25 มี.ค.63 - นา่ยนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า รัฐบาลช่วยแต่คนรวยในขณะที่คนจนส่วนใหญ่กำลังจะจมน้ำตาย
พวกเราฝ่ายค้าน และมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยพยายามอดทน อดกลั้น เสนอแนวทาง ป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู เยียวยา ช่วยเหลือประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกภาคส่วน พร้อมช่วยแก้ไขวิกฤตชาติจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา โควิด 19 มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความจริงใจ
แต่รัฐบาลนี้นอกจากจะใจคับแคบ ไม่สนใจ ไม่ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติแล้ว กลับมีมาตราการช่วยเหลือนายทุน คนรวย เป็นส่วนใหญ่ มีเพียงเศษเสี้ยวของมาตราการเท่านั้นที่ช่วยคนจน เกษตรกร ผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบ นอกระบบ พ่อค้า แม่ค้ารายเล็ก รายกลาง ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง กล่าวคือ
1. รัฐบาลมีมาตราการ “ตั้งกองทุนรวมตราสารหนี้” มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กองทุนรวม ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมตลาดเงินได้และสามารถนำหน่วยลงทุนมาเป็นหลักประกันเพื่อขอสภาพคล่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้
2. ตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่อง เพื่อลดความเสี่ยงการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้
3. มีกลไกดูแลตลาดบอนด์ ซึ่งถือเป็นหัวใจของตราสารหนี้
โดยเงินส่วนนี้ประเทศไทยและคนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ จึงพูดได้เต็มปากว่ารัฐบาลนี้อุ้มคนรวยเต็มที่ ไม่ให้ล้ม หรือหากจะล้ม ก็ให้ล้มบนฟูกที่คนทั้งประเทศต้องร่วมรับผิดชอบ หากมีกำไร คนรวยเพียงหยิบมือก็รับผลประโยชน์ไป หากเสียหาย คนไทยทั้งประเทศก็ร่วมรับผิดชอบจากนโยบายของรัฐบาลนี้
ด้านคนจน คนชั้นกลางซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
1. ภาคแรงงานในระบบ ( โรงงาน สถานประกอบการฯ) นอกระบบ (ภาคเกษตร พ่อค้า แม่ค้า ฯ)
2. ผู้ประกอบการ ค้า รายเล็ก รายกลาง ปลีก ส่ง หาบเร่ แผงลอย ขับรถรับจ้าง
3. บริษัท ห้างร้าน พนักงาน ลูกจ้างตั้งแต่แม่บ้าน รปภ จนถึง เจ้าของกิจการ
รวมประมาณ 40 ล้านคน รัฐบาลกลับไม่มีมาตราการป้องกัน ช่วยเหลือ เยียวยา เท่าที่ควรจะทำเช่น
เมื่อรัฐบาลสั่งปิดกิจการแล้ว จะให้พวกเขาอยู่ต่อไปอย่างไร ให้มีปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และ ยารักษาโรค เพื่อเอาชีวิตรอด
จากนั้นจะบริหารจัดการเรื่องการมีรายได้ มีงานทำ ผ่อนปรนเรื่องภาระหนี้สินอย่างไร ไม่ใช่ให้นายทุนที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากรัฐบาลคือ ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผูกขาดตัดตอนมาขูดเลือดขูดเนื้อรีดเอากับคนยากจน ผู้ประกอบการ รายเล็ก รายกลาง บริษัท ห้างร้าน ที่กำลังจะจมน้ำตาย เช่นที่เป็นอยู่
เปรียบเทียบให้เห็น นายทุนที่เล่นหุ้นในตลาดกลุ่มใหญ่ๆประมาณ 200 ตระกูลรัฐบาลใช้เงินเข้าไปอุ้ม 1 ล้านล้าน บาท
ส่วนคนไทยส่วนใหญ่ที่ลำบากยากจนและกำลังจะตกงานประมาณ 40 ล้านคน หากรัฐบาลช่วยคนละ 2,000 บาทก็เป็นเงินเพียง 8 หมื่นล้านบาท หากช่วยคนละ 4,000 บาทก็เป็นเงินเพียง 1.6 แสนล้านบาทเท่านั้น
รัฐบาลนี้จึงช่วยคนรวยมากกว่าคนจน 10 เท่า
การช่วยคนรวยไม่ต้องรอมติ ครม.
ส่วนคนจน รัฐบาลกลับมีเงื่อนไขสารพัดและปราศจากแผนรองรับทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ในขณะที่นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูงเสพสุขด้วยเงินภาษีของประชาชนอย่างไร้ขีดจำกัด
หากรัฐบาลนี้ไม่เร่งแก้ปัญหาปากท้อง ไม่เร่งแก้ปัญหาโรคระบาด โควิด 19 ไม่เร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน
เมื่อคนหิวจัด เมื่อคนโกรธจัด และเมื่อคนกลัวถึงขีดสุดสัญชาตญาณของมนุษย์จะแสดงธาตุแท้ออกมา เมื่อนั้นอาจเป็นกลียุคของแผ่นดิน ต่อให้พวกคุณมีเงิน มีอำนาจ มีปืน พวกคุณก็ไม่อาจต้านทานการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมวลชนได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |