25 มี.ค.63 -นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul ว่า จาก 3 คนที่เริ่มตกลงปลงใจก่อตั้งพรรค กลายเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน จนเป็นคนจำนวนกว่า 6,265,950 คน และคงจะมากขึ้นกว่านี้หาก กกต. ไม่โยนหลายคะแนนเสียงของคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศทิ้งไป

หลังจากเราไล่อ่านกฎหมายทีละบรรทัด คำนวนโดยไล่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ตีความด้วยสามัญสำนึกของวิญญูชน ไม่มีอะไรที่พิลึกพิสดารไปกว่านั้น และหวังว่าด้วยจำนวนคนที่ลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่เท่านี้ เราจะได้ ส.ส. 87 คน

“ความจริง” ที่เราต่างก็พอรู้กันอยู่แล้ว ถ้าไม่นับลูกไม้สารพัดที่เราประสบตั้งแต่การใช้กลไกรัฐในการเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองบางพรรค การข่มขู่ผู้สมัครของเรา และการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จกับประชาชนเพื่อไม่ให้ลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่

กรณีการคำนวน ส.ส. ด้วยสูตรอันพิสดารของ กกต. จากที่ควรจะได้รับ ส.ส. 87 คน ก็เหลือเพียง 81 คน
เป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิดของเรามากที่สุด

ถัดจากนั้นธนาธรยังถูกสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราว ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ติดต่อซื้อตัว ช็อปปิ้งดูดซื้องูเห่ากันเป็นว่าเล่น

ต่อมา 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์กรรมการบริหาร ทำให้ ส.ส. ลดลงไปอีก จนเหลือเพียง 54 คน จากที่ควรจะเป็น 87 คน หรือหายไปกว่า 33 คน

เมื่อนับเป็นคะแนนดิบ การเลือกตั้งครั้งนี้ ส.ส. 1 คน เป็นตัวแทนของคน 76,536 คน เท่ากับว่าผู้ที่กากบาทเลือกพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ถูกโกง ถูกปล้นคะแนนไปอย่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไรกว่า 2,525,712 คะแนน (อ่านว่า สองล้านห้าแสนสองหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยสิบสองคะแนน)

และคะแนนเหล่านี้ คือคนที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช. ต้องการจัดการ “มรดกบาป” ของ คสช. แต่วันนี้ ด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญ 2560 การใช้อำนาจของบรรดาองค์กรอิสระ และวัฒนธรรมการเมืองอัปถัมภ์อิทธิพล ได้ทำให้คะแนนเหล่านี้กลับกลายเป็นคะแนนที่สนับสนุนรัฐบาลสืบทอดอำนาจของ คสช.