คำอวยพร..ที่แสนงดงาม


เพิ่มเพื่อน    

        ท่ามกลางความเครียด ความกังวล ความเสียใจกับผู้เคราะห์ร้ายต้องเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 เมื่อมีสาส์นอวยพร จาก "สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส" ถึงชาวอิตาลีและชาวคริสต์ทั่วโลกเผยแพร่ออกสู่สาธารณชน มันเปรียบหยาดน้ำทิพย์สร้างกำลังใจให้กับคนทั่วโลกไม่มากก็น้อย ด้วยภาษาแสนสละสลวย งดงาม

                ไม่ว่าชาวคริสต์ ชาวพุทธ หรือคนนับถือศาสนาอะไรก็ตาม เมื่ออ่านแล้วเชื่อว่ามีความสุข และเข้าใจได้ดีกับข้อคิดมากมาย ที่ทำให้มนุษย์โลกทุกคนมีกำลังใจสู้ต่อไป เพราะชีวิตไม่มีคำว่าสิ้นหวัง

                ในสาส์นอวยพรถอดความได้ว่า

                แม่น้ำ..ไม่ดื่มน้ำของตัวเอง

                ต้นไม้..ไม่กินผลของตัวเอง

                ดวงตะวันไม่ฉายแสงเพื่อตนเอง

                และดอกไม้ไม่ได้ให้กลิ่นหอมแก่ตนเอง

                การมีชีวิตเพื่อผู้อื่นเป็นกฎธรรมชาติ

                เราเกิดมาเพื่อช่วยกันและกัน

                ไม่ว่าจะยากเพียงใด...ชีวิตย่อมดีเมื่อท่านมีความสุข

                ที่ดีกว่านั้นคือ การที่ผู้อื่นมีความสุขเพราะท่าน

                ขอให้เราทั้งหลายระลึกเสมอว่า ใบไม้เปลี่ยนสีมีความงาม ทุกสถานการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนย่อมมีความหมาย     

                พึงตระหนักรู้ให้ชัด อย่ารำพันพร่ำบ่น

                จงจำไว้ว่าความเจ็บปวดเป็นสัญญาณการมีชีวิต

                ปัญหาเป็นสัญญาณความเข้มแข็ง และการภาวนาเป็นสัญญาณว่าเราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว!

                ...สาธุค่ะ

                พึงตระหนักรู้ให้ชัด อย่ารำพันพร่ำบ่น ...เป็นบรรทัดที่ชอบที่สุด และคิดว่าสังคมไทยควรจะน้อมนำมาคิดและตรึกตรองให้มากนะคะ

                เพราะมนุษย์ป้าสังเกตว่า คนรำพันพร่ำบ่นในบ้านเรานั้นมีเยอะแยะเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ย้อนกลับไปดูและพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว จำได้หรือเปล่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่อู่ฮั่นนั้น ประเทศไทยเป็นประเทศเสี่ยงลำดับท็อปไฟว์ในเอเซียและระดับโลก

                หลังจากผ่านไปกว่า 1 เดือน ประเทศไทยถูกประเทศอื่นๆ แซงหน้านำโด่งและเตะไปอยู่อันดับ 30 กว่าๆ สำหรับคนที่มีปัญหาติดเชื้อ

                นั่นมันแปลว่าอะไร สะท้อนบอกอะไรถ้าไม่ใช่พิสูจน์ชัดว่า เรามีระบบการบริหารจัดการกับการระบาดของโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยหน้ากว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ เลย

                มันแปลว่า บุคลากรทางด้านการแพทย์ และด้านสาธารณสุขของเราเข้มแข็ง เสียสละมากมาย

                แต่คนไทยบางส่วนก็ยังพร่ำบ่น ถากถาง และตำหนิติเตียน ราวกับว่าประเทศของตัวเองนั้นไร้ค่า ล้มเหลว

                นี่ขนาดปิดปากด้วยหน้ากากอนามัยแล้วนะ ถ้าเปิดปากน้ำลายสกปรกคงกระเด็นไปทั่ว..คนแบบนี้น่าเบื่อจริงๆ.                                                                                                                                                            

               "ป้าเอง" 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"