อิตาลีวิกฤติทั้งโลกตายเกิน1.3หมื่น


เพิ่มเพื่อน    


    ทั่วโลกสังเวยโควิด-19 เกิน 13,000 คนแล้ว ติดเชื้อทะลุ 3 แสนราย เกินครึ่งอยู่ในยุโรป ล็อกดาวน์แล้ว 35 ประเทศกักประชาชนมากกว่า 1,000 ล้านคน อิตาลียังวิกฤติรัฐบาลสั่งปิดโรงงาน อินเดียทดสอบปิดประเทศระหว่างเคอร์ฟิว 14 ชั่วโมง
    ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มพบติดมนุษย์ครั้งแรกในจีนเมื่อเดือนธันวาคม ถึงขณะนี้ได้แพร่เชื้อติดประชาชนในมากกว่า 180 ประเทศแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2563 โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 314,000 ราย เสียชีวิตมากกว่า 13,500 ราย แต่รักษาหายแล้วเกือบ 96,000 ราย ยุโรปเป็นทวีปที่สถานการณ์รุนแรงที่สุด มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 152,117 ราย กว่า 1 ใน 3 อยู่ในอิตาลี เอเชียมีผู้ติดเชื้อ 96,669 ราย เสียชีวิต 3,479 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจีน
    เอเอฟพีรายงานว่า นับแต่เวลา 02.00 น.ของวันอาทิตย์ แองโกลา, อีสต์ติมอร์, ยูกันดา, เอริเทรีย และฉนวนกาซา รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก ส่วนโคโซโว, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, โรมาเนีย, ชิลี และไซปรัส มีผู้เสียชีวิตรายแรกในประเทศ
    ถึงวันอาทิตย์ มีชาวโลกถูกจำกัดให้อยู่กับบ้านแล้วเกือบ 1,000 คน โดยมีอย่างน้อย 35 ประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์หรือสั่งปิดประเทศ และล่าสุด รัฐบาลอินเดียทดสอบใช้มาตรการเคอร์ฟิว 14 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 07.00 น.ถึง 21.00 น.ของวันอาทิตย์ ตามคำประกาศของนายกฯ นเรนทรา โมดี เมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อทดสอบความสามารถในการต่อสู้กับโควิด-19 โดยขอให้ประชาชนมากกว่า 1,000 ล้านคนอยู่แต่ในเคหสถานช่วงเวลาดังกล่าว 
    เมื่อวันเสาร์ อิตาลีมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 793 คน มากที่สุดนับแต่มีการระบาดในประเทศเมื่อ 1 เดือน ยอดสังเวยรวมเป็น 4,825 ราย มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในจีนและอิหร่านรวมกัน โดยอัตราการเสียชีวิตที่นี่สูงถึง 8.6% เมื่อคืนวันเสาร์นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ประกาศมาตรการเพิ่มเติมด้วยการสั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่จำเป็นทุกแห่งทั่วประเทศ 
    สเปนเป็นประเทศยุโรปที่สถานการณ์รุนแรงรองจากอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์มีคนเสียชีวิตอีก 394 ราย เพิ่ม 30% จากวันก่อนหน้านั้น ยอดรวมอยู่ที่ 1,720 ศพ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,646 ราย เพิ่มขึ้น 14.6% ยอดรวมเป็น 28,572 ราย มากเป็นอันดับ 3 ของโลกแล้ว 
    สหรัฐอเมริกาที่อยู่อีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ก็มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่องเช่นกัน ยอดรวมถึงวันอาทิตย์มีผู้เสียชีวิตแล้ว 348 คน จากผู้ติดเชื้อ 26,900 คน หลายมลรัฐใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดธุรกิจร้านค้าและขอให้ประชาชนอยู่บ้าน อาทิ รัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์, นครชิคาโก และนครลอสแองเจลีส กระทบต่อประชากรอเมริกันมากกว่า 1 ใน 3 
    รัฐบาลอังกฤษขอให้ผับบาร์, ภัตตาคาร และโรงหนังโรงละครทั่วประเทศปิดบริการ พร้อมกับเตือนประชาชนอย่าได้แตกตื่นซื้อของกักตุน นายกฯ บอริส จอห์นสัน กล่าวเรียกร้องเมื่อวันอาทิตย์ให้ประชาชน 1.5 ล้านคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเก็บตัวอยู่ในบ้าน โดยเตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ฝั่งเอเชีย จีนรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อวันอาทิตย์ โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 46 ราย ทั้งหมดยกเว้น 1 รายเป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 6 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 81,054 ราย เสียชีวิต 3,261 ราย
    มาเลเซียเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 123 คนในวันอาทิตย์ ยอดรวมเป็น 1,306 คน เสียชีวิต 10 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 34 คนโยงถึงการชุมนุมทางศาสนาที่มัสยิดชานกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อปลายเดือนก่อน ส่วนอินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 64 คน เสียชีวิตอีก 10 คน ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 514 คน เสียชีวิต 48 คน
    ภูมิภาคตะวันออกกลางยังต้องเฝ้าระวังอย่างสูง อิหร่านยังคงไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนประเทศอื่นๆ ในวันอาทิตย์มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 129 ราย ยอดรวมเป็น 1,685 ศพแล้ว ผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,028 รายใน 24 ชั่วโมง รวมเป็น 21,368 ราย โดยอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุด ยังยืนกรานไม่รับความช่วยเหลือจากสหรัฐ ส่วนอิรัก เพื่อนบ้านของอิหร่าน รัฐบาลขยายการล็อกดาวน์ทั่วประเทศไปถึงวันที่ 28 มีนาคม อิรักมีผู้ติดเชื้อ 233 ราย เสียชีวิต 20 ราย
    รัฐบาลออสเตรเลียก็ขยายคำสั่งล็อกดาวน์เช่นกัน โดยขอให้ประชาชนงดการเดินทางภายในประเทศ ผับ, บาร์, โรงยิม, โรงหนัง และศาสนสถานต้องปิดตั้งแต่เที่ยงวันของวันจันทร์ ภัตตาคารร้านอาหารขายได้เฉพาะนำกลับบ้านเท่านั้น ช่วงไม่กี่วันมานี้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,315 รายแล้ว เสียชีวิต 7 ราย
    ทวีปแอฟริกามีผู้ติดเชื้อรวมกันมากกว่า 1,000 ราย รัฐบาลของหลายประเทศสั่งห้ามการชุมนุม สั่งปิดโรงเรียน โบสถ์ มัสยิด ร้านอาหารและปิดสนามบิน เมื่อวันอาทิตย์รวันดาเป็นชาติล่าสุดที่สั่งชัตดาวน์ทั่วประเทศและควบคุมการผ่านแดน
    ในลาตินอเมริกา เอลซัลวาดอร์และกัวเตมาลาประกาศเคอร์ฟิวและเริ่มใช้มาตรการกักกันเช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านหลายชาติ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"