หวิดหมดอายุความ!ปปช.-ตำรวจรวบ 'พ.ต.ท.' รับส่วยสิบล้อ


เพิ่มเพื่อน    

นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช.

29 มี.ค. 61 - นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวพ.ต.ท.สุรศักดิ์ หรือ สิทธิโชติ ศรีสวัสดิ์กุล อดีตสารวัตรจราจรกลาง มาที่สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อส่งดำเนินคดีตามหมายจับในข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ทำการเบียดบังทรัพย์สินเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 

โดยการเข้าจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพบพฤติกรรมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ได้ทำการตรวจจับรถบรรทุกที่มีควันดำ ซึ่งตามกฎหมายเจ้าหน้าที่จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าปรับ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่หากเป็นการจับกุมโดยมีผู้แจ้งเบาะแส ทางตำรวจจะได้ส่วนแบ่ง 35 เปอร์เซ็นต์ และผู้แจ้งเบาะแสอีก 35 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือนำเข้าส่งรัฐ แต่ที่ผ่านมาพบว่า พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ได้ทำหลักฐานเท็จ อ้างว่า มีผู้แจ้งเบาะแสทุกครั้ง ทั้งที่เป็นการตั้งด่านจับกุมของตำรวจเอง โดยจากรายงานพบว่า ที่ผ่านมา มีวงเงินค่าปรับกว่า 8 ล้านบาท และมีส่วนต่างที่ยักยอกไปกว่า 20 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยชี้มูลความผิดนายตำรวจคนนี้แล้ว จนทำให้ต้องออกจากราชการ และมีหมายจับเมื่อปี 2559 แต่เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนี จึงสืบสวนติดตามจับกุม จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวได้เมื่อเช้า ที่ห้องพักย่านเตาปูน ซึ่งคดีนี้จะหมดอายุความในเดือนเม.ย.นี้ 

ทั้งนี้ ป.ป.ช.ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งพนักงานอัยการ เพื่อส่งฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

ต่อมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.สุรศักดิ์  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล เลขที่ 1073/2559 ลงวันที่ 3 มิ.ย. 2559 พร้อมสำนวนความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริตหรือ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ตามมาตรา 147 ซึ่งมีอัตตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท จากกรณีทุจริต “เงินรางวัลส่วนเเบ่งของการตรวจจับรถบรรทุกและรถยนต์ที่มีควันดำบนท้องถนน เมื่อระหว่างเดือนตุลาคม 2540 ถึงเดือนเมษายน 2541” ในพื้นที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. มายื่นฟ้อง

โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีในศาลอาญาทุจริตฯ

ต่อมา พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา โดยศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 5 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"