นาฬิกาหรูเพื่อน สะท้อนเข้าตาคนไทยทั้งประเทศ ถึงวันนี้ปาไปเกือบ 4 เดือนแล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การนำของ "บิ๊กกุ้ย" พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานที่มีจุดอ่อนของชีวิต และกลายเป็นจุดอ่อนของ ป.ป.ช. ก็มีความคืบหน้าตั้ง 2 อย่าง คือ แหวนเพชรของแม่ มูลค่าไม่ถึง 2 แสนบาท ไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และนาฬิกาหรูมี 22 เรือน ไม่ใช่ 25 เรือน แถมยืมเพื่อนคนเดียวทั้งหมด โอ้แม่เจ้า! ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้าน ใครวะมันจะบ้ายืมนาฬิกาเพื่อนใส่ตั้งกว่า 20 เรือน ไม่มีสักเรือนที่ควักเงินตัวเองซื้อบ้างเชียวหรือ เฮ้อ! ผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาก็เป็นเยี่ยงนี้แหละออเจ้า ถึงแม้ทั่นประธานอ้างว่าไม่เข้าร่วมประชุมก็ตาม แต่ตราบใดที่ยังนั่งเก้าอี้นี้อยู่ ก็แค่ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ หลังจากนี้คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงที่มีนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นหัวหน้าทีม ก็แสวงหาเวลากันต่อไป 
    ๐ สัปดาห์ก่อนเห็นการ์ตูนล้อการเมืองของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขียนล้อในทำนองว่า หมาไม่กัดเจ้าของ สงสัยหมาตัวนี้คงจะลืมไปว่า เวลานี้เจ้าของใหม่ของแกคือประชาชน ต้องทำหน้าที่เห่าโจรที่จะจ้องเข้ามาปล้นประเทศ และกัดพวกขี้โกงที่รุมแทะผลประโยชน์ของชาติ แต่กลับเลือกภักดีนายเก่า เท่ากับแกกำลังขย้ำนายใหม่ซึ่งเป็นคนไทยทั้งประเทศ ประชาชนทุกวันนี้ไม่ได้กินหญ้า เขาไม่ได้สนใจแค่ให้มีบทสรุปของนาฬิกาหรูเท่านั้น เขาสนใจด้วยว่าองค์การอิสระที่เคยได้ชื่อว่า "มือปราบโกง" ที่ตงฉิน ทำหน้าที่ของตนเองในการตรวจสอบอย่างซื่อสัตย์สุจริตแล้วหรือเปล่า เหตุผลที่ออกมาฟังขึ้นมั้ย ไม่ใช่เอาสีข้างเข้าถูซื้อเวลาไปวันๆ แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งสมใจนายเก่า เหมือนอย่างเคสก่อนหน้านี้ ที่พอเป็นประเด็นฉาวๆ ของคนใกล้ชิดกับบิ๊กๆ ในรัฐบาล ป.ป.ช.เป็นฟอกขาวลอยลำกันทุกราย แต่กรณีนี้เป็นตัวบิ๊กรัฐบาลโดยตรง  ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ป.ป.ช.จะเลือกปีนบันไดหนีไฟหรือออกตามประตูอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งยุคนี้กลายเป็นหนทางที่ยากมาก
    ๐ ยิ่งกว่าหนังคนม้วน ไม่แปลกที่บรรดานักการเมืองเรียงหน้าทุบ สนช. ก่อนหน้านี้นั่งยันนอนยันไม่ติดใจ เนื้อหา 2 ประเด็น เรื่องตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองของบุคคลที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการในการลงคะแนนเลือกตั้ง ของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ท่ามกลางเสียงเรียกร้องหลายฝ่าย ทั้งคนเขียนรัฐธรรมนูญเองอย่าง "มีชัย ฤชุพันธุ์" หรือแม้แต่จากฟากพรรคการเมือง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่ยังหนุนให้ตีความเพื่อให้เกิดความชัดเจน พร้อมเสนอให้แก้บทเฉพาะกาลให้มีผลบังคับใช้ทันที ป้องกระทบโรดแมปเลือกตั้ง แต่พอ "บิ๊กตู่" ส่งสัญญาณเมื่อวันอังคาร ลูกขุนพลอยพยักทั้งหลาย พอได้ยินทั่นผู้นำไม่สบาย รีบแจ้นล่าชื่อเตรียมยื่นทันควัน หัวหอก "กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ" พลิ้วบอกว่าอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้เกิดความชัดเจน ดีกว่าปล่อยไปจนกฎหมายประกาศบังคับใช้แล้ว มีผู้ไปยื่นตีความภายหลัง ซึ่งอาจไปถึงขั้นที่กฎหมายหรือการเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ งานนี้ทั่นผู้นำก็ลอยตัวอีกเช่นเคย ทั้งที่ขั้นตอนตามกฎหมาย เมื่อ สนช.ส่งร่างให้นายกฯ แล้ว กฎหมายก็เปิดช่องให้นายกฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความได้เลย แต่ขืนทำเองเดี๋ยวจะถูกฝ่ายการเมืองโจมตีตราหน้าใช้ทฤษฎีสมคบคิดยื้อเลือกตั้ง เพราะเจ้าตัวประกาศโรดแมปไว้ว่าไม่เกินก.พ.62 ครั้นจะกลืนน้ำลายตัวเองเหมือนอย่างที่ สนช.ทำก็คงไม่เท่.