ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ประกาศล็อกดาวน์ฉบับที่ 4 สั่งคุมเข้มกักตัวแรงงานจากกรุงทะลักเข้าเมืองกว่า 6 พันคน ขณะที่ภูเก็ตปิดเมือง 8 วัน หลังติดเชื้อเพิ่มพรวด 9 ราย 1 ในนั้นเป็นพยาบาล อบจ.เชียงใหม่จ่อใช้งบ 200 ล้านเยียวยาคนตกงาน วัดใหญ่ปิดวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราชไม่มีกำหนด
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โดยได้ออกประกาศคำสั่งฉบับที่ 4 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่องมาตรการปฏิบัติตัวของผู้เดินทางจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย เช่น เกาหลี จีน อิตาลี อิหร่าน รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล เมื่อถึงจังหวัดบุรีรัมย์ ให้กรอกแบบคำถามสุขภาพในแอปพลิเคชัน BURIRAM HEALTHY PASSPORT หรือแบบฟอร์ม ต.8 บร. ตามความเป็นจริง ผู้เดินทางที่มีไข้ และมีอาการไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบากให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์คัดกรอง
และผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมถึงประชาชนและแรงงานที่กลับจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล ต้องกักตัวเองที่บ้านหรือสถานที่ที่พำนักอยู่ 14 วัน และต้องรายงานตัวกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทุกวัน หากมีอาการป่วยต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที โดยจะมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ผู้ใหญ่บ้านคอยติดตามอย่างใกล้ชิด หากพบว่าบุคคลใดที่เข้าข่ายต้องกักตัวแต่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะถูกดำเนินคดีตามตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันนี้ 24 มี.ค.เป็นต้นไป
"จากข้อมูลรายงานพบว่าขณะนี้มีประชาชนกลุ่มผู้ใช้แรงงานเดินทางกลับจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเข้ามาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์แล้วกว่า 6,000 คน ซึ่งนอกจากจะให้ลงทะเบียนแสดงตัวแล้ว ยังได้กำชับไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านให้ติดตามเฝ้าระวัง และให้กักตัวตามประกาศอย่างเข้มงวด หากใครฝ่าฝืนก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคเข้าดำเนินการเอาผิดทันที" ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ระบุ
ที่ตำบลเทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หน่วยงานสาธารณสุขและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดมกำลังออกให้ความรู้และการป้องกันตนเองจากการระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ตามมาตรการ “เคาะบ้านต้านโรคโควิด” โดยเน้นกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกพบปะชาวบ้านถึงหน้าบ้านให้ครบทุกหลังคาเรือน ซึ่งจากการพบปะชาวบ้านครบทั้ง 13 ชุมชน ใน ต.เทพรักษา ไม่พบคนติดไวรัสดังกล่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ประชาสัมพันธ์ถึงครอบครัวที่มีบุตรหลานเดินทางกลับจากต่างจังหวัดให้รีบแจ้งต่อผู้นำชุมชนทันที
ที่หน้า สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.โพนพิสัย ได้นำหน้ากากผ้าอนามัยสีกากีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่ตัดเย็บให้ นำมาแจกจ่ายให้กับกำลังพลในสังกัด นอกจากนี้ได้จัดทำฉากกั้น กระจกกั้นระหว่างตำรวจที่รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์กับประชาชนที่มาใช้บริการ ป้องกันไม่ให้ละอองฝอยน้ำลายกระเด็นใส่กัน
ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา แถลงว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 1 รายเป็นชาย อายุ 38 ปี พนักงานธนาคาร ติดเชื้อมาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 5 รวมมีผู้ป่วยสะสมจำนวน 6 ราย สำหรับมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่เดินทางกลับมาจาก กทม.และปริมณฑลนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการติดตามการระบาดของโรคระดับหมู่บ้าน ซึ่งใช้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นหลัก โดยสอบประวัติให้ละเอียดและให้กักตัวก่อนเป็นเวลา 14 วัน
ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ นพ.ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และ พญ.ศุภลักษณ์ ละอองเพชร รองผู้อำนวยการ (ฝ่ายการแพทย์) โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดภูเก็ตว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 9 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสมยืนยัน 26 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 2 ราย ผู้ติดเชื้อรักษาตัวที่โรงพยาบาล 24 ราย ทุกรายอาการอยู่ในเกณฑ์ดีไม่มีอาการรุนแรง และมีผู้อยู่โรงพยาบาลเพื่อรอผลตรวจ 22 ราย รวมผู้รักษาตัวที่โรงพยาบาล 46 ราย ในกรณีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 รายนี้ มีบุคลากรการแพทย์รวมอยู่ด้วย 1 ราย อยู่ลำดับที่ 21
พญ.ศุภลักษณ์กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่พบติดเชื้อเป็นพยาบาลปฏิบัติงานเวชกรรมระบาด โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อายุ 35 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่มีประวัติสัมผัสกลุ่มเสี่ยงจำนวนมาก เริ่มมีอาการป่วย ในวันที่ 20 มี.ค. ผู้ป่วยรายนี้เดิมเป็นโรคภูมิแพ้ ได้ทำการสอบสวนโรคอย่างใกล้ชิด เมื่อเกิดการติดเชื้อขึ้นกับพยาบาลเป็นหนึ่งในวงการบุคลากรแพทย์ ทำให้ทุกคนที่ทำหน้าที่มีความกังวลมากที่สุด
นายภัคพงศ์กล่าวว่า มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มมากขึ้น โดยรับเชื้อจากยุโรปและสถานบันเทิงในภูเก็ต ทางจังหวัดจึงเพิ่มความเข้มข้นมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยออกประกาศสั่งปิดห้างสรรพสินค้าและสถานที่เสี่ยงต่างๆ ให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24-31 มี.ค.นี้ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อ ขอความร่วมมือประชาชน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ขอให้พบแพทย์โดยด่วนเพื่อทำการสอบสวนโรค
ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี แถลงว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 12 ราย จากเดิม 8 ราย รวมแล้ว 20 ราย โดย 12 รายนี้เป็นผู้ที่ได้กักตัวไว้เนื่องจากสัมผัสกับผู้ป่วย 8 ราย ที่เดินทางจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซียตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา
"เราเตรียมเฝ้าระวังถึง 6 บัญชีอย่างเข้มงวดที่สุด ถ้าใครติดเชื้อจะได้สอบสวนย้อนหลังทันที กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการลงไปยังสาธารณสุข อนามัย เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเข้าไปตรวจสอบถึงชุมชนหมู่บ้านให้เฝ้าระวังกลุ่มที่เดินทางจาก กทม. และที่สำคัญกลับจากมาเลเซีย เพราะแต่ละอำเภอไม่ต่ำกว่า 500 คน ทั้ง 3 จ.รวมแล้วกว่าหมื่นคน บางคนยังหาตัวไม่เจอและยังไม่แสดงตัว ถือเป็นเรื่องน่ากังวลเป็นห่วงพอสมควร" นายไกรศรระบุ
ที่ จ.สงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อติดตามมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ตามย่านการค้าต่างๆ หลังจากที่ทางจังหวัดได้ประกาศปิดสถานที่ชั่วคราว 20 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.-12 เม.ย. ว่าที่น่ากังวลขณะนี้คือผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซียทางด่านพรมแดนปาดังเบซาร์เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ประมาณ 500 คน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและฝ่ายปกครองระดับท้องถิ่นเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง แถลงว่า พบผู้ป่วยด้วยโรคไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 3 ราย รวมเป็น 4 ราย โดยรายที่ 2 เป็นกรรมการห้ามมวย วัย 56 ปี ซึ่งติดมาจากสนามมวยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ รายที่ 3 เป็นหญิงวัย 56 ปี ที่ติดเชื้อมาจากเซียนมวย ที่อยู่ใกล้ชิดกัน และรายที่ 4 เป็นชายวัย 58 ปี ที่กลับจากประกอบพิธีทางศาสนกิจจากประเทศอินเดีย
ที่ จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 11 ขวบ รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1 ราย ส่งตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 44 ราย และรอผลตรวจ 5 ราย
ปิดวิหารพระพุทธชินราช
ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระอารามหลวง หรือวัดใหญ่ อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพิษณุโลก ทางวัดเพิ่งประกาศปิดชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด โดยนายวินัย ชาญวิชัย ไวยาวัจกรของวัดใหญ่ เปิดเผยว่า มีคำสั่งจากพระพุทธิวงศมุนี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ให้ปิดวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระปรางค์ของวัด ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. เป็นต้นไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ที่ จ.เชียงใหม่ นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และผู้เกี่ยวข้อง แถลงสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ว่าไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม ทำให้มีเท่าเดิมที่ 13 ราย กลับบ้านแล้ว 1 ราย และทุกรายที่รักษาอาการไม่รุนแรง ขณะที่สินค้าบริการในพื้นที่ยังเป็นปกติไม่มีปัญหากักตุนหรือร้องเรียนเวลานี้ ทั้งนี้ ได้แจ้งทุกส่วนเตรียมพร้อมเพื่อปฏิบัติงานภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามนโยบายรัฐบาลที่จะเริ่มบังคับใช้ 26 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกันนายก อบจ.เชียงใหม่เตรียมเสนอสภา อบจ. ตั้งงบประมาณ 200 ล้านบาท มาบรรเทาผลกระทบช่วยผู้ที่ตกงานหรือถูกเลิกจ้าง โดยจ้างงานทำฝายชะลอน้ำใน 22 อำเภอ รวม 100 ล้านบาท และอีก 100 ล้านบาทจัดซื้ออาหาร สิ่งของยังชีพจำเป็นช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในจังหวัดไว้เป็นเบื้องต้นระยะ 2-3 เดือนนี้
ที่ชัยนาท นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ออกคำสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจากโรคโควิด-19 จำนวน 18 ประเภท ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. ถึงวันที่ 14 เม.ย.2563
ที่ด่านท่าจอด ต.เเสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการ จ.ตราด พร้อม นพ.บัญชา สรรพโส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด นายอำเภอเขาสมิง, พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมทหารนาวิกโยธินจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ร่วมจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองเชื้อโรคโควิด-19 กับประชาชนที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดตราด เพื่อควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้เข้ามายังจังหวัดตราด เนื่องจากตราดเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |