23มี.ค.63-หลังจากกรุงเทพมหานคร ประกาศล็อคดาวน์ กรุงเทพฯ มีคำสั่งปิดสถานบริการมากมาย ส่งผลให้เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มีผู้เดินทางออกไปต่างจังหวัดจำนวนมาก  มีการรายงานว่ามียอดระดับ แสนกว่าคน  ซึ่งเป็นเรื่องน่าวิตกว่า ผู้ที่เดินทางออกไป จะทำการแพร่เชื้อโควิด-19 ให้กับผู้อยู่ในต่างจังหวัด 

    สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในช่วงของการแถลงรายงานสถานการร์การระบาดเชื้อโควิด-19 ของวันที่  23 มีนาคม2563  นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ได้ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ขณะนี้ว่า   มีข้อความสำคัญข้อความเดียวขอวิงวอนมให้สื่อ ไปพี่น้องไทยทุกคน มีคนถามว่าจะเป็นย้งไงต่อไป 2-3 วันที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อก้่าวกระโดดไปพอสมควร หลังจากที่ในช่วง 2-3 เดือนเราคุมอยู่  เพิ่มวันละ 5ราย สุดท้ายก็ขึ้นอย่างรวดเร็ว คนก็ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นประเทศเรา เราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ระบาดโควิด -19 แต่มีทั่วโลก จีนที่มีมาก ตอนนีคุมอยู่ การระบาดมาที่ เกาหลี สิงคโปร์  และข้ามไปฟากยุโรป ซึ่งใครเห็นข้อมูลก็ตกใจ หลังจากนั้นข้ามไปอิหร่าน อเมริกา แคนาดา 

    จากการพล็อตกราฟที่ใช้ข้อมูลสถิติเชิงวิทยาศาสตร์ โดยใช้ข้อมูลมีผู้ติดเชื้อ 100 รายเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อการคาดการณ์ปรากฎการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งพบว่าหากประเทศไหนมีผู้ติดเชื้อ 100 รายแล้ว จะค่อนข้างวิ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีประเทศที่ถึงระดับ 100 รายก่อนไทยหลายประเทศ  ที่ตัวเลขวิ่งไปอย่างรวดเร็ว  ที่เห็นได้ชัดคือ อิตาลี อิหร่าน วิ่งไปอย่างรวดเร็ว จาก 100 เป็น 200 .1,000 และขึ้นไปถึงระดับหลายหมื่น การขึ้นไปเร้วอย่างนี้ ปัญหาคือระบบสาธารณสุขรับไม่ทัน ใครจะคิดว่าประเทศอิตาลี และสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ที่ถือว่าสุดยอดในระบบสาธารณสุข จะมีคนตายจำนวนมาก อย่างน่าตกใจ

    ขณะเดียวกัน มีเพื่้อนบ้านเรา  ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์  ตัวเลขได่ขึ้นไปแต่สุดท้าย เส้นกราฟถูกเบนลดลง  แม้แต่เกาหลีกใต้ ที่ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เป็นหลักพันราย  แต่สุดท้ายก็ถูกเบนลงมาได้ 

    แต่ไทยวันนี้เรามีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 721 ราย  เรายังอยบู่ในสิ่งที่ทางการแพทย์เรียกว่า Golden Period หรือ"เวลาทอง" ถ้าเราไม่ประพฤติปฎิบัติตัว มีวินัยอย่างเคร่งครัดครัด อยู่บ้านหยุดเชื้อ หรือถ้าออกไปนอกบ้านไม่ระมัดระวังตัวเอง   เราก็จะเดินไปเหมือนยุโรป นั่นหมายความว่าอีกไม่กี่วันจะทะลุพัน อีกไม่กี่วันจะทะลุหลายพัน  แล้ววันนั้น ยังนึกไม่ออกว่าทางการแพทย์เราจะรับมือได้แค่ไหนอย่างไร

     ถึงแม้เราจะทำดีที่สุด ระบบสุขภาพเราจะแข็งแรงมาก แต่ก็มีความเสี่ยงว่าเราจะคนเสียชีวิตเพิ่ม  เวลานี้เราอยู่ในจุดที่เลือกได้  ว่าท่านจะเลือกช่วยกันให้ออกมาในแนวทางนี้(ชี้ไปที่เส้นกราฟ ญี่ปุ่น ไต้หวัน) ค่อยๆเพิ่มขึ้นไป  แล้วเส้นเบนน้อยลง  หรือท่านจะทำให้เส้นกราฟพุ่งโด่งเหมือนในประเทศยุโรป อเมริกา ขึ้่นอยู่กับมือท่าน การแพทย์และการสาธารณสุข เราทำได้แค่คอยค้นหา รักษา ให้ยา ท่านเท่านั้น เพราะฉะนั้น มาตรการที่รัฐออกมา ขอให้เช้าใจว่าคอนเซ็ปต์ว่า คือ อะไร ขอให้เข้าใจตรงนั้น แล้วช่วยกันดำเนินการตาม 

    "ผมขอยกตัวอย่าง คือ พอรัฐปิด ไม่ให้ไปทานอาหารที่ร้านอาหาร ท่านก็ไปสุมหัวตั้งวง ก๊งเหล้า นอกพื้นที่ ตรงนี้ล่ะครับ  ถ้าชุมชนสังคม สังคม ไม่ช่วยกัน เราคงต้องไปถึงจุดที่รัฐต้องล็อคดาวน์  ให้คนอยู่ในบ้าน ไม่ให้ออกนอกบ้านเรา ดังนั้นเราจึงต้องเลือก ช่วยกันในช่วง Golden Period  ว่าเราจะไปแบบประเทศญี่ปุ่น "

    รองปลัดสธ.กล่าวอีกว่า  ขอฝากอีกประเด็นเดียว ท่านที่กำลังเดินทางออกไปต่างจังหวัด ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้น พี่น้องหลายคนเห็นว่าไปขนส่งสาธารณะ ท่านต้องระมัดระวังตัวเอง เพราะนั่งไปในสถานที่ระบบปิด  อากาศถ่ายเทน้อย นั่งหลายชั่วโมง น่าห่วงพวกเดินทางโดยรถตู้ ไปแบบส่วนตัว นั่งอัดกันมากๆ นั่งระยะเวลายาวนาน ต้องช่วยกันระมัดระวัง และเมื่อถึงปลายทางแล้ว  ก็ขอความร่วมมือท่านรายงานตัวและกักตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่เชื่้อ ผมยังหวัง เป็นอย่างยิ่งกราฟของเราจะไม่เดินตามยุโรป หรืออเมริกา