ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด ลุ้นกันมาหลายวันในที่สุด บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็ใช้ยาแรง โดยที่ประชุม ครม.เห็นชอบงัด พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 สู้ศึกการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวัสโควิด-19โดยจะเริ่มประกาศใช้ 26 มี.ค.นี้ เพื่อให้ทุกคนมีเวลาเตรียมตัว และประกาศใช้เป็นเวลา 1 เดือน ยกระดับเป็นศูนย์ฉุกเฉิน หรือเรียกง่ายๆ ว่า "ศอฉ.โควิด-19" และเมื่อมีคณะทำงานชุดพิเศษแล้ว ก็ควรแต่งตั้ง โฆษก ศอฉ.โควิด-19 ขึ้นมาใหม่ด้วย ซึ่งต้องเป็นบุคคลที่มีความรอบรู้เชี่ยวชาญทุกด้าน พูดจาฉะฉาน ทำให้คนรับฟังแล้วเชื่อถือและพร้อมปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ส่วน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ให้ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลต่อไป เพราะเธอไม่เหมาะกับสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ...o

                สถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลตกเป็นเป้าถูกโจมตีตลอดเวลา ออกมาตรการเข้มข้นรวดเร็วก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือออกมาช้าก็ถูกต่อว่าได้อีก เพราะทุกมาตรการย่อมมีผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ แต่หากรัฐบาลสามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนได้ล่วงหน้า ก็จะลดการถูกโจมตีลงได้ ซึ่งก็ไม่เหนือความคาดหมาย พรรคก้าวไกล และ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ดักคอว่า รัฐบาลต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อย่างจำกัดและระมัดระวัง ไม่ใช้เพื่อลิดรอนเสรีภาพของประชาชน ทั้งที่เรียกร้องให้ใช้ยาแรง ซึ่งก็ต้องลิดรอนเสรีภาพประชาชนอยู่แล้ว แต่คงไม่ไปปิดปากฝ่ายค้าน เว้นแต่แชร์เฟกนิวส์แบบ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, จาตุรนต์ ฉายแสง, เหวง โตจิราการ คราวนี้อย่าเกรงใจกัน ต้องส่งไปเก็บไว้ที่ห้องกรงสัก 3 เดือน ...o

                ส่วนคำถามว่าประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วจะสะกัดการแพร่ระบาดไวรัสได้ผลหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข มีคำตอบให้ว่า "การยกระดับมาตรการจะเพียงพอหรือไม่นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนในประเทศเป็นสำคัญ ประเทศที่มีการปกครองแบบจีน มาตรการมีความเข้มข้นตั้งแต่แรก ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี...กฎทุกอย่างอยู่ที่ทุกท่านเองจะปฏิบัติหรือไม่ แม้โทษปรับจะแรงขึ้นเพิ่มเป็นล้าน ถ้าทุกคนไม่ปฏิบัติ ทุกคนยังอยู่ที่บ้าน ไม่มีใครไปตามจับท่านได้ อยู่ที่จิตสำนึกและความร่วมมือร่วมใจกัน" ขณะที่บริบทของสังคมไทยแตกต่างจากจีน เพราะได้ขอความร่วมมือแล้วแต่ไม่ได้ผล โดยเฉพาะพวก ขาใหญ่-ลูกท่าน หลานเธอ ที่ชอบใช้อภิสิทธิ์ชนหลบเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ จึงต้องใช้ยาแรงบังคับ ใครฝ่าฝืนต้องลงโทษเด็ดขาดแบบไม่เลือกปฏิบัติ มิเช่นนั้นจะเอาไม่อยู่แน่นอน ...O

                ตัวอย่างที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดแบบก้าวกระโดด มาจากการจัดแข่งขันชกมวยของสนามมวยลุมพินี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ทำหนังสือแจ้งขอความร่วมมือมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถึงนายสนามมวยเวทีลุมพินี (พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก) เพื่อให้ดำเนินการมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 มี.ค.63 ให้หลีกเลี่ยง หรือเลื่อนการจัดกิจกรรม เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 แล้ว แต่ปรากฏว่าในวันที่ 6 มี.ค.63 สนามมวยเวทีลุมพินียังคงมีการจัดการแข่งขันชกมวยรายการใหญ่ที่ชื่อว่า 'ลุมพินิแชมเปี้ยนเกียรติเพชร' มีบรรดาเซียนมวยและประชาชนเข้าไปร่วมชมจำนวนมาก เมื่อเกิดการติดเชื้อหลายคนเดินทางกลับไปต่างจังหวัดก็แพร่ระบาดไปทั่วประเทศ แม้เซียนมวยบางคนออกมาขอโทษสังคม แต่ นายสนามมวยฯ ยังไม่แสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด? ...๐

                น่าตกใจสำหรับวันนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 106 ราย โดยเฉพาะมี บุคลากรทางการแพทย์ มีแพทย์และพยาบาลจำนวน 4 ราย จากจังหวัดภูเก็ต ยะลา บุรีรัมย์ และนครปฐม ซึ่งน่าเป็นห่วง แต่ต้องดูแลอาการ และมีกลุ่มผู้ป่วยที่พบเชื้อและรอตรวจสอบประวัติอีก 47 ราย และวันนี้เสียชีวิตลงอีก 3 รายเป็นผู้ชายทั้งหมด รวมของเดิมที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ 1 ราย ทำให้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 ราย สรุปรวมผู้ป่วยกลับบ้าน 57 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล 766 ราย ผู้ป่วยสะสม 827 ราย เชื่อว่าอีก 1-2 วันนี้แตะหลักพันแน่ หากใช้ยาแรงแล้วประชาชนไม่รวมมือ ตัวเลขจะพุ่งโด่งเหมือนในยุโรปและสหรัฐ เป็น ทางสองแพร่ง ของสังคมไทยที่อันตรายยิ่งนัก...๐

                นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ร่วมแถลงถึงมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบทั้งประชาชนและผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน โดยยึดหลักการเดิม “ทันการณ์ ตรงเป้าหมาย และชั่วคราวตามจำเป็น” เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน รวมถึงบรรเทาผลกระทบและเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ก็ขอฝากด้วยว่ามาตรการต่างๆ อย่าให้มีเงื่อนไขยุ่งยากเกินไป เช่น การคืนประกันการใช้ไฟฟ้า ถามว่าชื่อผู้วางหลักประกันกับผู้อาศัยที่อยู่ปัจจุบันตรงกันจริงกี่ % ถ้าจะให้ไปวิ่งโอนชื่อเพื่อเอาเงิน 300 มันคุ้มกันไหม ทำไมไม่ลดหย่อนค่าไฟรายเดือนไปเลย เดือนละกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไป ...๐

 แซมซาย