ศาลยุติธรรม ออก 10 มาตรการเซฟตี้บุคลากร สนง.ศาลฯ จากโควิด-19 ใช้บังคับทันที


เพิ่มเพื่อน    

24 มี.ค.63- นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกหนังสือเวียน ถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมด่วนที่สุด เรื่อง มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงานกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ตามที่ สำนักงานศาลยุติธรรมได้กำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของบุคลากรรายอื่นๆ ของสำนักงานศาลยุติธรรมนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส รวมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตและการทำงาน สำหรับข้าราชการศาลยุติธรรมลูกจ้างและพนักงานราชการศาลยุติธรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์พิเศษ และไม่กระทบต่อภารกิจในการสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน จึงเห็นควรกำหนดมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส ซึ่งคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ได้มีมติรับทราบมาตรการดังกล่าวแล้ว ดังนี้

1.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน หมายถึงการปฏิบัติงานของข้าราชการศาลยุติธรรม ลูกจ้าง และพนักงานราชการศาลยุติธรรม นอกสถานที่ทำงานตามปกติ เช่น ในพื้นที่ที่หน่วยงานจัดไว้เป็นสถานที่ทำงานร่วม หรือสถานที่พักของเจ้าหน้าที่ หรือสถานที่อื่นใดที่หน่วยงานเห็นว่าเหมาะสม

2.ผู้อำนวยการอาจมอบหมายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงานแก่ข้าราชการศาลยุติธรรม ลูกจ้าง และพนักงานราชการศาลยุติธรรมในสังกัด เป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ โดยกำหนดเป้าหมาย ผลผลิต ตัวชี้วัดการทำงาน ระบบวิธีการสื่อสาร ติดตามการประเมินความก้าวหน้า ตลอดจนการรายงานผลการทำงาน หรือเรื่องอื่นที่พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องกำหนดตามบริบทการทำงานของหน่วยงานตามความเหมาะสม สอดคล้องกับภารกิจในการสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดี และงานที่เป็นความลับโดยไม่ให้เสียหายแก่งานราชการ

 3.ในการมอบหมายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ให้ผู้อำนวยการกำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาปฏิบัติงาน ที่สถานที่ตั้งของหน่วยงาน รวมถึงวิธีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปปฏิบัติราชการ ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานตามความเหมาะสม โดยไม่ให้เสียหายแก่ภารกิจราชการ

4.การลงเวลาปฏิบัติราชการสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ให้บันทึกในหมายเหตุของบัญชีวันทำการในระบบว่า“ ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งวันที่ ... . "สำหรับผู้มาปฏิบัติงานตามปกติ ให้ลงเวลาผ่านระบบบันทึกเวลาการมาปฏิบัติราชการตามปกติ

5.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงานตามมาตรการนี้ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผู้ปฏิบัติงานมีสิทธิได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินอื่นใดที่จ่ายเพื่อตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย

6.ในช่วงระหว่างการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ให้ผู้บังคับบัญชากับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันโดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุนในการทำงาน เช่น รายงานความก้าวหน้าของงานทุกวันผ่านทาง E-mail หรือทาง Application Line เป็นต้น ทั้งนี้ ให้ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องให้ผู้บังคับบัญชาสามารถติดต่อผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยเร็วตลอดช่วงเวลาที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน

7.กรณีมีเหตุจำเป็นหรืออาจเกิดความเสียหายแก่ภารกิจราชการ ผู้อำนวยการอาจเรียกให้ข้าราชการศาลยุติธรรมลูกจ้างและพนักงานราชการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน กลับมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานก่อนครบกำหนดได้

8.กรณีข้าราชการศาลยุติธรรมลูกจ้างและพนักงานราชการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงานประสงค์จะลา เช่น ลาป่วย ลากิจ หรือลาพักผ่อน ให้เสนอใบลาผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทาง E-mail หรือทาง Application Line เป็นต้น

 9.การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่กำหนดตามมาตรการนี้ หรือการปกปิดข้อมูลอันมีเหตุอันควรสงสัยว่าตนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ถือเป็นการกระทำความผิดวินัย ฐานขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้ง

10.มาตรการนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะคลี่คลาย หรือสำนักงานศาลยุติธรรมเห็นควรกำหนดเป็นอย่างอื่น

นายสราวุธ ยังได้ออกประกาศด่วนที่สุด ถึงแนวทางปฏิบัติการลงเวลาปฏิบัติราชการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ว่า ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมได้กำหนดแนวทางการลงเวลาการปฏิบัติราชการด้วยลายนิ้วมือ และโปรแกรมข้อมูลวันลาบุคลากรมาใช้ในการปฏิบัติราชการของสำนักงานศาลยุติธรรม แทนการจัดทำบัญชีลงเวลาปฏิบัติราชการของข้าราชการศาลยุติธรรม พนักงานราชการศาลยุติธรรม และลูกจ้าง ด้วยการลงลายมือชื่อ ตั้งแต่เดือน เม.ย.2556 เป็นต้นมานั้น เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีแนวโน้มที่จะระบาดในวงกว้างขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้ขยายวงกว้าง และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของบุคลากรในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม และให้การปฏิบัติงานมีความยืดหยุ่นคล่องตัวมีประสิทธิภาพ สำนักงานศาลยุติธรรมจึงให้ผ่อนผันการลงเวลาการปฏิบัติราชการด้วยลายนิ้วมือในระบบฯ ช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้ ให้ผู้อำนวยการทำหน้าที่กำกับดูแลและควบคุมตรวจสอบการลงเวลาปฏิบัติราชการและเวลาปฏิบัติราชการ ให้เป็นไปตามจำเป็นและเหมาะสม โดยให้มีการจัดทำหลักฐานไว้เพื่อให้ตรวจสอบได้ในภายหลังด้วย จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"