วันนี้เมืองไทยมีคนพูด คนวิจารณ์มากว่าคนทำ คนเรียกร้องมากกว่าดูแลตัวเอง สวนทางกับเจ้าหน้าที่และฝ่ายที่เกี่ยวข้องหนักทำงานหนักมาก ดังนั้นหากทุกฝ่ายควรมองด้วยสติ เป็นกลาง และไร้อคติ ก็อาจจะทำให้บรรยากาศของบ้านเมืองดีขึ้น    

                ย้อนกลับมาเหตุการณ์ที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ต้องหลั่งน้ำตา ตามมาด้วยเสียงวิจารณ์ แต่หากทุกคนมองด้วยใจเป็นธรรม และไม่เอามันอย่างเดียว หรือหากยังสงสัย ลองเสียเวลาสักนิดอ่านเพจ Covid19thailandfact หัวข้อ “เป็นกำลังใจครับ” ก็จะเข้าใจความรู้สึกของ รมว.สาธารณสุขผู้นี้มากขึ้น   

                โดยมีเนื้อหาว่า จริงๆ แอดฯ ไม่รู้ปัญหาเบื้องลึกเบื้องหลังของความอึดอัดถึงขั้นที่ "เสี่ยหนู" ต้องหลั่งน้ำตา แต่ถ้ามองในมุมของการทำงาน "เสี่ยหนู" แกทำงานหนักจริงๆ ยิ่งเฉพาะในสถานการณ์ Covid-19 แกก็พยายามประคองสถานการณ์มาโดยตลอด และทำตามหลักวิชาการ เชื่อฟังหมอ และผู้เชี่ยวชาญ

                พยายามหน่วงการระบาดและทำได้นานแสนนาน แต่สุดท้ายทำนบที่เคยแข็งแกร่ง ก็รั่ว รอยร้าว เกิดจากอะไรบ้าง แอดฯ คงไม่ต้องสาธยาย กลับกัน "เสี่ยหนู" คือตำบลกระสุนตกของจริง ถึงแกจะปากหนัก แต่แกก็ไม่ได้ทำงานห่วยแตก สร้างความวิบัติชิบหาย ยังคุมเกมได้ดี เพิ่งมียอดผู้ป่วยพุ่ง ก็เพราะหลายๆ ปัจจัย จะโทษแกคนเดียวก็ไม่ได้

                แต่อะไรๆ ก็มาลงที่แกหมด ตั้งแต่หน้ากากอนามัย จะให้แกเอาหน้ากากของโรงพยาบาลไปขาย จะให้ สธ.จัดหาหน้ากากให้ประชาชน วันดีคืนดีต้องออกมาแก้ข่าวแบบงงๆ บางคนไปบอกว่าแกขวางการปิดเมือง ตัดสินใจช้า

                เฮ่ยยยย แกเป็น รมว.สธ. ไม่ใช่นายกฯ แอดฯ มองว่าแกทำงานหนักมากนะ ขอให้แกมีพลัง มีกำลังสู้ต่อ แต่ถ้าจะถอย แอดฯ ก็เข้าใจ  

                จะอย่างไร ก็ขอให้ทุกฝ่ายพูดจากันดีๆ ทุกภาค ทุกฝ่าย ช่วยกันทำงานเพื่อประชาชน #ทีมเสี่ยหนู# วินัยคือวัคซีนที่ดีที่สุด #Covid19thailandfact

ช่างสงสัย